วันพุธที่ 27 กันยายน พ.ศ. 2566

ส.ส.ธนาธร ร่วมงานพิธีสักการะและสมโภชพระบรมราชานุสาวรีย์ ร.5 ที่ อ.งาว จ.ลําปาง


เมื่อเวลา 09.00 น.วันที่ 25 กันยายน 2566 ส.ส.ธนาธร โล่ห์สุนทร ส.ส.ลําปาง เขต2 พรรคเพื่อไทย ไปร่วมงานพิธีเปิดพระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่5 ณ ที่ว่าการอำเภองาว จ.ลำปาง

โดยมีนายชัชวาลย์ ฉายะบุตร ผวจ.ลำปาง เป็นประธานฝ่ายฆราวาส พระเดชพระคุณพระพรหมมงคลวัชโรดม (โอภาส โอภาโส)เจ้าอาวาสวัดจองคำพระอารามหลวง เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ โดยมีหน่วยงานราชการฝ่ายปกครองกำนัน -ผญบ.และประชาชนชาวอำเภองาวกว่า 1,000 คน มาร่วมพิธี


นายสมจิตร จุลเจริญ นายอำเภองาว กล่าวรายงานว่า ด้วยชาวอำเภองาวได้ดำเนินการก่อสร้างพระบรมราชานุสาวรีย์ รัชกาลที่5 ประดิษฐานขึ้นที่หน้าที่ว่าการอำเภองาว เพื่อให้ข้าราชการและประชาชนชาวอำเภองาวตลอดจนผู้มาติดต่องานราชการได้สักการะ เป็นที่พึ่งทางใจ และน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณที่มีต่อปวงเหล่าพสกนิกรชาวไทย ในการก่อสร้างพระบรมราชานุสาวรีย์ ร.5 ในครั้งนี้ชาวอำเภองาวได้รับความเมตาจากพระเดชพระคุณหลวงพ่อพระพรหมมงคลวัชโรดม(หลวงปู่โอภาส) มอบเงิน จำนวน 500,000 บาท เป็นทุนดำเนินงาน ชาวอำเภองาวและบุคคลทั่วไป ร่วมกันบริจาคสมทบจนประสบความสำเร็จ


ต่อมากลุ่มสตรีจิตอาสาจำนวน 700 คน จาก 10 ตำบล 58 หมู่บ้านได้ร่วมกันฟ้อนเล็บแบบล้านนา รำถวายอย่างสวยงามตระการตาแบบโบราณล้านนา

ด้านนายธนาธร โล่ห์สุนทร ส.ส.ลำปาง เขต2 พรรคเพื่อไทยได้แจกข้าวกล่องและน้ำดื่มให้กับประชาชนที่เดินทางร่วมงานและด้วย


Share:

วันอังคารที่ 26 กันยายน พ.ศ. 2566

“ททท. และ สบร. จับมือร่วมกันยกระดับบุคลากรภายในแหล่งท่องเที่ยวและแหล่งท่องเที่ยว เชิงการเรียนรู้ให้มีความสามารถในการจัด กระบวนการเรียนรู้อย่างสร้างสรรค์”




            วันที่ 24 กันยายน 2566 ที่ผ่านมา ดร.ทวารัฐ นายทวารัฐ สูตะบุตร ผู้อานวยการสานักงานบริหารและพัฒนา องค์ความรู้ (องค์การมหาชน) (สบร.) นายวินิจ รังผึ้ง ผู้อานวยการฝ่ายวิจัยและพัฒนาด้านการท่องเที่ยว การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ททท. ร่วมเป็นประธานในพิธีเปิดการอบรมเชิงปฏิบัติการ “การส่งเสริม กระบวนการเรียนรู้เชิงสร้างสรรค์ในรูปแบบการท่องเที่ยวเชิงความรู้” (Knowledge – based Tourism) ณ มหาวิทยาลัยสวนดุสิต ศูนย์การศึกษานอกที่ตั้งลำปาง




            การจัดกิจกรรมในครั้งนี้ เป็นกิจกรรมต่อยอดจาก การจัดทำบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) โครงการการส่งเสริมกระบวนการเรียนรู้สร้างสรรค์ในรูปแบบ การท่องเที่ยวเชิงความรู้ (Knowledge based - Tourism) เพื่อร่วมกันส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงความรู้ ให้กับแหล่งท่องเที่ยวและแหล่งเรียนรู้ ยกระดับบุคลากรภายในแหล่งท่องเที่ยวและแหล่งเรียนรู้ ให้สามารถจัดกระบวนการเรียนรู้อย่างสร้างสรรค์ เพื่อสร้างประสบการณ์ที่ดีและแปลกใหม่ให้กับนักท่องเที่ยว





