
เมืองไทยได้ชื่อว่าเป็นเมืองที่นิยมร้านอาหารข้างทาง หรือ Street food ซึ่งหลายร้านมีรสชาติอร่อยมากๆ ไม่ว่าจะเป็นอาหารคาว หรือขนมหวานต่างๆ หลายร้านมีชื่อเสียงโด่งดังระดับประเทศ
จ.ลำปาง
จะเห็นได้ว่าเราก็มีร้านแนว Street food มากมายหลายร้าน แม้จะเป็นร้านรถเข็นเล็กๆ
แต่ก็ขึ้นชื่อ ขายมาหลายสิบปี มีลูกค้าก็ไม่เคยขาด เพราะติดใจในรสชาติที่อร่อยในราคายังสบายกระเป๋า
ขนมเบื้องโบราณคุณตา


เคล็ดลับความอร่อยของขนมเบื้อง คุณตา บอกว่าไม่ได้มีเคล็ดลับอะไร
เพียงแค่ลงมือทำเองทุกอย่าง
ตั้งแต่ทำแป้งผสมกับข้าวกล้องแป้งจะออกสีน้ำตาลเข้ม ครีมก็จะผสมเองโดยจะรู้ปริมาณของส่วนผสม
เพราะคุ้นเคยและทำมานาน ทำวันละ 2 หม้อ
สำหรับไส้ฝอยทอง ไส้มะพร้าว ก็ลงมือทำเองทั้งหมด คุณตายังบอกอีกว่า
ขนมจะอร่อยหรือไม่อร่อยเราต้องรู้ อยู่ที่เราลงมือทำเอง
ถึงแม้จะเป็นช่วงเศรษฐกิจย่ำแย่
ลูกค้าของคุณตาไม่เคยขาดหายไปไหน คุณตาบอกว่า ขนมของคุณตาอร่อย และขายถูก ชิ้นละ 2 บาท ทานได้ทุกเพศทุกวัย เป็นขนมเบื้องโบราณแท้ๆ และยังไม่แบบแผ่นใหญ่ใส่ไข่ ราคา 25 บาท และเพิ่มเม็ดมะม่วง 30 บาท อยากจะมีไส้เพิ่มมากว่านี้แต่ที่ลำปางหาซื้อไม่ได้ ใครผ่านไปแถววัดศรีเกิดและไปอุดหนุนกันได้ทุกวันไม่มีวันหยุด
40 ปี ข้าวมันป้าเหลียว

ป้าเหลียวเล่าให้ฟังว่า ป้าทำอาชีพค้าขายมานานถึง 40
ปีแล้ว ตั้งแต่ป้ายังเป็นสาว เคยไปขายผักในตลาดหัวขัว แต่ระยะหลังผักมีราคาสูงขึ้น
จึงเปลี่ยนมาขายข้าวมันแทน เพราะแม่แฟนทำขายมาก่อน ให้ป้าไปช่วยทำ
จึงอาศัยครูพักลักจำจนรู้วิธี และด้วยความชอบในการทำอาหารทำขนมเลยทำไปวางขายในตลาด
ก็มีลูกค้าติดใจมาอุดหนุนจำนวนมาก
โดยช่วงเช้าป้าจะขายที่ตลาดหัวขัว และตลาดรอบเวียง พอช่วงสาย
ก็จะเข็นรถเดินขายรอบในเมืองลำปาง แต่พออายุมากขึ้นก็เริ่มเข็นรถเดินไม่ไหว
เพราะเหนื่อยจึงได้มาหยุดจอดพักที่หน้าธนาคารกรุงเทพ
เมื่อคนเห็นก็มาจอดรถแวะซื้อเรื่อยๆ ป้าเลยนำรถเข็นมาขายประจำอยู่ที่นี่
ป้าเหลียวยังบอกอีกว่า
ป้าจะลงมือทำอาหารและขนมทุกอย่างเองทั้งหมด วันหนึ่งจะใช้ข้าวเหนียวประมาณ 40 ลิตร ลดจากเดิมลงไป 10
ลิตร เพราะปีนี้เศรษฐกิจไม่ค่อยดีนัก
เคล็ดลับของป้าเหลียวคือจะใช้เตาถ่านนึ่งข้าว ทำให้ข้าวไม่แข็ง ส่วนน้ำกะทิจะใช้มะพร้าวที่คั้นเองกับมือ
ถึงแม้ว่ามะพร้าวจะมีราคาแพงขึ้น แต่ป้าก็ไม่หวงใส่กะทิเต็มที่เพื่อให้ข้าวมีความหวานมัน
ส่วนสังขยาของป้าก็เน้นไข่ ไม่ใส่แป้ง ทำให้มีรสชาติอร่อยติดใจใครหลายๆคน ส่วนผัดหมี่ทั้งหลาย
ป้าก็จะใช้เวลาระหว่างที่รอนึ่งข้าวไปผัดไว้ ประเภทละ 1
กระทะใหญ่ และนำมาแบ่งใส่ถุง ขนมจีนน้ำยากะทิก็จะเตรียมทำน้ำยาไว้ก่อน
เพราะไม่ได้มีขั้นตอนที่ซับซ้อน
ป้าจะไปตลาดทุกวันตอนตี 1
และจะกลับมาทำทุกอย่างให้เสร็จก่อน 9 โมง จากนั้นจะนั่งสามล้อมาขายของ
ซึ่งจะทำแบบนี้เป็นประจำ
ป้าเหลียว
กล่าวด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้มว่า ป้ามีลูก 2 คน
มีอาชีพการงานทำเป็นหลักแหล่งแล้ว ลูกมาช่วยป้าทำขนมในบางครั้ง แต่ก็ยังไม่ทราบว่าลูกจะสืบทอดขายข้าวมันของป้าหรือไม่ ถึงอย่างไรป้าก็จะค้าขายต่อไป
เพราะเป็นสิ่งที่ป้ารัก
ใครได้ผ่านไปพบเจอ 2 ร้านนี้
ลองแวะอุดหนุนกันดูสักครั้ง รับรองคุณจะติดใจ
(หนังสือพิมพ์ลานนาโพสต์ ฉบับที่ 1093 วันที่ 26 สิงหาคม - 1 กันยายน 2559)
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น