วันศุกร์ที่ 26 สิงหาคม พ.ศ. 2559

ขนมเบื้องคุณตา-ข้าวมันป้าเหลียว อร่อยริมทาง@ลำปางหนาเจ้า

จำนวนผู้เข้าชม Must See Places In Paris

เมืองไทยได้ชื่อว่าเป็นเมืองที่นิยมร้านอาหารข้างทาง หรือ Street food ซึ่งหลายร้านมีรสชาติอร่อยมากๆ ไม่ว่าจะเป็นอาหารคาว หรือขนมหวานต่างๆ หลายร้านมีชื่อเสียงโด่งดังระดับประเทศ
           
จ.ลำปาง จะเห็นได้ว่าเราก็มีร้านแนว Street food มากมายหลายร้าน แม้จะเป็นร้านรถเข็นเล็กๆ แต่ก็ขึ้นชื่อ ขายมาหลายสิบปี มีลูกค้าก็ไม่เคยขาด เพราะติดใจในรสชาติที่อร่อยในราคายังสบายกระเป๋า
           
ขนมเบื้องโบราณคุณตา
           
ใกล้ๆวัดศรีเกิด ต.หัวเวียง อ.เมืองลำปาง “ร้านขนมเบื้องโบราณคุณตา”  เป็นหนึ่งในร้านที่มีผู้คนแวะเวียนผ่านมาไม่ขาดสาย ถึงแม้ว่าจะต้องรอคิวนานสักนิด แต่ลูกค้าก็ยอมที่จะรอเพื่อได้ลิ้มรสความอร่อยของขนมเบื้องสูตรโบราณ โดยมี คุณตาวีรพงษ์  เครือพงษ์สุข ในวัย 78 ปี  บรรจงลงมือทำขนมด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม และมักจะให้ลูกค้าบริการตัวเองได้การหยิบใส่ถุง เพราะคุณตาต้องนั่งทำขนมแบบไม่ได้หยุดเลยทีเดียว
           
คุณตาวีรพงษ์  เล่าว่า ตนเองเกิดที่จังหวัดกรุงเทพมหานคร เมื่อสมัยยังเป็นวัยรุ่น จำได้ว่าตอนนั้นอายุยังไม่ถึง 20 ปี คุณพ่อได้พาไปเยี่ยมคุณยายที่บ้าน และเห็นคุณยายทำขนมเบื้องโบราณ จึงขอให้คุณยายช่วยสอนให้ ในตอนแรกคุณยายไม่ยอมสอน แต่สุดท้ายก็ใจอ่อนยอมบอกสูตรและวิธีทำให้  โดยครอบครัวของคุณตาเองมีอาชีพค้าขายสืบทอดกันมา  คุณตาจึงเริ่มเป็นพ่อค้าตั้งแต่ช่วงวัยรุ่น ค้าขายอาหาร ขายขนมเรื่อยมา  เคยไปขายขนมเบื้องโบราณที่ อ.หาดใหญ่  ขายดีเทน้ำเทท่าจนทำไม่ทัน จากนั้นก็ได้ย้ายมามีครอบครัวอยู่ที่ลำปาง  อยู่มา 23 ปี แล้ว  แรกๆไปขายที่ตลาดต้นยาง มีคนมายืนรอคิวซื้อจำนวนมาก จนร้านค้าข้างเคียงบอกว่ายืนบังหน้าร้านเขา เลยตัดปัญหาย้ายมาขายหน้าบ้านที่เช่าอยู่ข้างวัดศรีเกิดในปัจจุบัน ลูกค้าก็ตามมาซื้อกันไม่ขาดสาย โดยเปิดขายตั้งแต่ 11 โมง ไปจนถึง 5 โมงเย็น
           
เคล็ดลับความอร่อยของขนมเบื้อง  คุณตา บอกว่าไม่ได้มีเคล็ดลับอะไร เพียงแค่ลงมือทำเองทุกอย่าง ตั้งแต่ทำแป้งผสมกับข้าวกล้องแป้งจะออกสีน้ำตาลเข้ม  ครีมก็จะผสมเองโดยจะรู้ปริมาณของส่วนผสม เพราะคุ้นเคยและทำมานาน  ทำวันละ 2 หม้อ   สำหรับไส้ฝอยทอง ไส้มะพร้าว ก็ลงมือทำเองทั้งหมด  คุณตายังบอกอีกว่า ขนมจะอร่อยหรือไม่อร่อยเราต้องรู้ อยู่ที่เราลงมือทำเอง
           
ถึงแม้จะเป็นช่วงเศรษฐกิจย่ำแย่ ลูกค้าของคุณตาไม่เคยขาดหายไปไหน คุณตาบอกว่า ขนมของคุณตาอร่อย และขายถูก ชิ้นละ 2 บาท  ทานได้ทุกเพศทุกวัย เป็นขนมเบื้องโบราณแท้ๆ  และยังไม่แบบแผ่นใหญ่ใส่ไข่ ราคา 25 บาท และเพิ่มเม็ดมะม่วง 30 บาท  อยากจะมีไส้เพิ่มมากว่านี้แต่ที่ลำปางหาซื้อไม่ได้  ใครผ่านไปแถววัดศรีเกิดและไปอุดหนุนกันได้ทุกวันไม่มีวันหยุด