            โดยภายใต้ความร่วมมือดังกล่าว ททท. และ สบร. ได้ร่วมกันจัดการอบรมเชิงปฏิบัติการ “การส่งเสริม กระบวนการเรียนรู้เชิงสร้างสรรค์ในรูปแบบการท่องเที่ยวเชิงความรู้ (Knowledge based - Tourism)” ในพื้นที่จังหวัดลำปาง ระหว่างวันที่ 24-26 กันยายน 2566 เพื่อส่งเสริมและพัฒนาแหล่งเรียนรู้ในชุมชนให้มี ทักษะในการออกแบบการเรียนรู้ที่น่าสนใจ เพื่อนำไปสู่การเป็นแหล่งเรียนรู้เพื่อการท่องเที่ยวเชิงความรู้ (Knowledge based – Tourism) ต่อไป




            กิจกรรมที่น่าสนใจจะเป็นกิจกรรมถอดความรู้ กิจกรรมเติมความรู้ในหัวข้อที่เกี่ยวกับสมรรถนะของมัคคุเทศก์ท้องถิ่น แนวคิดการออกแบบกิจกรรมสร้างสรรค์ แนวคิดการออกแบบเส้นทางความรู้ที่เชื่อมโยงกับบริบทชุมชน กิจกรรมออกแบบเส้นทางความรู้ กิจกรรมเชื่อมโยงความรู้ และการเยี่ยมชมแหล่งเรียนรู้ต่าง ๆ ในเมืองลำปาง ตาม concept เมืองแห่งมนต์เสน่ห์ของการการท่องเที่ยวที่ไม่หมุนไปตามกาลเวลา ที่ ต่อให้โลกจะก้าวไปเร็วขนาดไหน แต่เมื่อเดินทางมาท่องเที่ยวในจังหวัดลำปางจะทำให้ท่านได้ย้อนเวลากลับไป สัมผัสกับมนตราแห่งอดีต ที่ยังคงความสวยงามมาจนถึงปัจจุบัน ผ่านวัฒนธรรมที่หลากหลาย ทั้งไทย จีน พม่า อินเดีย เป็นต้น ประเพณีความเป็นอยู่ สถาปัตยกรรมที่ยังคงไว้ซึ่งกลิ่นไอของอดีต อย่าง เห็นได้ชัด รวมถึงแหล่งท่องเที่ยวต่าง ๆ ที่คอยให้ได้เดินทางไปสัมผัสถึงความสวยงามและประสบการณ์ที่ หลากหลายจากเมืองที่ไม่หมุนตามกาลเวลาแห่งนี้ อาทิ ย่านเมืองเก่า ตลาดจีน “กาดกองต้า” การนั่งรถม้าชม เมือง สถาปัตยกรรมเก่าแก่คู่บ้านคู่เมืองอย่างวัดพระธาตุลำปางหลวง ฯลฯ และวัฒนธรรมกลิ่นอายล้านนา ที่ยังปรากฏให้เห็น จากเสน่ห์ความหลากหลายของเมืองลำปางที่ทุกท่านจะได้มาสัมผัส เสมือนการย้อนเวลา กลับมา







            การอบรมเชิงปฏิบัติการในครั้งนี้จะทำให้ผู้เข้าร่วมกิจกรรมทุกท่านได้รับความรู้ความเข้าใจ เกี่ยวกับกระบวนการเรียนรู้เชิงสร้างสรรค์ และสามารถนำความรู้ที่ได้รับ ไปพัฒนากระบวนการทำงานและการ ให้บริการความรู้ ในแหล่งท่องเที่ยวของท่านได้อย่างมีประสิทธิภาพ อันจะนำไปสู่การนำเสนอประสบการณ์ การท่องเที่ยวอย่างสร้างสรรค์และแปลกใหม่ พร้อมรองรับนักท่องเที่ยวคุณภาพได้ต่อไป













Share:

(คลิป)กระบะชนกับรถจักรยานยนต์ ร่างหนุ่มคนขี่ลอยข้ามที่กั้นตกร่องน้ำบาดเจ็บ เจ้าหน้าที่กู้ภัยลงน้ำช่วยอย่างทุลักทุเล

 



เมื่อเวลาประมาณ 10.00 น. วันที่ 27 ก.ย.66 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เขลางค์นคร อ.เมืองลำปาง ได้รับแจ้งว่า เกิดอุบัติเหตุรถชนบริเวณด้านหน้าสถานีตำรวจทางหลวง 2 กองกำกับการ 5  ต.ชมพู อ.เมืองลำปาง มีผู้ได้รับบาดเจ็บ จึงประสานเจ้าหน้าที่กู้ภัยอัมรินทร์เข้าให้การช่วยเหลือ   





จากการตรวจสอบเป็นอุบัติเหตุรถยนต์ชนกับรถจักรยานยนต์  ในที่เกิดเหตุพบรถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้าเวฟ สีดำ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน มีการตกแต่งไฟไซเรนและติดอุปกรณ์สื่อสารด้านหน้ารถ   สภาพล้มอยู่กลางถนนพังเสียหาย ไฟหน้ารถหลุด ชิ้นส่วนแตกรองเท้าและหมวกกันน็อคตกกระจัดกระจาย  โดยพบผู้ขับขี่รถเป็นชาย 1 ราย กระเด็นตกลงไปในร่องน้ำสูงประมาณ 2 เมตร ยังได้สติอยู่ นอนร้องครวญครางเสียงดัง มีเลือดไหลบริเวณปาก  เจ้าหน้าที่กู้ภัย และคนขับรถกระบะคู่กรณี ได้รีบลงไปช่วยเหลือ นำตัวขึ้นมาอย่างทุลักทุเล เพราะชายคนดังกล่าวรูปร่างสูงใหญ่  และร้องอยู่ตลอดเวลา






