
จากกรณีที่มีคณะครูกว่า
50 คน
ได้ยื่นหนังสือร้องเรียนเกี่ยวกับความไม่โปร่งใสในการบริหารจัดการภายในโรงเรียนเทศบาล
4 (บ้านเชียงราย) ของนางณพัภรชญาธ์ สุวรรณเนตร
ผู้อำนวยการสถานศึกษา มายัง นายกิตติภูมิ นามวงค์ นายกเทศมนตรีนครลำปาง เพื่อเรียกร้องให้ตรวจสอบและดำเนินการทางวินัยกับผู้อำนวยการโรงเรียน
โดยล่าสุดทางกลุ่มผู้ปกครองได้รวมตัวกันไปพบผู้อำนวยการที่โรงเรียนเทศบาล 4 เพื่อขอคำชี้แจงเรื่องค่าใช้จ่ายเครื่องแบบ
เป็นเข็มกลัดและโบว์ที่ราคาสูงเกินจริงกว่าปกติ 5-10 เท่าตัว
กลับไม่พบตัวแต่อย่างใด
นายกิตติภูมิ
นามวงค์ นายกเทศมนตรีนครลำปาง เปิดเผยว่า เรื่องเกิดขึ้นมานานแล้ว
โดยได้พยายามประคับประคองเพื่อให้การบริหารงานในโรงเรียนขับเคลื่อนได้
ไม่ให้กระทบกับการเรียนการสอนของเด็ก จนในที่สุดเรื่องทั้งหมดคงจะเกิดจากความเหลืออดของครูในโรงเรียน
และผู้ปกครอง ทำให้ปะทุขึ้น
ซึ่งทางครูเกือบทั้งหมดได้มายื่นหนังสือกล่าวหาผู้อำนวยการโรงเรียนว่ามีการทุจริตในหลายเรื่อง
มากกว่า 10 เรื่อง เช่นเดียวกับกลุ่มผู้ปกครองที่กล่าวหาใกล้เคียงกัน เช่น การเงิน
อุปกรณ์ สวัสดิการ
การบริหารจัดการในโรงเรียน เป็นต้น
ซึ่งตนเองได้รับเรื่องและพบกับผู้ร้องด้วยตัวเอง จากนั้นได้ทำหนังสือไปถึงคณะกรรมการพนักงานเทศบาลจังหวัดลำปาง
(ก.ท.จ.) เพื่อแก้ปัญหาในเบื้องต้น เนื่องจากเป็นการกล่าวหาโดยฝ่ายเดียว
โดยเฉพาะเรื่องของครู ต้องดำเนินการให้รอบคอบ เพราะอาจจะกระทบกับตัวครูเอง
และกระทบไปถึงการเรียนการสอนของเด็กนักเรียนด้วย
ในส่วนของทางเทศบาลเอง
ได้มีการตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงทั้งหมดทุกเรื่อง
ซึ่งทางคณะกรรมการฯก็ได้มีการตรวจสอบค้นหาข้อมูลเอกสารหลักฐานในประเด็นที่ถูกร้องเรียน
ไม่น่าจะเกิน 2
สัปดาห์จะสรุปได้ว่าข้อร้องเรียนทั้งหมดมีมูลความจริง
ตามที่คณะครูและผู้ปกครองได้ร้องเรียนหรือไม่
นายกิตติภูมิ
กล่าวว่า
เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบเรื่องการบริหารในโรงเรียน และความขัดแย้งในโรงเรียน
จึงได้ทำเรื่องเสนอ ก.ท.จ.เพื่อขอย้ายผู้อำนวยการโรงเรียนเทศบาล 4
ไปอยู่ที่โรงเรียนเทศบาล 3
สลับกันตามมติของ ก.ท.จ.
