วันจันทร์ที่ 13 มกราคม พ.ศ. 2568

นับถอยหลังเลือกตั้ง อบจ.ลำปาง ผู้สมัครต่างลงพื้นที่หาเสียงคึกคัก ลุยเดินตลาด ลงชุมชนใกล้ชิดชาวบ้าน

 


          บรรยากาศการหาเสียงเลือกตั้งนายก และสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดลำปาง ในหลายพื้นที่ มีความคึกคักมากขึ้น หลังจากที่ผู้สมัครนายก และสมาชิกสภาฯ ได้รับการรับรองจากผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำ อบจ.ลำปาง เป็นที่เรียบร้อย ทำให้แต่ละคนต่างพร้อมใจกันเดินออกหาเสียงได้อย่างเต็มที่  รวมไปถึงการติดตั้งป้ายหาเสียง และรถแห่ต่างๆ ให้ประชาชนได้เห็นกันอย่างหนาตา


นายดาชัย เอกปฐพี ผู้สมัครนายก อบจ.ลำปาง เบอร์ 1  ซึ่งถือว่าเป็นคู่แข่งอันดับต้นๆของน.ส.ตวงรัตน์ก็ว่าได้ แม้ว่าการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา คะแนนจะทิ้งห่างไปมากถึง 176,410 คะแนน แต่ชื่อของดาชัยก็ยังมีอยู่ในกระแสตลอดเวลา ตั้งแต่ก่อนจะมีการเลือกตั้งจนมาถึงปัจจุบัน  ในครั้งนี้ดาชัยยังมาแนวเงียบสงบ สยบความเคลื่อนไหว โพสต์นโยบายหาเสียงผ่านสื่อโซเชียลมีเดียอย่างต่อเนื่อง  เน้นใช้สื่อให้เป็นประโยชน์  พร้อมมีป้ายหาเสียงติดตั้งให้เห็นเน้นพื้นหลังสีดำ เบอร์ 1 สีแดง ส่งให้ภาพผู้สมัครและเบอร์ โดดเด่นทั่วเมือง


โดยดาชัย ได้เน้นนำเสนอนโยบาย สนับสนุนงบประมาณผู้สูงอายุ มีกองทุนช่วยเหลือผู้สูงอายุ 2 ล้านบาท ทุกอำเภอ และมีศูนย์ใส่ใจ๋ดูแลผู้สูงอายุ 24 ชั่วโมง  นอกนั้นยังมีนโยบายสร้างสรรค์สังคม สนับสนุนให้มีศูนย์ประสานงานแก้ไขปัญหาหนี้สินเกษตรกรทุกอำเภอ  สนับสนุนให้มีที่ปรึกษานายก อบจ.ด้านเศรษฐกิจการค้า ท่องเที่ยว สาธารณสุข สิ่งแวดล้อมฯลฯ ในทุกอำเภอ  เป็นต้น  ส่วนนโยบายการศึกษาเด็กและเยาวชน ยกตัวอย่างเช่น สนับสนุนให้มีโรงเรียน3ภาษา ไทย จีน อังกฤษ  โรงเรียน อบจ.ลำปาง  สถานบันกวดวิชาออนไลน์ โดยอบจ.ลำปาง พร้อมทุนการศึกษา 2 แสนบาท ในทุกอำเภอ เป็นต้น

ขณะที่  น.ส.ตวงรัตน์ โล่ห์สุนทร ผู้สมัครนายก อบจ.ลำปาง  เบอร์ 2  ที่ลงสมัครในนามพรรคเพื่อไทย  แม้จะเป็นที่รู้จักของชาวบ้านในนามอดีตนายกอบจ.ลำปาง สมัยที่ผ่านมาและมีผลงานต่างๆไม่น้อย  แต่ยังคงเดินลงพื้นที่อย่างหนักหน่วงนำเสนอนโยบายสานต่องานให้กับชาวบ้าน  พร้อมกับติดตั้งป้ายหาเสียงสีขาวสะอาดตา ชูสองนิ้วเป็นสัญลักษณ์เบอร์ 2  และบ่งบอกถึงสัญลักษ์สู้ๆ ไปทั่วทุกอำเภอ


