เกิดอุบัติเหตุสลด สาวขับเก๋งชนกับรถม้าจนทำให้ม้าไส้แตกตายคาที่ ส่วนผลคดีชาวบ้านหวั่นจะมีการลำเอียงเพราะมีการตรวจแอลกอฮอล์เพียงฝ่ายสารถีรถม้า ทางเจ้าหน้าที่คงต้องสอบสวนใครผิดถูกอย่างละเอียดอีกครั้ง
เมื่อเวลาประมาณ
19.00 น.วันที่ 27 สิงหาคม 2559 เจ้าหน้าที่ตำรวจศูนย์รับแจ้งเหตุฉุกเฉิน 191
ภูธรจังหวัดลำปาง
ได้รับแจ้งจากพลเมืองดีว่ามีอุบัติเหตุรถยนต์เก๋งชนกับรถม้าทำให้มีม้าตายคาที่
ส่วนสารถีรถม้า และรถยนต์คู่กรณีได้รับบาดเจ็บ เหตุเกิดบนถนนสายลำปาง แจ้ห่ม บริเวณจุดกลับรถ
เยื้องหน้าโรงงานไทยเซรามิก เขตบ้านวังหม้อ หมู่ 2 ต.ต้นธงชัย อ.เมืองลำปาง
เบื้องต้นจึงแจ้งต่อไปยัง สภ.ทุ่งฝาย
และเจ้าหน้าที่สมาคมกู้ภัยต้นธงชัยออกตรวจสอบและให้การช่วยเหลือ
จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุ
ซึ่งเป็นจุดกลับรถขาเข้าเมือง
พบมีรถม้าล้มตะแคงข้างอยู่ใกล้กันพบมีม้าตัวสีลายน้ำตาลขาวนอนตายไส้ไหลทะลักออกมากองอยู่กับพื้นถนน
สร้างความสลดหดหู่ใจให้กับชาวบ้านที่ผ่านไปมาเป็นอย่างมาก
ส่วนสารถีรถม้าทราบชื่อคือนายอินปั๋น หรือหลาน
ณ จันตา อายุ 75 ปี เป็นราษฎรบ้านเลขที่ 529 บ้านวังหม้อ หมู่ 2 ต.ต้นธงชัย
อ.เมืองลำปาง ได้รับบาดเจ็บศีรษะแตกเลือดไหลอาบท่วมตัวและยังมีบาดแผลตามร่างกายอีกหลายแห่ง
ส่วนรถคู่กรณีโดยจอดอยู่ในบริเวณเดียวกัน
เป็นรถยนต์เก๋งโตโยต้า สีดำ หมายเลขทะเบียน กน 6476 ลำปาง
สภาพรถด้านหน้าพังเสียหาย ซึ่งคนขับได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย รออยู่ในที่เกิดเหตุ
ทราบชื่อต่อมาคือนางสาวสุมาลี สุภาสืบ
อายุ 27 ปี เป็นราษฎรบ้านแพะหนองแดง ต.ทุ่งฝาย อ.เมือง จ.ลำปาง
ทำงานอยู่ในสถานบันเทิงชื่อดังแห่งหนึ่งของจังหวัดลำปาง
จากการสอบสวนผู้ที่เห็นเหตุการณ์ทราบว่า
ก่อนเกิดเหตุ รถม้าของนายอินปั๋น หรือลุงหลาน ขับไปรับบริการท่องเที่ยงจากตัวเมืองลำปาง
และกำลังจะเข้าบ้าน ขณะที่มาจอดชะลอ ตรงบริเวณจุดกลับรถจะเลี้ยวเข้าซอยเพื่อจะกลับเข้าบ้านพักผ่อน
ก็ได้มีรถยนต์คู่กรณี ขับมาทางตัวอำเภอแจ้ห่มด้วยความเร็ว
พุ่งเข้าชนม้าที่ลากรถอยู่ จนร่างม้ากระเด็นหลุดออกจากรถไถลไปไกล และไส้แตก ตายในที่เกิดเหตุทันที
ส่วนลุงหลานก็ร่วงตกจากรถม้าและไถลไปกับพื้นถนนจนได้รับบาดเจ็บดังกล่าว
หลังเกิดเหตุก็มีชาวบ้านใกล้เคียงได้เข้ามาช่วยคนเจ็บและแจ้งให้ทางเจ้าหน้าที่เข้ามาตรวจสอบและช่วยเหลือ
สำหรับม้าของลุงหลาน
ทราบว่า ชื่อเจ้าลาย เป็นมาเพศเมีย อายุประมาณ 6 ปี
โดยได้ใช้งานคู่ทุกข์คู่ยากกันมานาน
เจ้าของรักมากเนื่องจากเหลือม้าใช้งานลากรถอยู่เพียงตัวเดียว หลังจากเกิดเหตุได้นำซากไปขุดหลุมฝังไว้แถวบ้าน
เพราะสงสารม้าที่ถูกรถชนจนเสียชีวิต
จากอุบัติเหตุที่เกิดขึ้น
ชาวบ้านที่เห็นเหตุการณ์และที่มามุงดูต่างก็พากันสงสารม้า
และเจ้าของรถม้าเป็นอย่างมาก เพราะหลังมีการตรวจที่เกิดเหตุชาวบ้านกลัวว่าจะเกิดความลำเอียงกับคดีที่เกิดขึ้น
เพราะสังเกตเห็นว่าได้มีการนำตัวสารถีรถม้าไปตรวจหาแอลกอฮอล์ในร่างกายเพียงฝ่ายเดียว
อย่างไรก็ดี ในคดีนี้สร้างความสนใจให้กับชาวบ้านเป็นอย่างมาก
ซึ่งต้องรอผลการสอบสวนของเจ้าหน้าที่เจ้าของคดีอีกครั้ง
(หนังสือพิมพ์ลานนาโพสต์ ฉบับที่ 1094 วันที่ 2 - 8 กันยายน 2559)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น