เบื้องต้นพบว่าเป็นชายอายุประมาณ 25-30 ปี ไม่ทราบชื่อ เนื่องจากไม่พบบัตรประจำตัวประชาชน  สอบถามไม่ตอบใดๆ  ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงได้ทำการตรวจสอบทะเบียนรถจากป้ายภาษี ทราบว่าผู้ครอบครองรถมีภูมิลำเนาอยู่ ต.นาแส่ง อ.เกาะคา จ.ลำปาง



ส่วนรถคู่กรณีเป็นรถยนต์กระบะบรรทุกสินค้า  ยี่ห้อโตโยต้า สีขาว เลขทะเบียน 706 กรุงเทพมหานคร  จอดอยู่กลางถนนบริเวณหน้ารถฝั่งขวามีร่องรอยการชนจนยุบ ได้รับความเสียหาย  สอบถามชายคนขับรถ  ให้การว่า ตนเองจะเลี้ยวขวาไปทางคันคลองชลประทาน ส่วนรถจักรยานยนต์ได้ขับขี่มาจากทาง อ.เกาะคา มุ่งหน้าเข้าเมืองด้วยความเร็ว  ทำให้ชนกันอย่างจัง โดยร่างของผู้ขับขี่ได้กระเด็นข้ามที่กั้นตกลงไปในร่องน้ำดังกล่าว  

อย่างไรก็ตาม ทางร้อยเวรสอบสวน สภ.เขลางค์นคร ได้เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ เพื่อเก็บหลักฐานอย่างละเอียด และจะสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป






Share:

"ไพโรจน์"เป็นห่วงยาเสพติดระบาดหนัก ย้ำกำนัน-ผญบ.สอดส่อง


ส.ส.ไพโรจน์ โล่ห์สุนทร ระบบบัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย ประธานเปิดการประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2566 กำนัน-ผู้ใหญ่บ้านจังหวัดลำปาง ย้ำให้ทำหน้าที่บำบัดทุกข์บำรุงสุขประชาชน และให้มีความสามัคคีในหมู่คณะ

เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 26 กันยายน 2566 ที่ห้องประชุม อบจ.ลำปาง อ.เกาะคา จ.ลำปาง นายไพโรจน์ โล่ห์สุนทร ส.ส.ลำปาง  ระบบบัญชีร ายชื่อ พรรคเพื่อไทย เป็นประธานเปิดการประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2566 กำนัน-ผญบ.จังหวัดลำปาง  โดยมีนางสาวดวงรัตน์  โล่ห์สุนทร นายก อบจ.ลำปาง ให้เกียรติมาร่วมประชุมด้วย พร้อมกำนันและผู้ใหญ่บ้านจาก 13 อำเภอ ของ จ.ลำปาง นำโดย กำนันประสิทธิ์ ประสม นายกสมาคมกำนันผู้ใหญ่บ้านจังหวัดลำปาง  ประธานชมกำนัน-ผญบ. อ.แจ้ห่ม กำนันวิเชียร สายสืบ ประธานชมรมกำนัน-ผญบ. อ.งาว กำนันธนพล  วงค์แก้ว ประธานชมรม อ.วังเหนือ กำนันดำริย์ สุวรรณสุระ ประธานชมรม อ.ห้างฉัตร กำนันกิจเจริญ ไหวดี ประธานชมรม อ.เถิน และอีกหลายท่านเข้าร่วมประชุมจำนวน 100 คน


นายไพโรจน์ โล่ห์สุนทร กล่าวให้โอวาทกับกำนัน-ผญบ.ว่าขอให้ทุกคนตั้งใจทำงานเอาใจใส่ต่อหน้าที่ดูแลทุกข์สุขของประชาชน พร้อมสร้างความสามัคคีในหมู่คณะ พร้อมกันนั้นยังเน้นย้ำให้กำนัน-ผญบ. ช่วยกันสอดส่องการระบาดของยาเสพติดของหมู่บ้านตัวเอง โดยช่วยเป็นหูเป็นตาการเคลื่อนไหวกลุ่มวัยรุ่น เพราะกำนันและผู้ใหญ่บ้าน แต่ละแห่งย่อมรู้ดีว่าคนหมู่บ้านของตนเองมีใครบ้าง ที่มีส่วนพัวพัน หรือขายยาเสพติดให้กับคนในชุมชน เพราะทุกวันนี้จากการนำเสนอข่าวของสื่อมวลชน สะท้อนให้เรารู้ว่าการเกิดเหตุอาชญากรรมลูกฆ่าพ่อฆ่าแม่ ก่อเหตุปล้นชิงวิ่งราว หรือแม้กระทั้งปล้นร้านทอง มูลเหตุมาจากยาเสพติดทั้งสิ้น หากหวังพึ่งตำรวจอย่างเดียวก็คงไม่ไหวทุกฝ่ายต้องช่วยกัน ใครรู้เบาะแสว่าคนนั้นคนนี้ หรือคนในชุมนั้นขายยาบ้าสามารถเขียนจดหมาย ถึง ผวจ. เลย เพราะผู้ว่าเป็นหัวหน้าศูนย์ปราบปรามยาเสพติด โดยแม้จะไม่หมด แต่ก็พอจะทุเลาหาซื้อได้ยาก คนติดยาก็ลดลงได้เช่นกัน จึงขอให้ท่านทั้งหมดช่วยเป็นหูเป็นตาด้วย