ตวงรัตน์ ได้นำเสนอนโยบายหลากหลาย ซึ่งส่วนใหญ่เป็นการสานงานเดิม  นโยบายด้านการดูแลผู้สูงอายุให้มีโอกาสได้รับความช่วยเหลือ มีคุณภาพชีวิตที่ดีอย่างเท่าเทียม เช่น  การจัดตั้งกองทุนฟื้นฟูสมรรถภาพจังหวัดลำปาง ตั้งแต่ปี 2564  ส่งเสริมการอบรมให้ความรู้ และพัฒนาอาชีพแก่ผู้สูงวัยผ่านศูนย์พัฒนาคุณภาพชีวิตและส่งเสริมอาชีพผู้สูงอายุ อบจ.ลำปางและโครงการส่งเสริมการออกกำลังกาย ที่ชักชวนชาวลำปางทุกกลุ่มทุกช่วงวัยในทุกอำเภอ  , นโยบ้านด้านการเกษตร  สนับสนุนเปลี่ยนเกษตรกรลำปาง ให้มีความมั่นคงทางรายได้ เท่าทันความเปลี่ยนแปลงของโลกยุค 5G โดยการผสานเทคโนโลยี Smart Farming เข้ากับภูมิปัญญาท้องถิ่น และความอุดมสมบูรณ์ของผืนดิน จะช่วยให้เกิดการพัฒนาสร้างความเติบโตแบบก้าวกระโดดของภาคเกษตร เพิ่มผลผลิต สร้างมูลค่า เพิ่มรายได้ที่ยั่งยืน  , ด้านเด็กและเยาวชน ต่อยอดความสำเร็จ สร้างเด็ก เก่ง ดี มีความสุข โดยการวางรากฐานการพัฒนาเด็กและเยาวชนลำปางอย่างเป็นระบบ ผ่านโครงการ Fa EF  และจะขยายผลให้ครอบคลุมทั่วจังหวัด เป็นต้น 



          ด้านผู้สมัครนายก อบจ.ลำปาง เบอร์ 3 นายอธิวัฒน์  ศรีไชยานุพันธ์  ก็ได้มีการติดตั้งป้ายหาเสียงไปทั่วทุกพื้นที่เช่นกัน หลังจากที่มีการเปิดตัวว่าจะลงสมัครเป็นคนแรกก็ว่าได้  และเน้นเดินลงพื้นที่หาเสียง พบปะใกล้ชิดกับชาวบ้าน  มาพร้อมกับความมุ่งมั่นที่จะเปลี่ยนแปลงลำปาง เปิดหูเปิดตาชาวบ้าน เปลี่ยนประวัติศาสตร์ลำปาง ลำปางต้องดีกว่าเดิม



          สำหรับ ผู้สมัครนายก อบจ.ลำปาง เบอร์ 4 ดร.อุ๋ย ปกิตตา ตั้งชนินทร์ ที่ทาง กกต.ลำปาง มีประกาศไม่รับสมัคร  เนื่องจากพบว่าทางเอกสารสำคัญที่ใช้ประกอบการลงสมัครขาดไป  ซึ่งอยู่ระหว่างการยื่นอุทธรณ์คำสั่ง กกต.ลำปาง และรอทาง กกต.กลางพิจารณาอยู่นั้น   ทางผู้สมัครยังคงหาเสียงได้จนกว่า กกต.จะชี้ขาด  ทาง ดร.อุ๋ย พร้อมทีมงานยังลงพื้นที่พบปะกับชาวบ้านอย่างต่อเนื่อง  ตามสโลแกน ดร.อุ๋ย ลุยอาสาเพื่อชาวลำปาง

          เหลือเพียงอีก 15 วัน ก็จะถึงวันเลือกตั้งนายก และ สมาชิกสภา อบจ. แล้ว เชิญชวนประชาชนออกมาใช้สิทธิ์กันให้มาก เพื่อเลือกคนดีมีความสามารถเข้ามาบริหารท้องถิ่นลำปาง  โดยบัตรเลือกตั้งนายก อบจ. สีเหลือง และ บัตรเลือกตั้งสมาชิก สภา อบจ. สีม่วง 