40 ปี ข้าวมันป้าเหลียว
           
อีกร้านที่อยากแนะนำ คือ  “ร้านข้าวมันป้าเหลียว”  ขายประจำอยู่ที่หน้าธนาคารกรุงเทพ สาขาลำปาง  ถ.ทิพย์ช้าง ต.หัวเวียง อ.เมืองลำปาง   ป้าเหลียว หรือนางวัชราภรณ์ ธรบูรณ์   อายุ 64 ปี  ชาวบ้านชุมชนวัดปงสนุก ต.เวียงเหนือ  จะจ้างคนเข็นรถเข็นมาตั้งขายข้าวมันที่หน้าธนาคาร เกือบทุกวัน โดยจะหยุดเฉพาะวันพุธเท่านั้น  ส่วนตัวป้าเหลียวจะนั่งรถสามล้อตามมา เนื่องจากอายุมากแล้วไม่สามารถเดินเข็นรถมาเองได้เหมือนเมื่อก่อน  ซึ่งคนที่รู้จักจะแวะจอดซื้อกันมาตลอด เพราะมีให้เลือกอร่อยได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น ข้าวมันหน้าสังขยา ข้าวมันหน้าปลาแห้ง  ข้าวก่ำ  ผัดหมี่เหลือง ผัดหมี่กะทิ ผัดขนมจีน  ขนมจีนน้ำยา สาคูบัวลอย  บางวันก็จะมีสังขยาฟักทองด้วย   ป้าเหลียวจะขายราคาเพียง 10 บาท และ 20 บาทเท่านั้น
           
ป้าเหลียวเล่าให้ฟังว่า  ป้าทำอาชีพค้าขายมานานถึง 40 ปีแล้ว ตั้งแต่ป้ายังเป็นสาว เคยไปขายผักในตลาดหัวขัว แต่ระยะหลังผักมีราคาสูงขึ้น จึงเปลี่ยนมาขายข้าวมันแทน เพราะแม่แฟนทำขายมาก่อน ให้ป้าไปช่วยทำ จึงอาศัยครูพักลักจำจนรู้วิธี และด้วยความชอบในการทำอาหารทำขนมเลยทำไปวางขายในตลาด ก็มีลูกค้าติดใจมาอุดหนุนจำนวนมาก  โดยช่วงเช้าป้าจะขายที่ตลาดหัวขัว และตลาดรอบเวียง พอช่วงสาย ก็จะเข็นรถเดินขายรอบในเมืองลำปาง แต่พออายุมากขึ้นก็เริ่มเข็นรถเดินไม่ไหว เพราะเหนื่อยจึงได้มาหยุดจอดพักที่หน้าธนาคารกรุงเทพ เมื่อคนเห็นก็มาจอดรถแวะซื้อเรื่อยๆ ป้าเลยนำรถเข็นมาขายประจำอยู่ที่นี่  
           
ป้าเหลียวยังบอกอีกว่า ป้าจะลงมือทำอาหารและขนมทุกอย่างเองทั้งหมด วันหนึ่งจะใช้ข้าวเหนียวประมาณ 40  ลิตร ลดจากเดิมลงไป 10 ลิตร เพราะปีนี้เศรษฐกิจไม่ค่อยดีนัก  เคล็ดลับของป้าเหลียวคือจะใช้เตาถ่านนึ่งข้าว ทำให้ข้าวไม่แข็ง ส่วนน้ำกะทิจะใช้มะพร้าวที่คั้นเองกับมือ ถึงแม้ว่ามะพร้าวจะมีราคาแพงขึ้น แต่ป้าก็ไม่หวงใส่กะทิเต็มที่เพื่อให้ข้าวมีความหวานมัน ส่วนสังขยาของป้าก็เน้นไข่ ไม่ใส่แป้ง ทำให้มีรสชาติอร่อยติดใจใครหลายๆคน   ส่วนผัดหมี่ทั้งหลาย ป้าก็จะใช้เวลาระหว่างที่รอนึ่งข้าวไปผัดไว้ ประเภทละ 1 กระทะใหญ่ และนำมาแบ่งใส่ถุง   ขนมจีนน้ำยากะทิก็จะเตรียมทำน้ำยาไว้ก่อน เพราะไม่ได้มีขั้นตอนที่ซับซ้อน   ป้าจะไปตลาดทุกวันตอนตี 1 และจะกลับมาทำทุกอย่างให้เสร็จก่อน 9 โมง  จากนั้นจะนั่งสามล้อมาขายของ ซึ่งจะทำแบบนี้เป็นประจำ
           
ป้าเหลียว กล่าวด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้มว่า   ป้ามีลูก 2 คน มีอาชีพการงานทำเป็นหลักแหล่งแล้ว ลูกมาช่วยป้าทำขนมในบางครั้ง  แต่ก็ยังไม่ทราบว่าลูกจะสืบทอดขายข้าวมันของป้าหรือไม่  ถึงอย่างไรป้าก็จะค้าขายต่อไป เพราะเป็นสิ่งที่ป้ารัก 
           
ใครได้ผ่านไปพบเจอ 2 ร้านนี้ ลองแวะอุดหนุนกันดูสักครั้ง รับรองคุณจะติดใจ

(หนังสือพิมพ์ลานนาโพสต์  ฉบับที่ 1093 วันที่ 26 สิงหาคม - 1 กันยายน 2559)
Share:

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

18 ปี ลานนาโพสต์

โครงการปั้นดาว

โครงการปั้นดาว
ขับเคลื่อนโดย Blogger.

จำนวนการดูหน้าเว็บรวม

สถิติการเข้าชมเว็บไซต์