Share:

ผุดเสาไฮแมสเฟส 2 ส่องสว่างถนนวชิราวุธดำเนิน อีก 13 ต้น กองทุนพัฒนาไฟฟ้าหนุนงบ 9.9 ล้านบาท ติดตั้งเรียบร้อย

 


          แขวงทางหลวงลำปางที่ 1 ดำเนินโครงการติดตั้งเสาไฟแสงสว่าง (High Mast) พร้อมด้วยโคมโซเดียมแรงดัน 400 วัตต์ ความสูงเสา 30 เมตร  เฟส 2 จำนวน 13 ต้น  บริเวณจุดตัดทางหลวงหมายเลข 11 กับทางหลวงหมายเลข 127 และจุดตัดทางหลวงหมายเลข 11 กับทางหลวงหมายเลข 1348   หรือตั้งแต่สามแยกไฟแดงสำนักงานขนส่งจังหวัดลำปาง ไปจนถึงสามแยกไฟแดงผาลาด   

          ซึ่งโครงการนี้ได้รับงบประมาณจากกองทุนพัฒนาไฟฟ้า โรงไฟฟ้าแม่เมาะประจำปีงบประมาณ 2566  ได้อนุมัติงบประมาณ 9,999,200 บาท   และได้มีการกำหนดราคากลางอยู่ที่ 9,904,895 บาท โดยแขวงทางหลวงลำปางที่ 1 ดำเนินการจัดซื้อจัดจ้างตั้งแต่เดือนมีนาคม 2566 ที่ผ่านมา  


          ล่าสุดเมื่อวันที่ 22 กันยายน 66 ที่ผ่านมา  คณะกรรมการ คพรฟ. พร้อมด้วยพลตำรวจตรีสมพงษ์ สวนคร้ามดี หัวหน้าสำนักงานกองทุนฯ เข้าร่วมติดตามผลการดำเนินงานโครงการติดตั้งเสาไฟแสงสว่าง (high mast) เพื่อให้ถนนในเส้นทางนี้สว่างอย่างเพียงพอและเพิ่มความปลอดภัยให้กับผู้ใช้ถนนที่สัญจรไปมา  หลังจากดำเนินการติดตั้งเสร็จแล้ว


          สำหรับงบประมาณเสาไฟแสงสว่าง จำนวน 13 ต้น  อยู่ที่ราคาต้นละ 678,710.98 บาท  รวมเป็นเงิน  8,823,242.84 บาท  ส่วนงบประมาณที่เหลืออีก 1 ล้านบาทเศษ จะเป็นในส่วนของอุปกรณ์ร่วม  เช่น มิเตอร์ไฟฟ้า  หม้อแปลงไฟฟ้า และการขยายเขตไฟฟ้า เป็นต้น


          ทั้งนี้ เมื่อเทียบราคาเสาไฟ High Mast กับโครงการแรกที่ได้มีการเปิดใช้งานเมื่อวันที่ 29 ก.ย.65  จำนวน 68 ต้น  ราคาอยู่ที่ราคาต้นละ 546,537.56 บาท   ดังนั้น เสาไฟ High Mast ในเฟส 1 และเฟส 2  มีราคาต่างกันถึง 132,173 บาท          



Share:

ผู้กองศูนย์ฝึกตำรวจ ภ.5 ขับรถกลับบ้านที่ อ.สบปราบ รถเกิดเสียหลักชนต้นไม้ร่องกลางถนน ถูกอัดติดในรถดับสลด


       เมื่อวันที่ 26 ก.ย.2566 เวลา 18.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สบปราบ รับแจ้งว่าเกิดอุบัติเหตุรถยนต์ชนต้นไม้ บริเวณ กม.ที่ 655 - 656 ขาเข้าตัวอำเภอสบปราบ หน้าป่าช้าบ้านวังยาว ถ.พหลโยธิน ต.แม่กัวะ อ.สบปราบ มีผู้เสียชีวิตติดภายในรถ จึงรีบประสานร้อยเวรสอบสวน พร้อมแพทย์เวร รพ.สบปราบ และเจ้าหน้าที่สมาคมกู้ภัยลำปาง จุด สบปราบ ร่วมตรวจสอบ