วันเสาร์ที่ 1 ก.พ.68 นี้ ตั้งแต่เวลา 08.00 น. – 17.00 น. เข้าคูหากาเบอร์ที่ชอบ


ขอบคุณภาพผู้สมัคร จากเพจและเฟซบุ๊ก  ดาชัย เอกปฐพี , ตวงรัตน์ โล่ห์สุนทร , ต่อ อธิวัฒน์ ศรีไชยานุพันธ์  และ ดร.อุ๋ย ลุยอาสาเพื่อชาวลำปาง 

Share:

วันอาทิตย์ที่ 12 มกราคม พ.ศ. 2568

แจ้งเหตุจำเป็นที่ไม่อาจไปใช้สิทธิเลือกตั้ง อบจ.ได้ ผ่านช่องทางออนไลน์

วันที่  13 ม.ค. 68 – กกต. เผยผู้มีสิทธิเลือกตั้งใดที่ไม่อาจไปใช้สิทธิเลือกตั้งได้ เนื่องจากมีเหตุอันสมควร ให้แจ้งเหตุที่ไม่อาจไปใช้สิทธิเลือกตั้งต่อนายทะเบียนอำเภอ หรือนายทะเบียนท้องถิ่นที่ตนมีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้าน โดยทำเป็นหนังสือซึ่งต้องระบุเลขประจำตัวประชาชน และที่อยู่ตามหลักฐานทะเบียนบ้าน ภายใน 7 วันก่อนวันเลือกตั้ง หรือภายใน 7 วันนับแต่วันเลือกตั้ง สามารถแจ้งด้วยตัวเอง หรือมอบหมายให้ผู้อื่นไปยื่นแทน หรือจัดส่งทางไปรษณีย์ลงทะเบียน

แจ้งเหตุที่ไม่อาจไปใช้สิทธิเลือกตั้ง ผ่านทางเว็บไซต์ แจ้งเหตุจำเป็นที่ไม่อาจไปใช้สิทธิเลือกตั้งทางอิเล็กทรอนิกส์ หรือผ่านทางแอปพลิเคชัน Smart Vote

เหตุจำเป็นที่ไม่อาจไปใช้สิทธิเลือกตั้งได้
มีกิจธุระจำเป็นเร่งด่วนที่ต้องเดินทางไปพื้นที่ห่างไกล
เจ็บป่วยและไม่สามารถเดินทางไปใช้สิทธิเลือกตั้งได้
เป็นคนพิการหรือทุพพลภาพ หรือผู้สูงอายุและไม่สามารถเดินทางไปใช้สิทธิเลือกตั้งได้
เดินทางออกนอกราชอาณาจักร
มีถิ่นที่อยู่ห่างไกลจากที่เลือกตั้งเกินกว่า 100 กิโลเมตร
ได้รับคำสั่งจากทางราชการให้ไปปฏิบัติหน้าที่นอกเขตเลือกตั้ง
มีเหตุสุดวิสัยหรือเหตุอื่นที่ กกต. กำหนด
กรณีที่ผู้มีสิทธิเลือกตั้งได้แจ้งเหตุไว้แล้ว หากในวันเลือกตั้งเหตุดังกล่าวได้สิ้นสุดลง ผู้มีสิทธิเลือกตั้งสามารถไปใช้สิทธิเลือกตั้งที่หน่วยเลือกตั้งที่ตนมีสิทธิเลือกตั้งได้

หากไม่ไปใช้สิทธิเลือกตั้งจะถูกจำกัดสิทธิ ดังนี้
สมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) หรือสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น (สถ./ผถ.) หรือสมัครรับเลือกเป็นสมาชิกวุฒิสภา (สว.)
สมัครรับเลือกเป็นกำนันและผู้ใหญ่บ้าน
เข้าชื่อร้องขอให้ถอดถอนสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น (สถ./ผถ.)
ดำรงตำแหน่งข้าราชการการเมือง และข้าราชการรัฐสภาฝ่ายการเมือง
ดำรงตำแหน่งรองผู้บริหารท้องถิ่น เลขานุการผู้บริหารท้องถิ่น ผู้ช่วยเลขานุการผู้บริหารท้องถิ่น ประธานที่ปรึกษาผู้บริหารท้องถิ่น ที่ปรึกษาผู้บริหารท้องถิ่น หรือคณะที่ปรึกษาผู้บริหารท้องถิ่น
การถูกจำกัดสิทธิ กำหนดเวลาครั้งละ 2 ปี นับแต่วันเลือกตั้ง

