จากกรณีที่เกิดเหตุการณ์ดินสไลด์บริเวณพื้นที่ทิ้งดินของเหมืองแม่เมาะ
พื้นที่ ต.บ้านดง อ.แม่เมาะ จ.ลำปาง เมื่อวันที่ 4 พ.ย.68
ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นจุดทิ้งดินขนาดใหญ่ มีความสูงกว่า 500
เมตร ส่งผลให้อาคารสำนักงานบริษัทผู้รับจ้างและทรัพย์สินได้รับความเสียหายในพื้นที่ประมาณ
1 ตารางกิโลเมตร แต่ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิตแต่อย่างใด
นางมะลิวรรณ
นาควิโรจน์ ประธานเครือข่ายสิทธิผู้ป่วยแม่เมาะ
ได้ออกมาแสดงความคิดเห็นอย่างหนักแน่น
โดยตั้งคำถามถึงการตรวจสอบและเกณฑ์วัดมาตรฐานในพื้นที่ทิ้งดิน
เนื่องจากเห็นว่าเหตุการณ์ดินสไลด์นี้ไม่ใช่ครั้งแรก แต่เกิดขึ้นซ้ำ ๆ
หลายครั้งในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา
"เหตุใดจึงยังคงมีเหตุการณ์ดินสไลด์เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง" นางมะลิวรรณกล่าว พร้อมตั้งข้อสังเกตว่า หากการสร้างเหมืองได้ดำเนินการตามมาตรฐานสากลจริงดังที่ กฟผ. กล่าวอ้าง การเกิดเหตุซ้ำ ๆ เช่นนี้อาจแสดงให้เห็นว่า มาตรฐานที่กล่าวอ้างนั้นไม่มีอยู่จริง ไม่มีประสิทธิภาพ หรือไม่มีมาตรการป้องกันเลย
ห่วงชุมชนขอบเหมืองเสี่ยงอันตราย
ประธานเครือข่ายฯ
ได้แสดงความกังวลอย่างยิ่งต่อความปลอดภัยของประชาชนในพื้นที่โดยรอบเหมืองรัศมี
5 กิโลเมตร โดยเฉพาะชุมชนที่อาศัยอยู่บริเวณขอบเหมือง เช่น บ้านห้วยคิง
และตั้งคำถามถึงความรับผิดชอบหากเกิดเหตุการณ์ดินสไลด์จนทำให้บ้านเรือนเสียหายและมีผู้เสียชีวิต
ว่า "ใครจะเป็นผู้รับผิดชอบ? หรือแก้ปัญหาด้วยการจ่ายเงินแล้วก็จบไป?"
นอกจากนี้
ยังตั้งข้อสังเกตถึงการมีสิ่งปลูกสร้างของบริษัทรับเหมาขุดขนหน้าดินตั้งอยู่จนคล้ายเป็นชุมชนขนาดใหญ่ในพื้นที่เหมือง
ซึ่งถือเป็นเรื่องผิดสังเกตเมื่อเทียบกับชุมชนที่อาศัยอยู่บริเวณขอบเหมือง
เรียกร้องผู้บริหาร
"ยอมรับและแก้ไขปัญหาอย่างตรงไปตรงมา"
นางมะลิวรรณ
ได้เรียกร้องให้ผู้บริหารเหมืองและผู้ที่เกี่ยวข้อง
"ยอมรับและแก้ไขปัญหาอย่างตรงไปตรงมา"
เนื่องจากเหมืองแม่เมาะเป็นเหมืองขนาดใหญ่ของเอเชีย และเป็นหน่วยงานรัฐที่ต้องมีกฎหมายกำกับอย่างชัดเจน
"วิศวกร
ผู้จัดการเหมือง และผู้บริหารเหมือง
จะกล่าวอ้างว่าไม่ทราบหรือไม่รู้เรื่องไม่ได้" พร้อมกับเน้นย้ำว่า ความรับผิดชอบหลักคือการดำเนินการทุกอย่างให้ครบถ้วนตามเงื่อนไขแนบท้ายประทานบัตร
หรือตามรายงานที่ขออนุญาตการเปิดเหมือง ซึ่งหากมีการปฏิบัติตามอย่างครบถ้วน
ปัญหาก็จะไม่เกิดขึ้น และชาวบ้านก็จะไม่มีข้อโต้แย้งกับ กฟผ.
ขณะที่
กฟผ. แม่เมาะ ได้ออกแถลงการณ์ 2 ฉบับ
ชี้แจงว่าพื้นที่เกิดเหตุได้รับอนุญาตให้ดำเนินการทำเหมืองและทิ้งมูลดินทราย
และไม่ส่งผลกระทบกับชุมชนโดยรอบ
รวมถึงไม่กระทบต่อการจ่ายกระแสไฟฟ้าในพื้นที่ภาคเหนือ อย่างไรก็ตาม กฟผ.
จะดำเนินการเก็บข้อมูลการเคลื่อนตัวเพิ่มเติมเพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงของเหตุการณ์ในครั้งนี้ต่อไป



ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น