
คาดการณ์กันมานานว่า หนังสือพิมพ์กำลังจะตาย แต่เอาเข้าจริงทีวีดิจิตอล ที่วาดฝันกันไว้สวยหรูเมื่อกว่า 2 ปีก่อน กลับตายก่อนและทยอยกันล้มหายตายจากไป ผ่านไปเพียงปีเศษๆ ไทยทีวี และโลก้า ก็โยนผ้ายอมแพ้เป็นเจ้าแรก เหลือเพียงช่องบันเทิง และช่องที่มีฐานสิ่งพิมพ์แข็งแกร่งที่ยังอยู่รอด
แต่ไม่เกิน 5 ปีจากนี้ 24 ช่อง จะเหลือไม่ถึง 10 ช่อง
ความคมชัด
ของภาพและเสียงอันเป็นคุณสมบัติที่โดดเด่นของ
การส่งสัญญาณผ่านระบบดิจิตอล มาช้ากว่ากาลเวลา
เพราะในโลกที่เทคโนโลยีการสื่อสาร เปลี่ยนแปลง ก้าวหน้านับกันเป็นนาที
ผู้คนสามารถเข้าถึงข้อมูล ข่าวสาร สาระบันเทิงในช่องทางที่หลากหลาย
โดยไม่ได้อยู่ภายใต้เงื่อนไขของเวลาและสถานที่อีกต่อไป
ทีวีดิจิตอลก็กลายเป็นเพียงช่องทางหนึ่งที่ล้าสมัย และไม่พัฒนา
สมาร์ทโฟน เป็นช่องทางสำคัญ ในการเลือกรับสาร
ในมหาสมุทรแห่งข้อมูล ข่าวสาร ทีวีดิจิตอล
เป็นเพียงฟองอากาศเล็กๆที่ล่องลอยอย่างไร้จุดหมาย
ทุกวันนี้ คนดูยังไม่เห็นเนื้อหาที่แตกต่างของทีวีดิจิตอล
ที่คุยกันคำโตก่อนประมูลคลื่น เพราะสุดท้ายแล้ว เกือบทุกๆช่องก็ทำเหมือนกัน
มีเกมโชว์เหมือนกัน มีประกวดร้องเพลงในช่วงก่อนไพรม์ไทม์เหมือนกัน มีรายการเล่าข่าวเหมือนกัน ผ่านมาระยะหนึ่ง
พวกเขาก็พบความจริงว่า เกมโชว์และความบันเทิงนั้นคือเนื้อหาที่ครองใจคนส่วนใหญ่ และพยายามทำให้เหมือนเขา
แต่ก็ไม่สามารถเอาชนะหรือแชร์ส่วนแบ่งบันเทิง จากรายการหรือ ช่องบันเทิงดั้งเดิมที่แข็งแกร่งได้
ความแข็งแกร่งของช่องข่าว
ถูกลดทอนด้วยรายการเกมส์โชว์ และบันเทิง ในขณะที่ช่องบันเทิง ก็พยายามสร้าง brand
awareness เรื่องข่าว
คล้ายให้รู้ว่าไม่ใช่มีเพียงบันเทิงเริงรมย์เท่านั้น หากยังมีความเข้มข้นของข่าวอยู่ด้วย
แน่นอนว่าไม่ประสบความสำเร็จมากนัก โดยเฉพาะเมื่อจับดารา
เซเลบทั้งหลายมานั่งอ่านข่าว แต่ไม่เข้าใจเรื่องข่าว
แต่เมื่อความคาดหวังของผู้บริโภคข่าวสารอยู่ที่เกมส์โชว์
และความบันเทิง เรื่องข่าวก็เป็นมูลค่าเพิ่มสำหรับเขา มีก็ได้ ไม่มีก็ไม่เป็นไร
เพราะรอบตัววันนี้ก็ท่วมท้นไปด้วยข้อมูล ข่าวสารที่วิ่งมาชนตัวเราตลอดเวลาอยู่แล้ว
ดังนั้น จึงไม่แปลก ที่ผลประกอบการกลุ่มทีวีดิจิตอล
ที่อยู่ในตลาดหุ้น ไตรมาสแรกปีนี้ ขาดทุนกันโดยทั่วหน้า
โดยเฉพาะช่องข่าวที่เคยฝันว่าจะเป็นเบอร์หนึ่งในวงการ เหลือเพียงช่อง 3 เวิร์คพอยด์
และอาร์เอสเท่านั้น ทียังมีกำไรต่อเนื่อง ส่วนทีวีดิจิตอลในกลุ่มสื่อยักษ์ใหญ่
ไทยรัฐ และเดลินิวส์ ไม่มีข้อมูล
ความล่มสลายขององค์กร แยกไม่ออกจากตัวคน เมื่อ
กสทช.ตีธงเขียว ให้สัญญาณเริ่มแข่งขัน เมื่อเดือนเมษายน 2557
ปรากฏการณ์ “มนุษย์ทองคำ”
ย้ายค่าย ตั้งราคาต่อรอง ก็คึกคักยิ่ง เพราะในขณะเริ่มต้นทีวีดิจิตอลนั้น คนข่าวระดับชำนาญการที่สามารถเริ่มต้นงานได้มีน้อยอย่างยิ่ง
ไม่แตกต่างไปจากปรากฏการณ์มนุษย์ทองคำช่วงก่อนหน้าปี 2540 ที่คนข่าวหนังสือพิมพ์จำนวนไม่น้อยถูกซื้อตัว
ยังไม่ต้องกล่าวถึง
คนข่าวจำนวนหนึ่งที่ถูกยกขึ้นเป็นระดับชำนาญการ โดยที่อายุราชการยังน้อย
ความสามารถไม่ถึง ความรู้เรื่องข่าวมีปัญหา ความสำนึกเรื่องจริยธรรมต่ำ แต่กว่าจะรู้ความจริงก็สายเกิน
ความจริงที่ทีวีดิจิตอล
มิใช่สิ่งที่สังคมนี้ต้องการ บวกกับคุณภาพคนข่าวที่ทำได้ “ไม่ถึง”
ไม่สามารถแสดงความคิดเชิงสร้างสรรค์ให้เห็นความแตกต่างชัดเจน ไม่มีคุณภาพ
ไม่มีความรับผิดชอบ พร้อมๆกับความตายของไทยทีวี และโลก้า โพสต์ทีวี ที่ตั้งใจจะสานฝันกับไทยทีวี
ก็ต้องปลดคนงานออกจำนวนมาก
ตามมาด้วยวอยซ์ทีวี และสปริงนิวส์
ด้วยเหตุผลปรับโครงสร้างองค์กร เพื่อให้ขนาดของคนมีความกะทัดรัด
คล่องตัวในการทำงาน
ไม่เกินสิ้นปีนี้
จะเห็นการล่มสลายขององค์กรสื่อ การปลดคนงานในอุตสาหกรรมทีวีดิจิตอล ตามมาอีกหลายระลอก
(หนังสือพิมพ์ลานนาโพสต์ ฉบับที่ 1088 วันที่ 22 - 28 กรกฎาคม 2559)
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น