 


Share:

มวลอากาศเย็นกำลังแรง ปกคลุมไทยตอนบน ลมหนาวพัดแรง อุณหภูมิลดลง 2-4 องศา


เช้าวันนี้ (13 ม.ค.68) มวลอากาศเย็นกำลังแรง ยังแผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบน ทำให้ลมหนาวยังคงพัดแรง อุณหภูมิยังลดลงได้ อาจลดลงไปถึงภาคใต้ตอนบน โดยภาคเหนือ ลดลง 2-4 ซ. ภาคอีสานลดลง 1-2 ซ. อากาศหนาวหลายพื้นที่ หนาวจัดยังคงเกิดขึ้นได้บริเวณยอดภู ยอดดอย ต้องเฝ้าระวังอากาศที่เปลี่ยนแปลง ระวังลมแรงและอากาศหนาวเย็น ส่วนภาคใต้ฝั่งอ่าวไทยจะมีฝนเพิ่มขึ้นบ้างและตกหนักบางแห่งบริเวณภาคใต้ตอนล่าง (ปัตตานี ยะลา นราธิวาส) คลื่นลมแรงขึ้น ระวังคลื่นซัดฝั่ง ชาวเรือต้องเฝ้าระวังเรือเล็กงดออกจากฝั่งโดยเฉพาะบริเวณอ่าวไทย

14 -15 ม.ค.68 มวลอากาศเย็นที่แผ่ลงมาปกคลุมมีกำลังอ่อนลงบ้าง ทำให้อุณหภูมิจะอุ่นขึ้น
16 - 18 ม.ค.68 ยังมีมวลอากาศเย็นกำลังค่อนข้างแรงเสริมลงมาอีกครั้ง ทำให้ทางตอนบนยังมีอากาศเย็นถึงหนาว ฤดูหนาวยังไม่สิ้นสุด ยังสามารถสัมผัสอากาศหนาวเย็นถึงหนาวได้ต่อเนื่องบริเวณภาคเหนือ ภาคอีสานตอนบน ถึงปลายเดือนมกราคม
ส่วนภาคใต้ฝั่งอ่าวไทยมีฝนเพิ่มขึ้น และมีฝนตกหนักบางแห่ง ช่วง 15 - 17 ม.ค.68 และช่วงหลัง 19 -27 ม.ค.68 มวลอากาศเย็นที่แผ่ลงมาปกคลุมจะเริ่มมีกำลังอ่อนลง อุณหภูมิจะเริ่มอุ่นขึ้นแล้ว ทิศทางลมมีเปลี่ยนทิศทาง
(ข้อมูลนี้อาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ ตามข้อมูลนำเข้าและประมวลผลใหม่ ใช้เป็นแนวทางประกอบการตัดสินใจและติดตามสภาพอากาศ)

Share:

พิธีกรรมที่หาดูได้อยาก 1 ปีมี 1 ครั้ง ทำบุญ “ตาน (ทาน) ข้าวจี่ ข้าวหลาม เดือน 4 เป็ง”


พุทธสนิกชนชาวลำปาง พร้อมใจเข้าวัดทำบุญ “ตาน (ทาน) ข้าวจี่ ข้าวหลาม เดือน 4 เป็ง” พร้อมสุมไฟคลายหนาวให้ “พระพุทธเจ้า” (ดังหลั๋วก่อกองไฟคลายหนาวให้พระพุทธเจ้า)ท่ามกลางสภพอากาศที่หนาวเย็นที่ 11 องศาเซลเซียส