        ในที่เกิดเหตุพบรถยนต์กระบะ ยี่ห้ออิซูซุ ทะเบียน บน 9223 ลำปาง เสียหลักชนพุ่งชนต้นไม้ร่องกลางถนน ข้ามเลนมาจอดแน่นิ่งอยู่กลางถนนเลนขวาของอีกฝั่ง สภาพรถฝั่งขวาพังยับ จนหลังคารถยุบลงมาบีบอัด ร่างคนขับเสียชีวิตอยู่ภายในรถ เจ้าหน้าที่กู้ภัยได้นำเครื่องตัดถ่างงัดรถเพื่อนำร่างออกมา ทราบชื่อผู้เสียชีวิตต่อมาคือ ร.ต.อ.วันชัย หลวงอินทร์ อายุ 53 ปี อยู่บ้านเลขที่ 1/2 หมู่ 6 บ้านวัฒนา ต.สบปราบ อ.สบปราบ จ.ลำปาง




         เบื้องต้นทราบว่า ร.ต.อ.วันชัย มีตำแหน่งเป็น รอง​ สว.บศ. ประจำที่ศูนย์ฝึกอบรมตำรวจภูธร ภาค 5 อ.ห้างฉัตร จ.ลำปาง โดยย้ายตำแหน่งจาก รอง สวป.สภ.สบปราบ มาตั้งแต่เดือน มี.ค.66 ซึ่ง ร.ต.อ.วันชัยจะขับรถไปทำงาน และกลับบ้านที่ อ.สบปราบทุกวัน และวันนี้เช่นเดียวกัน ระหว่างขับรถเดินทางกลับบ้านที่ อ.สบปราบ ได้เกิดฝนตก คาดว่าเป็นสาเหตุให้รถเสียหลักชนต้นไม้ร่องกลางถนนและพุ่งข้ามไปอีกเลนจนเจ้าตัวถูกอัดติดในรถเสียชีวิตดังกล่าว อย่างไรก็ตาม ทางร้อยเวรสอยสวนจะได้ตรวจสอบสาเหตุอย่างละเอียดอีกครั้ง

ภาพ สมาคมกู้ภัยลำปางจุดสบปราบ 





Share:

โครงการชลประทานลำปาง เผยสถานการณ์น้ำ 2 เขื่อนใหญ่ ยังมีเกิน 50 เปอร์เซ็นต์ รองรับการเพาะปลูกพืชในเขตชลประทาน กว่า 2 แสนไร่

 


วันที่ 26 กันยายน 2566 โครงการชลประทานลำปาง สำนักงานชลประทานที่ 2 เปิดเผยสถานการณ์น้ำในเขตจังหวัดลำปาง อ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ ขนาดกลาง และขนาดเล็ก รวมทั้งหมด 87 แห่ง มีความจุระดับเก็บกักรวม 482.776 ล้านลูกบาศก์เมตร ปัจจุบันมีปริมาณน้ำ 313.509 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือคิดเป็นร้อยละ 64.94 ของความจุอ่างเก็บน้ำรวมกันทั้งหมด เป็นปริมาณน้ำที่สามารถนำมาใช้การได้จำนวนทั้งสิ้น 284.648 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือคิดเป็นร้อยละ 58.96 ของความจุรวมกันทั้งหมด โดยแยกเป็น

เขื่อนกิ่วลม มีความจุระดับเก็บกักรวม 106.220 ล้านลูกบาศก์เมตร ปัจจุบันมีปริมาณน้ำ 74.146 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ 69.80 ของความจุอ่างเก็บน้ำ มีปริมาณน้ำที่สามารถใช้การได้ 70.146 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ 66.04

เขื่อนกิ่วคอหมา มีความจุระดับเก็บกักรวม 170.288 ล้านลูกบาศก์เมตร ปัจจุบันมีปริมาณน้ำ 98.629 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ 57.92 ของความจุอ่างเก็บน้ำ มีปริมาณน้ำที่สามารถใช้การได้ 92.629 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ 54.40




สำหรับปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำขนาดกลาง 31 แห่ง มีความจุระดับเก็บกักรวม 172.544 ล้านลูกบาศก์เมตร  ปัจจุบันมีปริมาณน้ำ 114.308 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ 66.25 ของความจุอ่างเก็บน้ำ มีปริมาณน้ำที่สามารถใช้การได้ 99.481 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ 57.66

ส่วนปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำขนาดเล็กพระราชดำริ 54 แห่ง มีความจุระดับเก็บกักรวม 33.725 ล้านลูกบาศก์เมตร ปัจจุบันมีปริมาณน้ำ 26.426 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ 78.36 ของความจุอ่างเก็บน้ำ มีปริมาณน้ำที่สามารถใช้การได้ 22.392 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ 66.40

