กลุ่มวิสาหกิจเลี้ยงวัวเนื้อ
อ.แจ้ห่ม จ.ลําปาง 50 ราย
นําโดยประธานวิสาหกิจชุมชนฯ ต.ปงดอน
พร้อมทนายความเข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตํารวจ สภ.แจ้ห่ม
หลังถูกบริษัทเอกชนชักชวนมากู้เงิน ธกส. จนติดหนี้รวมหลาย 10
ล้านบาท แต่ถูกบริษัทลอยแพโครงการ คาดถูกหลอกเอาหน่วยงานของรัฐมาอ้าง
เมื่อเวลา
10.00
น. วันที่ 4 ก.ค. 68 ที่
สถานีตํารวจภูธรแจ้ห่ม จ.ลําปาง ได้มีกลุ่มวิสาหกิจเลี้ยงวัวเนื้อ 3 กลุ่ม จํานวน 50 คน นําโดยนายสัญญา โลมากุล
ประธานวิสาหกิจชุมชนกลุ่มเลี้ยงวัวคุณภาพ ต.ปงดอน อ.แจ้ห่ม จ.ลําปาง
พร้อมด้วยนายวราวุฒิ หน่อคํา ทนายความ ได้เข้าแจ้งความกับ ร.ต.อ.ยน เตชะลือ รอง สว.(สอบสวน) สภ.แจ้ห่ม โดยนายสัญญา โลมากุล
ประธานวิสาหกิจชุมชนผู้เลี้ยงวัว ต.ปงดอน
ได้ยื่นเอกสารสําคัญของบริษัทเอกชนรายหนึ่ง
เกี่ยวโครงการเลี้ยงวัวเนื้อคุณภาพไว้เป็นหลักฐานกับพนักงานสอบสวน และนายวราวุฒิ
หน่อคํา ทนายความ ไว้อีกส่วนหนึ่ง
นายสัญญา
กล่าวว่า หลังกลุ่มของตนเอง จํานวน 50 ราย
ได้เข้าโครงการกับบริษัทเอกชนรายนี้ ครั้งแรกก็ดูเหมือนจะได้ดูแล และติดตามจากเจ้าหน้าที่ของบริษัทเป็นอย่างดี
และชักชวนกลุ่มผู้เลี้ยงวัวมากู้เงินจากธนาคาร ธกส. โดยอ้างโครงการนี้
ก่อนรวบรวมกลุ่มสมาชิกทั้งหมดไปอบรมกับทางบริษัทที่ จ.พะเยา
ดูแล้วโครงการนี้อาจจะสนับสนุนชาวบ้านได้ เพราะมี ธกส. สนับสนุนและกู้เงิน จาก
ธกส.มาลงทุนรายละ 3 rแสนบาท ถึง 5 แสนบาท
รวมแล้ว 3 กลุ่มนี้ เป็นเงินที่กู้มารวมประมาณ 10 ล้านบาท
จากนั้นเมื่อกลุ่มได้เงินมาก็ไปซื้อวัวเนื้อจากบริษัทนี้
บางราย 5
ตัว 7 ตัว และ 10 ตัว
มาเลี้ยง ตอนแรกหลังนําวัวมาเลี้ยงบางตัวเกิดตายไม่ทราบสาเหตุ
ทางบริษัทก็นําวัวมาทดแทนให้ แต่พอหลายเดือนวัวเกิดตายอีก
ทางบริษัทอ้างว่าไม่ว่าสามารถนําวัวมาทดแทนให้อีกแล้ว เพราะรับวัวเกิน 3 วันตามกติกา ทุกวันนี้กลุ่มผู้เลี้ยงวัวทั้งหมดต้องแบกภาระเลี้ยงวัวจากบริษัทที่เป็นวัวไร้คุณภาพ
บางตัวผสมพันธ์ไม่ติดเป็นส่วนใหญ่ ล่าสุดทางกลุ่มผู้เลี้ยงวัวทั้งหมดได้รับหนังสือติดตามเงินที่กู้มา
ทุกรายต้องส่งทั้งต้นทั้งดอกภายในเดือน กันยายน 2568 นี้
รวมเป็นกว่า 10 ล้าน
ด้านนายวราวุฒิ
หน่อคํา ทนายความ กล่าวว่า เคสนี้เหมือนชาวบ้านถูกหลอก
เพราะทางบริษัทอ้างว่าเป็นโครงการของรัฐ จึงมีความเชื่อถือและมั่นใจ หากโครงการนี้ไม่ดี ธนาคารคงไม่ปล่อยเงินให้กู้แน่นอน
เมื่อกู้เงินมาได้ก็ไปซื้อวัวจากบริษัทที่จัดมาให้บางตัวราคา 2-3 หมื่น แต่เป็นวัวด้อยคุณภาพผสมพันธ์ไม่ติด เมื่อทวงถามไปที่บริษัทก็ไม่สามารถติดต่อได้
เพราะมีแต่บริษัทแต่ไม่มีคนอยู่ ที่ผ่านมาชาวบ้านทําตามกติกาทุกอย่าง
แต่บริษัทผิดสัญญาชาวบ้านไม่ผิดสัญญา จึงสงสัยว่าถูกหลอกแล้ว ชาวบ้านจึงมาทวงความยุติธรรม
เพราะต้องแบกหนี้ วัวก็จะตายทั้งคอก ต่อมาพนักงานสอบสวนได้รับแจ้งความและตั้งข้อหาฉ้อโกง
จากทางบริษัทนี้แล้ว และได้เรียกเจ้าหน้าที่ของบริษัทเอกชนรายมาสอบสวน
ตามที่ระบุในเอกสารมาสอบสวนต่อไป
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น