        เช้าตรู่วันที่ 13 มกราคม 2568 พุทธศาสนิกชน ชาวบ้านเกษตรกรในพื้นที่จังหวัดลำปาง หลายหมู่บ้านชุมชน ได้เข้าวัดทำบุญถวายดอกไม้ ข้าวสารใหม่ ข้าวหลาม ข้าวจี่ แด่พระพุทธรูป และพระภิกษุสงฆ์ตามวัดต่างๆ ทั่วจังหวัดลำปาง เนื่องในวัน 4 เป็ง ซึ่งเป็นประเพณีท้องถิ่นทางภาคเหนือที่สืบทอดกันมายาวนาน (แปลจากภาษาท้องถิ่นเหนือ “ ตานข้าวข้าวใหม่ ข้าวจี่ ข้าวหลาม ดังหลั๋วก่อกองไฟคลายหนาวให้พระพุทธเจ้า”)  


        และที่วัดชมพูหลวง หมู่ 7 ต.ชมพู อ.เมือง จ.ลำปาง ชาวบ้านนำดอกไม้ธูปเทียน ข้าวใหม่ ทั้งข้าวสาร ข้าวเหนียวนึ้ง มาถวายพระพุทธรูป จากนั้นก็นำข้าวหลาม ข้าวจี่ อาหารคาวหวานไปใส่บาตรที่ทางวัดจัดเตรียมไว้เพื่อรอทำพิธีทางศาสนา นอกจากนี้ ยังได้มีการนำฟืนมาสุมกองรวมกันที่หน้าพระวิหาร เพื่อรอทำพิธีสุมไฟคลายหนาวให้พระพุทธเจ้า ซึ่งพิธีนี้ได้สืบสานปฏิบัติสืบทอดมาอย่างยาวนาน


        สำหรับพิธี “ตาน (ทาน) ข้าวจี่ ข้าวหลาม” นั้น เป็นประเพณีที่ชาวบ้าน และเกษตรกรจะร่วมกันจัดขึ้นในเดือน 4 เหนือ ขึ้น 15 ค่ำ หรือเรียกว่าเดือน 4 เป็ง หลังฤดูเก็บเกี่ยวได้ผลผลิตข้าวเสร็จอย่างสมบูรณ์ เรียกว่า ประเพณีทานข้าวใหม่ และตาน (ทาน) ข้าวจี่ ข้าวหลาม เพื่อให้พระสงฆ์ได้ฉันภัตตาหารที่ประกอบจากข้าวใหม่ที่เพิ่งได้มาจากทุ่งนา เช่น ข้าวจี่ ข้าวหลาม ข้าวเม่า ข้าวต้ม ข้าวต้มกะทิ ขนมเทียน รวมทั้งอุทิศส่วนกุศลไปหาญาติพี่น้องผู้ล่วงลับไปแล้วด้วย ซึ่งประเพณีจัดขึ้น 1 ปี 1 ครั้งหลังเสร็จสิ้นฤดูเก็บเกี่ยวแลวเสร็จสมบูรณ์ทั้งหมดและมีหลายๆชมชนหลายๆวัดที่ยังคงจัดพิธีนี้เพื่อสืบทอดประเพณีที่ดีงามให้คงอยู่ต่อไป






Share:

หนุ่มโรงงานเซรามิกขี่มอเตอร์ไซค์เกิดเฉี่ยวชนกับรถบรรทุกหกล้อ บาดเจ็บสาหัสไม่รู้สึกตัว

          เมื่อเวลาประมาณ 03.49 น. วันที่ 12 ม.ค.68 หน่วยกู้ภัยสว่างนครลำปาง ได้รับแจ้งเหตุขอสนับสนุนช่วยเหลือผู้บาดเจ็บจากอุบัติเหตุรถบรรทุก 6 ล้อ เฉี่ยวชนกับรถจักรยานยนต์ บริเวณสะพานยกระดับกาดเฆต ต.ชมพู อ.เมืองลำปาง จ.ลำปาง  จึงจัดเจ้าหน้าที่พร้อมอุปกรณ์ ออกตรวจสอบเหตุ 



        เบื้องต้นพบผู้บาดเจ็บชาย 1 ราย ในสภาพหมดสติเรียกไม่รู้สึกตัว อยู่ข้างรถจักรยานยนต์ ฮอนด้าเวฟสีดำ มีเลือดไหลออกจากปาก และแผลฉีกขาดที่ศีรษะยาว 10 ซ.ม. ทราบชื่อจากบัตรพนักงานของโรงงานเซรามิกชื่อดังแห่งหนึ่ง คือ นายสุทธิราช  เจ้าหน้าที่จึงเร่งช่วยเหลือนำเปลี่ยนถ่ายรถกู้ชีพ ส่ง รพ.ลำปาง อย่างเร่งด่วน