ผลการเพาะปลูกข้าวนาปี ปี 2566 ในเขตพื้นที่ชลประทานต่างๆ จังหวัดลำปาง ได้แก่ โครงการชลประทานลำปาง แผนการเพาะปลูก (ชลประทานขนาดกลาง) 90,764 ไร่ ผลการเพาะปลูก 82,615 ไร่ โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาแม่วัง แผนการเพาะปลูก 61,471 ไร่ ผลการเพาะปลูก 59,199 ไร่ และโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษากิ่วลม-กิ่วคอหมา แผนการเพาะปลูก 76,482 ไร่ ผลการเพาะปลูก 77,569 ไร่ รวมพื้นที่ทั้งหมด 228,717 ไร่ ผลการเพาะปลูก 219,383 ไร่

สำหรับแผนการเตรียมความพร้อมการใช้เครื่องจักรกรณีการช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติในพื้นที่จังหวัดลำปาง ด้านมาตรการเตรียมความพร้อมและแนวทางการช่วยเหลือ ได้ติดตาม วิเคราะห์แนวโน้มสถานการณ์และสั่งการโดยศูนย์ปฏิบัติการน้ำอัจฉริยะ (SWOC) และเตรียมความพร้อมเครื่องจักรกลพร้อมให้ความช่วยเหลือประชาชนทันที อาทิ เครื่องสูบน้ำ 42 เครื่อง, รถบรรทุกน้ำ 3 คัน, รถบรรทุก 6 ตัน 4 คัน, รถบรรทุกเทท้าย 10 คัน และรถขุด 4 คัน หากประชาชนได้รับผลกระทบ สามารถแจ้งขอความช่วยเหลือทางหมายเลขสายด่วน 1460

Share:

อ.ลักษณ์ ทำนาย 17 ตุลาคม หลังจากราหูย้าย ราศีไหนปังสุด-ราศีไหนต้องระวัง


มาดูคำทำนาย 12 ราศี ของอาจารย์ลักษณ์ หลังจากที่ราหูย้าย ราศีไหนปังสุด-ราศีไหนต้องระวัง
 ไปดูกันเลยจ้า

กรกฎ?
อ.ลักษณ์ : 17 ตุลาคม หลังจากราหูย้าย จะเปลี่ยนร้ายกลายเป็นดี จะมีธุรกิจทั้งในและต่างประเทศ ขยับขยาย เงินทองไหลมา เทมา ฟันธง ดวงโคตรดี เพราะราศีกรกฎถ้าผ่าน 2 ปีครึ่งที่ผ่านมา ตั้งแต่ 5 ธันวาคม 2563 ถึง 1 มีนาคม 2566 คือ 2 ปีครึ่งที่ดาวเสาร์เล็งดวงชะตา มันผ่านไปแล้วตั้งแต่ 1 มีนาคม 2566 พอราหูย้าย โชคใหญ่ มันเป็นเกณฑ์พ้นเคราะห์ กรกฎเนี่ย เมื่อ 2-3 ปีที่ผ่านมาแทบตาย ตอนนี้โล่งใจ มีแต่รุ่งเรือง ฟันธง

ราศีกุมภ์?
อ.ลักษณ์ : ราศีกุมภ์มีเทพประจำตัวคือราหู แปลว่าชาวราศีกุมภ์จะมีทุกข์หนักก่อน แล้วต่อสู้ให้ได้ จะเปลี่ยนจากร้ายกลายเป็นดี ชาวราศีกุมภ์มันจะเหมือนหนักๆ ในภาระต่างๆ ถ้าคนรักมันไม่ใช่ มันจะเลิกจากกันไป เพราะฉะนั้นถ้าต้องเลิกกับใครในช่วง 1 มีนาคมนี้ไป 2 ปี ไม่ต้องกังวล เพราะมันเป็นเวลาที่บอกว่ามันไม่ใช่ เดี๋ยวมันจะเจอคนที่ใช่ คนเกิดราศีกุมภ์ หลังจาก 17 ตุลาคมนี้ ชีวิตมันจะไปนู้น มานี่ แล้วดี อย่าอยู่กับที่ เดินทางเปลี่ยนแปลง ราศีกุมภ์ดีแน่นอนฟันธง

ราศีพฤษภ?
อ.ลักษณ์ : ปกติราศีนี้มันเหมือนจะดวงไม่ดี ก้ำกึ่งมาสัก 1-2 ปีแล้ว แต่วันที่ 17 ตุลาคม ที่ราหูย้าย งานมีโอกาสเกี่ยวข้องกับต่างประเทศ ถ้ามีโปรเจ็กต์งานต่างประเทศให้ทำเลย มีโอกาสรุ่งโรจน์ สำเร็จ รวย ฟันธง แต่ที่พฤษภแย่คือมันจมอยู่กับสภาพเดิมๆ จะทำแบบเดิมๆ เครียดก็จะอยู่อย่างนี้ ดาวมาทับมันต้องเปลี่ยนแปลง