โดยได้มีการย้ายแล้วเมื่อวันที่ 4 ก.ค. 60 ที่ผ่านมา
ในตอนนี้ต้องรอผลการสวนสวนข้อเท็จจริงของคณะกรรมการฯเป็นที่ตั้ง หากพบว่ามีความผิด
ต้องมีการตั้งคณะกรรมการสอบสวนทางวินัย มี 2 กรณีคือ
ผิดวินัย เป็นการตักเตือน ตัดเงินเดือน ภาคทัณฑ์
และความผิดวินัยร้ายแรง คือ ให้ออก หรือ ปลดออก ยืนยันว่าไม่มีการวิ่งเต้น
หรือไม่มีการขอเบี่ยงเบนผลการสอบสวนได้ งานนี้ถ้าผิดตนเองไม่เอาไว้อย่างแน่นอน แต่ถ้าเขาไม่ผิดก็ต้องคืนความยุติธรรมให้เขา
นายกเทศมนตรี
กล่าวอีกว่า
ผอ.คนนี้เคยโดนร้องเรียนมาแล้วครั้งหนึ่งแล้ว
และมีการตั้งกรรมการสอบสวน
และสรุปออกมาว่าผิดวินัยไม่ร้ายแรง จึงได้เรียกมาว่ากล่าวตักเตือน ส่วนเรื่องอื่นๆไม่ได้มีการร้องเรียนเข้ามา
และไม่มีข้อมูลที่จะเอาผิดกับเขาได้
ด้านนางพรทิพย์
วิสารทวรากูล เจ้าของร้านตะวันกาเม้นท์ เปิดเผยว่า
ทางร้านได้จำหน่ายชุดพื้นเมืองให้กับโรงเรียนเทศบาล 4 มานานแล้ว
ซึ่งตนเองเคยไปร้องเรียนนายกฯแล้วครั้งหนึ่ง ว่าผอ.ค้างจ่ายค่าเสื้อผ้าเด็กนักเรียน
1.9 แสนบาท ทางเทศบาลจึงให้นิติกรมาเจราจรจนสัญญาว่าจะทยอยจ่าให้เดือนละ 1 หมื่นบาท จนถึงตอนนี้ก็ยังค้างจ่ายอยู่อีก
4 หมื่นบาท จนมาระยะหลังนี้ทาง
ผอ.ไม่มาสั่งชุดพื้นเมืองที่ร้าน แต่ไปสั่งที่อื่นแทน
โดยได้มีการทำบิลและตรายางปลอมเป็นชื่อร้าน
ซึ่งเรื่องนี้เกิดขึ้นเมื่อประมาณกลางปี 2559
ที่ตนเองทราบเรื่องเพราะทางผู้ปกครองหลายคนได้มาต่อว่าที่ร้านว่าเสื้อผ้าที่ได้ไปไม่มีคุณภาพ
ตนเองจึงได้ตรวจสอบความจริงจนทราบว่า ผอ.มีการปลอมแปลงใบเสร็จของทางร้าน
ไปซื้อเสื้อผ้าจากร้านอื่น แต่ออกใบเสร็จปลอมเป็นชื่อร้านของตนเอง
จึงได้ไปลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานว่ามีกรณีนี้เกิดขึ้น
และไม่ให้ทำเช่นนี้อีก แต่ไม่ได้แจ้งความเอาผิด เนื่องจากเห็นว่า ผอ.อายุยังน้อย
อนาคตยังไปได้อีกไกล
ทั้งนี้
ผู้สื่อข่าวได้ติดต่อสอบถามไปยัง นางณพัภรชญาธ์ สุวรรณเนตร ผู้อำนวยการสถานศึกษาโรงเรียนเทศบาล
4 (บ้านเชียงราย) ตามเบอร์โทรศัพท์ที่ประสานจากเจ้าหน้าที่
พบว่ามีคนรับสายเป็นหญิงแต่บอกว่าตนเองไม่ใช่ ผอ.
ซึ่งขณะนี้
ผอ.อยู่ระหว่างการรวบรวมเอกสารยื่นชี้แจงต่อคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง คงจะไม่สะดวกให้ข้อมูลใดๆกับผู้สื่อข่าว
(หนังสือพิมพ์ลานนาโพสต์ ฉบับที่ 1136 วันที่ 7 - 13 กรกฎาคม 2560)
0 ความคิดเห็น:
โพสต์ความคิดเห็น