          ส่วนคู่กรณีเป็นรถบรรทุก 6 ล้อตู้ทึบยี่ห้ออิซูซุสีขาว จอดอยู่กลางถนน ที่ไฟหน้ารถฝั่งซ้ายแตก รอให้การกับพนักงานสอบสวน ซึ่งจะได้ตรวจสอบหาสาเหตุอย่างละเอียดต่อไป 
ภาพ  หน่วยกู้ภัยสว่างนครลำปาง
Share:

ลุงหายจากบ้านหลายวัน พบร่างลอยมาติดประตูน้ำ คลองชลประทานบ้านหนองน้อย อ.ห้างฉัตร


         วันที่ 12 ม.ค.2568 เวลาประมาณ 12.30 น. จนท.ตำรวจ สภ.ห้างฉัตร รับแจ้งว่ามีผู้พบร่างคนเสียชีวิตอยู่ในคลองชลประทานประตูน้ำบ้านหนองน้อย ต.หนองหล่ม อ.ห้างฉัตร จ.ลำปาง จากนั้นจึงประสาน แพทย์เวร รพ.ห้างฉัตร ร่วมกับ หน่วยกู้ภัยห้างฉัตรแม่ตาล ร่วมตรวจสอบ



          เมื่อไปถึงบริเวณประตูน้ำดังกล่าว พบร่างชาย สภาพนอนคว่ำหน้าขึ้นอืดแล้ว โดยสวมเสื้อสีกรมท่า กางเกงยีนส์ อยู่ที่ข้อเท้า ทราบชื่อต่อมาคือนายสุคำ อายุ 60 ปีคนบ้านทุ่งผา ต.วอแก้ว อ.ห้างฉัตร จ.ลำปาง



         และห่างจากจุดเกิดเหตุ ประมาณ 1 กิโลเมตรเศษ พบรถจักรยานยนต์ของผู้ตายจอดอยู่และมีรอยล้มของรถ สอบถามญาติของผู้เสียชีวิต ได้ความว่า นายสุคำ มีอาการป่วยทางจิตและติดสุรา ก่อนหน้านี้หายออกไปจากบ้านหลายวัน คาดว่าน่าจะออกไปดื่มสุรา ก่อนจะขี่รถล้ม แล้วพลัดตกน้ำ เสียชีวิตดังกล่าว

           ซึ่งทางญาติไม่ได้ติดใจสาเหตุการตาย หน่วยกู้ภัยห้างฉัตรแม่ตาล ถึงจะได้ส่งร่างไปให้แพทย์ชันสูตร ก่อนจะมอบศพให้ญาตินำไปบำเพ็ญกุศลทางศาสนาต่อไป



ภาพข่าว ดีเจหนุ่มโอ๋ พัสกร ชุมภูทอง

Share:

เก๋งบวกมอเตอร์โซค์ กลางแยกไฟแดงสถานีขนส่ง หนุ่มวัย 23 เจ็บหนัก เรียกไม่รู้สึกตัว ปากฉีก ข้อมือหัก เร่งนำส่ง รพ.

 

          เมื่อเวลา 00.26 น. วันที่ 12 ม.ค.68  ศูนย์วิทยุ 191 จ.ลำปาง รับแจ้งเหตุ อุบัติเหตุรถยนต์เก๋งชนกับรถจักรยานยนต์ มีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัส บริเวณสามแยกไฟแดงสถานีขนส่ง ถ.ซุปเปอร์ไฮเวย์ ลำปาง - งาว อ.เมืองลำปาง  จึงประสานหน่วยกู้ชีพ รพ.ลำปาง และหน่วยกู้ภัยสว่างนครลำปาง ให้การช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ  จากนั้นจึงแจ้งร้อยเวรสอบสวน สภ.เมืองลำปาง เข้าตรวจสอบ