ราศีมิถุน?
อ.ลักษณ์ : ปกติในบรรดาราศีทั้ง 12 ราศีเนี่ย ราศีมิถุนลั้นลาสุดนะ เป็นคนจำแล้วลืมเร็ว ไม่ชอบอะไรที่หนัก เป็นราศีที่มีสภาพนางฟ้า เทวดา มาเกิด อ.ดูดวงมา 30 ปีใครเป็นดารานักแสดง ใครเป็นนักการเมือง ที่ อ.ดูมา เขาต้องมีราหูเด่นในดวงทุกคน เพราะราหูคือมายา ดราม่า อารมณ์ นักการเมืองต้องมีเล่ห์เหลี่ยม คนเกิดลัคนาราศีมิถุน มีราหูเป็นเจ้าแห่งศุภะจึงหนีแสง สี เสียง นี้ไม่พ้น บางทีโคตรเบื่อเลยอยากไปอยู่กับครอบครัว แต่มันก็ต้องมาแบบนี้ หลังจาก 17 ตุลาคม มันเริ่มมีบทบาทที่ชัดเจนมากขึ้น เช่น ตอนนี้มีพิธีกร อาจจะมีละครเพิ่มมากขึ้น คือจะมีอะไรที่ชัดเจนมากขึ้น หลังจาก 17 ตุลาคม ราศีมิถุนจะมีความสำเร็จจากงานที่มีเป้าหมาย ต้องมีพระราหูติดตัว

ราศีกันย์?
อ.ลักษณ์ : เป็นราศีที่น่าเป็นห่วงที่สุดในบรรดา 12 ราศี ชาวกันย์เมื่อ 19 เมษายน ที่ผ่านมา ไปถึง 30 เมษายน 2567 มันจะร้อนอก ร้อนใจ ผิดพลาด ผิดหวัง งานเคยทำเปลี่ยนแปลง อ.มองแบบนี้นะ ดวงมันเหมือนจะแน่ที่สุด ประกอบกับ 1 มีนาคม ดาวเสาร์โคจรเข้ามาเป็นอริกับดวงชะตา ภารกิจใหม่ก็ยากหิน แต่ อ.มองอย่างนี้ ราหูท่านร่วมกับพฤหัส 17 ตุลาคม ราหูจะย้ายออกจากพฤหัส แล้วราหูจะมาเล็งราศีกันย์ มีตีความได้ 2 ประการ 1.ชาวราศีกันย์ที่หงอย เฉา หมดกำลังใจแล้วไม่สู้อะไรเลย พังเลย แต่ราศีกันย์ลุกขึ้นสู้ มันจะเหมือนนาทีสุดท้ายของแรงฮึบ และได้แสงสุดท้ายจากพระราหู ยิ่งบูชาพระราหูยิ่งดี ต้องระวังคู่ครอง หุ้นส่วน ใครเป็นโสดต้องระวังเลย จากนี้เป็นต้นไปตั้งแต่ราหูมาเล็ง คนที่เข้ามาใหม่ๆ มันจะเป็นพวกไม่ได้ความ มันอาจจะโดนใจ เพราะมันเร้าใจ แต่มันล่อลวงเรา แล้วเอาทั้งเงิน เอาทั้งกาย หุ้นส่วนก็จะมีปัญหา อ.แนะนำ กันย์กับมีน ย้ายบ้าน ย้ายห้องนอน ย้ายที่อยู่ยิ่งดี

ราศีธนู?
อ.ลักษณ์ : ดวงชะตามันดีมา 2 ปีแล้ว 1.ธนูหลายคนไปทำงานต่างประเทศ ไปเรียนต่างประเทศ หรือได้ไปไกลที่ ไกลถิ่น ชีวิตเร่ร่อน ขึ้นสูงลงต่ำ สลับสับเปลี่ยน มันต้องมีผู้ใหญ่เป็นที่เมตตา ธนูถ้าโดดเดี่ยวเสร็จ ต้องมีผู้ใหญ่เมตตาแล้วจะรุ่งเรือง คนธนูราหูย้ายในครั้งนี้มีเกณฑ์ได้บ้านใหม่ รถใหม่ แล้วปี 2568 มันจะมีจุดรุ่งโรจน์ได้เงินก้อนใหญ่มาก

ราศีสิงห์?
อ.ลักษณ์ : เรื่องหุ้นส่วน คู่ครอง ต้องประคับประคองให้มาก ร้อนได้ ต้องเย็นเป็น จะทำงานหุ้นส่วนกับใครต้องระวัง ใครที่มีคู่ต้องอดทน ส่วนใครที่มีกิ๊กต้องเลิกหมด

ราศีมังกร?
อ.ลักษณ์ : ดีมากเลยนะ มังกรสันดานเดิมๆ ไม่ค่อยเปลี่ยนแปลง เป็นแบบไหน แบบนั้น นึกถึงท่านประยุทธ แล้วจะนึกภาพมังกรชัด คนเกิดมังกร ดาวเสาร์โคจรเข้าสู่เรือนการเงิน คือราหู แปลว่าจะมีช่องทางใหม่ๆ ในโอกาสที่จะพารวย ตั้งแต่บัดนี้ 17 ตุลาคม ไปถึงปี 68 จะมีจุดระเบิดตู้มของความรวยที่สำเร็จของชาวราศีมังกร ฟันธง

