กฟผ. ห่วงใยประชาชน เดินหน้าแก้ปัญหาไฟป่าและ PM2.5 อย่างตรงจุด พัฒนาแอปพลิเคชันวิเคราะห์หาสาเหตุ ระงับไฟป่าได้อย่างแม่นยำ ตรวจวัดค่าฝุ่นได้แบบเรียลไทม์ วางแผนการใช้ชีวิตอย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมเชิญชวนร่วมระดมทุนผ่านมูลนิธิเขื่อนยันฮี สนับสนุนจิตอาสาดับไฟป่าในพื้นที่ภาคเหนือ
นายชัยวุฒิ หลักเมือง ผู้ช่วยผู้ว่าการบริหารจัดการความยั่งยืน ในฐานะรองโฆษกการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เปิดเผยว่า สถานการณ์ฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอน หรือ PM2.5 ที่ทวีความรุนแรงขึ้นทุกปี ส่งผลให้หลายจังหวัดในภาคเหนือ ติดอันดับเมืองที่มีมลพิษทางอากาศแย่ที่สุดในโลก คุณภาพอากาศอยู่ในเกณฑ์ต่ำกว่าค่ามาตรฐาน ส่งผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชน สาเหตุสำคัญมาจากความแห้งแล้งตามฤดูกาลทำให้เกิดไฟป่า รวมถึงการเผาเศษวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตร กฟผ. ได้ดำเนินการอย่างต่อเนื่องเพื่อจัดการปัญหาดังกล่าวในเชิงรุก โดยจัดตั้งทีมจิตอาสาช่วยป้องกันและดับไฟป่าในพื้นที่รอบเขตเขื่อนและโรงไฟฟ้าของ กฟผ. โดยเฉพาะในพื้นที่ภาคเหนือ ลาดตระเวน เตรียมพร้อมตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อต่อสู้กับไฟป่า โดยประชาชนมีส่วนร่วมในภารกิจสำคัญนี้ได้ ผ่านมูลนิธิเขื่อนยันฮี กฟผ. ซึ่งเปิดระดมทุนเพื่อจัดหาวัสดุอุปกรณ์สนับสนุนการทำงานของจิตอาสาดังกล่าว อาทิ เครื่องเป่าลมเพื่อกำจัดเชื้อเพลิง รองเท้าเดินป่า ถุงมือกันไฟ รวมถึงปัจจัยและสิ่งของที่จำเป็นสำหรับเจ้าดับไฟป่า เช่น อาหารและน้ำ ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เว็บไซต์มูลนิธิเขื่อนยันฮี https://yanheefoundation.or.th/ ภายในวันที่ 30 เมษายน นี้
ทั้งนี้ เพื่อเฝ้าระวังและป้องกันปัญหาสุขภาพจาก PM2.5 กฟผ. ได้ร่วมกับ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย Dust Boy มหาวิทยาลัย เชียงใหม่ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ติดตั้งเซนเซอร์ตรวจวัดคุณภาพอากาศ พร้อมรายงานผลคุณภาพอากาศแบบเรียลไทม์ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ทางแอปพลิเคชัน Sensor for All ที่เชื่อมโยงข้อมูลจากเซนเซอร์ตรวจวัดคุณภาพอากาศและปริมาณฝุ่นละอองที่ติดตั้งบริเวณโรงไฟฟ้า โรงงานขนาดใหญ่ สี่แยกไฟแดงที่มีการจราจรหนาแน่น สถานที่ท่องเที่ยวประจำจังหวัดรวมกว่า 1,200 จุดทั่วประเทศ เพื่อให้ประชาชนสามารถวางแผนการใช้ชีวิตให้เหมาะสมกับสภาพอากาศ
นอกจากนี้ กฟผ. ได้ร่วมมือกับ คณะผู้วิจัยจากศูนย์นาโนเทคโนโลยีแห่งชาติ (NANOTEC) สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) พัฒนาระบบต้นแบบสำหรับตรวจวัดและจำแนก PM2.5 แอปพลิเคชัน Air Detector เพื่อหาแหล่งกำเนิดและจำแนกเอกลักษณ์ฝุ่นว่ามาจากการเผาไหม้ หรือฝุ่นละอองประเภทใด โดยทดลองในพื้นที่รอบชุมชน อ.แม่เมาะ จ.ลำปาง อีกทั้งพัฒนาแอปพลิเคชัน Lampang Hotspot ด้วยการใช้ระบบเซนเซอร์และดาวเทียม เพื่อตรวจจับจุดความร้อน ที่เกิดจากการเผาป่าในพื้นที่จังหวัดลำปางให้มีความแม่นยำ รายงานความเสี่ยงผ่านเว็บไซต์ เป็นฐานข้อมูลให้เจ้าหน้าที่ดับไฟป่าสามารถเข้าระงับไฟป่าได้อย่างรวดเร็ว โดยพื้นที่ต่าง ๆ ทั่วประเทศสามารถนำแอปพลิเคชันดังกล่าวไปประยุกต์ใช้ต่อไปได้ โดยในอนาคต จะพัฒนาให้อยู่ใน City Da-ta Platform ของโครงการแม่เมาะเมืองน่าอยู่เป็นข้อมูลในการพัฒนาเมืองต่อไป
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น