          ในที่เกิดเหตุพบรถยนต์เก๋ง ฮอนด้า  สีแดง จอดกลางถนน บริเวณข้างประตูฝั่งคนขับยุบเสียหายทั้งแถบ โดยมีรถจักรยานยนต์ ฮอนด้าดรีมรุ่นเก่า ล้มอยู่ใกล้ๆ และที่ข้างรถพบผู้บาดเจ็บเป็นชาย 2 ราย  รายแรก ชาย อายุ 23 ปี เรียกไม่รู้สึกตัว มีข้อมือซ้ายผิดรูป แผลฉีกขาดยาว 10 ซ.ม.  และบริเวณริมฝีปากด้านบนฉีกขาดยาว 5 ซ.ม. จึงเร่งปฐมพยาบาล จากนั้นเจ้าหน้าที่กู้ชีพ รพ.ลำปางได้นำส่ง รพ.ทันที   และรายที่ 2 เป็นชาย อายุ 23 ปี เช่นกัน ยังคงรู้สึกดี มีแผลฉีกขาดที่คิ้วซ้ายยาว 3 ซ.ม.ข้อมือขวาผิดรูป มีถลอกฟกซ้ำตามร่างกาย  กู้ภัยสว่างนำส่ง รพ.  



          เบื้องต้นทราบว่า รถยนต์เก๋งได้ขับออกมาจากทางสถานีขนส่ง และจะเลี้ยวขวาไปทาง อ.เกาะคา และคาดว่ารถจักรยานยนต์ขับมาทางตรง มุ่งหน้าไปทางสามแยกลำปางเวียงทอง  และได้เกิดชนประสานงากันขึ้น ซึ่งสาเหตุอยู่ระหว่างการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจอย่างละเอียดต่อไป 



ภาพ กู้ภัยสว่างนครลำปาง 


Share:

วันศุกร์ที่ 10 มกราคม พ.ศ. 2568

“เครื่องดื่มข้าวหอมมะลิดำโพสไบโอติก” วิทยาลัยอาชีวศึกษาลำปาง คว้ารางวัลชนะเลิศ สุดยอดนวัตกรรมและเทคโนโลยีสิ่งประดิษฐ์ฯ ภาคเหนือ

        เมื่อวันที่ 9 มกราคม 2568 วิทยาลัยอาชีวศึกษาลำปาง คว้ารางวัลชนะเลิศ ผลงานสิ่งประดิษฐ์ ประเภทที่ 4 ด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยีอาหาร ผลงาน “เครื่องดื่มข้าวหอมมะลิดำโพสไบโอติก” ในการประกวด สุดยอดนวัตกรรมและเทคโนโลยีสิ่งประดิษฐ์อาชีวศึกษา ครั้งที่ 35 ประจำปีการศึกษา 2567 ระดับภาค ภาคเหนือ ณ วิทยาลัยอาชีวศึกษาอุตรดิตถ์ 



        

            โดย ดร.ยุภาภรณ์ เทพจันทร์ ผู้อำนวยการวิทยาลัยอาชีวศึกษาลำปาง มอบหมายให้ นางสาวอภิวันท์ จักรคำ รองผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนากิจการนักเรียนนักศึกษา นำคณะครูและนักศึกษาเข้าร่วมพิธีมอบรางวัล และพิธีปิดการประกวดสุดยอดนวัตกรรมฯ รางวัลดังกล่าวมีนักศึกษาที่เป็นผู้แทนนำเสนอผลงาน ได้แก่ นางสาวจิรัชยา ทิหลิ้ม, นางสาวพิชญา จันทร์ต๊ะคา, นางสาววราพร เครือเทพ และนางสาวอารียา คาดี ครูที่ปรึกษาสิ่งประดิษฐ์ ได้แก่ ดร.ยุภาภรณ์ เทพจันทร์ , ครูนภษร จุ้ยอินทร์, ครูเบญจมาศ ศรีเงิน, ครูวรรณิษา ศรียา และนางสาวมุกระวี เมตตา 




Share:

18 ปี ลานนาโพสต์

โครงการปั้นดาว

โครงการปั้นดาว
ขับเคลื่อนโดย Blogger.

จำนวนการดูหน้าเว็บรวม

สถิติการเข้าชมเว็บไซต์