เมื่อวันที่
11 มี.ค.68 โดยการอำนวยการของ นายจิระ ทรงพุฒิผู้อำนวยการสำนักฯ ,นายภัทรเรนทร์ ประสิทธิกุล
ผู้อำนวยการส่วนป้องกันรักษาป่าและควบคุมไฟป่าฯสั่งการให้ นายประกาสิทธิ์ นางวงศ์
หัวหน้าหน่วยป้องกันและพัฒนาป่าไม้งาว นำกำลังเข้าไปดับไฟไหม้ป่าในพื้นที่
รับผิดชอบ โดยระหว่างดับไฟไหม้ป่าห้วยป๋อน บ้านสบป๋อน หมู่ 3 ต.บ้านร้อง อ.งาว จ.ลำปาง
ระหว่างปฏิบัติหน้าที่อยู่นั้น เจ้าหน้าที่ได้พบความผิดปกติพบกอหญ้ากอหนึ่งกองทับถมกัน
จึงเปิดออกดูและได้พบไม้หวงห้ามแปรรูปแล้วจำนวนหนึ่งกองทับซ้อนกันอยู่ โดยมีร่องรอยการชักลากออกจากพื้นที่
จึงได้ประสานกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.งาว ฝ่ายปกครองอำเภองาว ร่วมตรวจสอบติดตามร่องรอยการชักลากไม้และหาข่าวทางลับ
จนพบเบาะแสว่าที่บ้านหลังหนึ่งไม่มีเลขที่
อยู่ป่าท้ายหมู่บ้านแห่งนี้ เป็นแหล่งมั่วสุมเสพยาและซุกซ่อนสิ่งของผิดกฏหมาย
กำลังเจ้าหน้าที่จึงติดตามไปตรวจสอบ และระหว่างนั้นมีชาย 2 คน ที่อยู่ในบ้านสังเกตเห็นขบวนรถเจ้าหน้าที่พากันกระโดดวิ่งหนีหายเข้าไปในป่าทันที
เจ้าหน้าที่ไล่ติดตามไม่ทัน
จึงได้กระจายกำลังเข้าตรวจสอบภายในบ้านพักหลังดังกล่าว ซึ่งพบว่ามีหญิงสาวรายหนึ่งนอนหลับอยู่ภายในเต็นท์ที่กางนอนอยู่กลางโถงบ้าน
เจ้าหน้าที่จึงเรียกตะโกนเรียกให้ตื่นและออกมาจากตัวบ้าน
และเมื่อหญิงสาวออกมาแล้วก็ให้การว่าตนเอง
นอนหลับเพราะเมื่อคืนเสพยาบ้าเข้าไป ทำให้ตอนกลางคืนไม่หลับ พอสายวันนี้จึงง่วงนอนและหลับสนิทจนกระทั่งเจ้าหน้าที่มาเรียกให้ตื่น
หญิงสาว
ให้การอีกว่า ตนเองอาศัยกับนายเกรียงไกร อายุ 42 ปี ชาวกรุงเทพฯ เป็น สามีตนเอง และนายนิรุต อายุ 34 ปี เป็นญาติ
ซึ่งทราบว่าทั้งสองคนหลบหนีไปแล้ว ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะแจ้งเรื่องให้ทราบ และประสานผู้ใหญ่บ้าน
มาร่วมตรวจค้นภายในบ้าน เพราะอาจจะมีสิ่งของผิดกฏหมาย
โดยหญิงสาวคนดังกล่าวยินยอมให้เจ้าหน้าที่ตรวจค้นโดยดี
จากการตรวจสอบเบื้องต้น
เมื่อเปิดประตูบ้านเข้าไป พบไม้แปรรูปวางเรียงรายทั่วบ้านและกองทับซ้อนกัน
เจ้าหน้าที่จึงได้ตรวจสอบพบว่าเป็นไม้ห้วงห้ามแปรรูปแล้ว ทั้งไม้สัก ไม้ประดู่ อุปกรณ์แปรรูปไม้จำนวนหนึ่ง โดยหญิงสาว
ที่อยู่ในบ้านอ้างว่า ไม้ทั้งหมดเป็นของสามีและญาติที่หลบหนีไป
เพราะไปลักลอบตัดและแปรรูปซักลากมาเก็บไว้ภายในบ้านเวลากลางคืน
โดยจะมีนายทุนเข้ามาขนย้ายออกพื้นที่อีกทีก่อนที่จะมาถูกจับกุมได้
ต่อมาเจ้าหน้าที่
นำตัว หญิงสาวคนดักกล่าว ดำเนินคดี พ.ร.บ.ยาเสพติด และจะได้ดำเนินการตามความผิด พ.ร.บ.ป่าไม้
ป่าสงวนแห่งชาติต่อไป ส่วนผู้ต้องหาที่หลบหนีไปทั้ง 2
คนเจ้าหน้าที่ทราบชื่อที่อยู่แล้วจะเร่งติดตามตัวสมาดำเนินคดีต่อไป
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น