ราศีตุลย์ ?
อ.ลักษณ์ : ราศีนี้ดวงต้องดีมาก เพราะ อ.เกิดราศีตุลย์ ถ้าเกิดอาจารย์ดูอะไรมั่วๆ เท่ากับทุจริตกับตัวเองถูกต้องไหม เพราะฉะนั้นคนเกิดราศีตุลย์ ราหูกับพฤหัสเล็งดวงชะตามาระยะหนึ่งแล้ว ราหูเป็นมายาของโลก พฤหัสบดี คือ ความจริง กตัญญู ตอนนี้ราหูกับพฤหัสบดีร่วมกันอยู่ราศีเมษ เล็งคนเกิดราศีตุลย์ แปลว่าที่ผ่านมาสักหนึ่งปีเหมือนมีอะไรเข้ามามากมาย แต่คว้าได้ไม่หมด แต่พอหลังจาก 17 ตุลาคม ราหูแยกจากพฤหัสบดี เหลือดาวประทานโชคลาภเล็งดวงชะตาของชาวราศีตุลย์ ตั้งแต่ 17 ตุลาคม ถึง 30 เมษายน 2567 แปลว่าจากนี้คนโสดจะมีคู่ คนมีคู่อยู่แล้วจะมีบุตร สมหวัง สมปรารถนา มีความสำเร็จ เงินทองไหลมา เทมา ร่ำรวย โชคดี ฟันธง

ราศีพิจิก?
อ.ลักษณ์ : คนลัคนาราศีพิจิก เป็นราศีลึกลับ เป็นราศีที่ทายยาก พิจิกจะมีอะไรที่ไม่เหมือนคนอื่น แล้วมีการขึ้นลงที่ไม่ได้เป็นไปตามใจนึกของใคร เป็นเฉพาะตัว 1.พิจิก ไม่ต้องดูดวง คุณรู้ด้วยตัวเองอยู่แล้วโดยความรู้สึก ลองนิ่งๆ เลิกสับสน มันมีลางสังหรณ์ ซิกเซ้นส์ ไม่เหมือนใคร คนพิจิกเหมือนเกิดแล้วตาย ตายแล้วเกิด มีความลึกลับ พิจิกที่ราหูยกครั้งนี้ แปลว่า 1.ใครไม่มีบุตรจะมีบุตร ถ้ามีบุตร บุตรจะนำพาความเจริญ ถ้าไม่ใช่บุตรก็จะเป็นบริวาร คนรอบตัวจะมีความเจริญรุ่งเรืองที่มาเกื้อกูล แต่ราศีพิจิกมันไม่ชอบพึ่งใครหรอก มันชอบพึ่งตัวเอง แต่มีหลักอยู่ ราหูย้าย 17 ตุลาคม นี้มันจะมีโปรเจ็กต์บางประการที่ต้องเริ่มต้นและทำต่อไปให้ความอดทนมันจะขยาย จนวันที่ 30 เมษายน 2567 ชีวิตจะสำเร็จ ร่ำรวย ทุกประการ ฟันธง

ราศีเมษ?
อ.ลักษณ์ : ราหูโคจรทับเรือนชะตามาปีครึ่งแล้วจนถึงวันที่ 17 ตุลาคมนี้ ราหูทับราศีเมษปกตินะ มันไม่ดีหรอก แต่มันมีดีอยู่ด้วย มันต้องสู้ไม่ถอย ลุย หลัง 17 ตุลาคม ชาวราศีเมษจะรุ่งเรือง สำเร็จบนความเริ่มต้นแล้วอย่างตั้งใจ ฟันธง

ราศีมีน?
อ.ลักษณ์ : ราหูจะโคจรจากเมษไปทับราศีมีน หลัง 17 ตุลาคม คนที่อายุมากแล้ว คนที่ป่วยออดๆ แอดๆ ต้องตรวจให้ดี มันมีเกณฑ์ป่วยเจ็บ และต้องมีอันเป็นไป มันน่าเป็นห่วง แต่ถ้าเกิดเรายังหนุ่ม ยังสาว อย่าไปกลัว ราหูทับเปลี่ยนไป แปลว่าไม่ใช่ตาย แต่เปลี่ยนชีวิต เปลี่ยนการงาน เปลี่ยนรูปแบบ เปลี่ยนแล้วดี ฟันธง ใครอยู่ราศีมีนที่อยู่ในอาชีพดารา นักแสดง รุ่งโรจน์เลย เพราะราหูเป็นเงาแสงมาทับตัวเอง ใครเป็นพ่อค้า แม่ค้าไลฟ์สดดีเลย

 

Share:

18 ปี ลานนาโพสต์

โครงการปั้นดาว

โครงการปั้นดาว
ขับเคลื่อนโดย Blogger.

จำนวนการดูหน้าเว็บรวม

สถิติการเข้าชมเว็บไซต์