วันศุกร์ที่ 4 กรกฎาคม พ.ศ. 2568

กระบะพุ่งชนต้นไม้สนั่น รถพังยับ ลุงดับคาพวงมาลัย

 

เมื่อเวลาประมาณ 02.10 น.วันที่ 5 ก.ค.68  ศูนย์วิทยุ 191 จ.ลำปาง รับแจ้งเกิดอุบัติเหตุรถยนต์ชนต้นไม้ บริเวณทางคู่ขนาน  ก่อนถึงห้างโลตัสลำปาง ถ.ซุปเปอร์ไฮเวย์ ต.พระบาท อ.เมืองลำปาง มีผู้เสียชีวิตภายในรถ จึงประสานร้อยเวรสอบสวน สภ.เมืองลำปาง แพทย์นิติเวช รพ.ลำปาง และกู้ภัยสว่างนครลำปาง ตรวจสอบ

พบรถยนต์กระบะยี่ห้อนิสสัน สีบรอนด์ ทะเบียน จ.กรุงเทพฯ ชนเข้ากับต้นไม้ริมฟุตบาท หน้ารถพังเสียหายทั้งแถบ ภายในรถพบผู้เสียชีวิตอยู่ที่นั่งคนขับรถ เป็นชาย อายุประมาณ 60 ปี ในสภาพนั่งยัดอยู่บริเวณที่พักเท้า เจ้าหน้าที่จึงนำร่างออกมาทำการชันสูตรเบื้องต้น ก่อนนำส่งนิติเวช รพ.ลำปาง เพื่อตรวจสอบสาเหตุอย่างละเอียด และติดต่อญาติรับศพไปดำเนินการตามประเพณีต่อไป


ภาพกู้ภัยสว่างนครลำปาง 

Share:

หนี้ท่วมหัว 10 ล้าน ชาวบ้านกว่า 50 ชีวิต เข้าแจ้งความถูกหลอกกู้เงินลงทุนเลี้ยงวัว

 


กลุ่มวิสาหกิจเลี้ยงวัวเนื้อ อ.แจ้ห่ม จ.ลําปาง 50 ราย นําโดยประธานวิสาหกิจชุมชนฯ ต.ปงดอน พร้อมทนายความเข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตํารวจ สภ.แจ้ห่ม หลังถูกบริษัทเอกชนชักชวนมากู้เงิน ธกส. จนติดหนี้รวมหลาย 10 ล้านบาท แต่ถูกบริษัทลอยแพโครงการ คาดถูกหลอกเอาหน่วยงานของรัฐมาอ้าง

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 4 ก.ค. 68 ที่ สถานีตํารวจภูธรแจ้ห่ม จ.ลําปาง ได้มีกลุ่มวิสาหกิจเลี้ยงวัวเนื้อ 3 กลุ่ม จํานวน 50 คน นําโดยนายสัญญา โลมากุล ประธานวิสาหกิจชุมชนกลุ่มเลี้ยงวัวคุณภาพ ต.ปงดอน อ.แจ้ห่ม จ.ลําปาง พร้อมด้วยนายวราวุฒิ หน่อคํา ทนายความ ได้เข้าแจ้งความกับ ร.ต.อ.ยน เตชะลือ  รอง สว.(สอบสวน) สภ.แจ้ห่ม  โดยนายสัญญา โลมากุล ประธานวิสาหกิจชุมชนผู้เลี้ยงวัว ต.ปงดอน ได้ยื่นเอกสารสําคัญของบริษัทเอกชนรายหนึ่ง เกี่ยวโครงการเลี้ยงวัวเนื้อคุณภาพไว้เป็นหลักฐานกับพนักงานสอบสวน และนายวราวุฒิ หน่อคํา ทนายความ ไว้อีกส่วนหนึ่ง 

นายสัญญา กล่าวว่า หลังกลุ่มของตนเอง จํานวน 50 ราย ได้เข้าโครงการกับบริษัทเอกชนรายนี้ ครั้งแรกก็ดูเหมือนจะได้ดูแล และติดตามจากเจ้าหน้าที่ของบริษัทเป็นอย่างดี และชักชวนกลุ่มผู้เลี้ยงวัวมากู้เงินจากธนาคาร ธกส. โดยอ้างโครงการนี้ ก่อนรวบรวมกลุ่มสมาชิกทั้งหมดไปอบรมกับทางบริษัทที่ จ.พะเยา ดูแล้วโครงการนี้อาจจะสนับสนุนชาวบ้านได้ เพราะมี ธกส. สนับสนุนและกู้เงิน จาก ธกส.มาลงทุนรายละ 3 rแสนบาท ถึง 5 แสนบาท รวมแล้ว 3 กลุ่มนี้ เป็นเงินที่กู้มารวมประมาณ 10 ล้านบาท

จากนั้นเมื่อกลุ่มได้เงินมาก็ไปซื้อวัวเนื้อจากบริษัทนี้ บางราย 5 ตัว 7 ตัว และ 10 ตัว มาเลี้ยง ตอนแรกหลังนําวัวมาเลี้ยงบางตัวเกิดตายไม่ทราบสาเหตุ ทางบริษัทก็นําวัวมาทดแทนให้ แต่พอหลายเดือนวัวเกิดตายอีก ทางบริษัทอ้างว่าไม่ว่าสามารถนําวัวมาทดแทนให้อีกแล้ว เพราะรับวัวเกิน 3 วันตามกติกา ทุกวันนี้กลุ่มผู้เลี้ยงวัวทั้งหมดต้องแบกภาระเลี้ยงวัวจากบริษัทที่เป็นวัวไร้คุณภาพ บางตัวผสมพันธ์ไม่ติดเป็นส่วนใหญ่ ล่าสุดทางกลุ่มผู้เลี้ยงวัวทั้งหมดได้รับหนังสือติดตามเงินที่กู้มา ทุกรายต้องส่งทั้งต้นทั้งดอกภายในเดือน กันยายน 2568 นี้ รวมเป็นกว่า 10 ล้าน

ด้านนายวราวุฒิ หน่อคํา ทนายความ กล่าวว่า เคสนี้เหมือนชาวบ้านถูกหลอก เพราะทางบริษัทอ้างว่าเป็นโครงการของรัฐ จึงมีความเชื่อถือและมั่นใจ  หากโครงการนี้ไม่ดี ธนาคารคงไม่ปล่อยเงินให้กู้แน่นอน เมื่อกู้เงินมาได้ก็ไปซื้อวัวจากบริษัทที่จัดมาให้บางตัวราคา 2-3 หมื่น แต่เป็นวัวด้อยคุณภาพผสมพันธ์ไม่ติด เมื่อทวงถามไปที่บริษัทก็ไม่สามารถติดต่อได้ เพราะมีแต่บริษัทแต่ไม่มีคนอยู่ ที่ผ่านมาชาวบ้านทําตามกติกาทุกอย่าง แต่บริษัทผิดสัญญาชาวบ้านไม่ผิดสัญญา จึงสงสัยว่าถูกหลอกแล้ว ชาวบ้านจึงมาทวงความยุติธรรม เพราะต้องแบกหนี้ วัวก็จะตายทั้งคอก  ต่อมาพนักงานสอบสวนได้รับแจ้งความและตั้งข้อหาฉ้อโกง จากทางบริษัทนี้แล้ว และได้เรียกเจ้าหน้าที่ของบริษัทเอกชนรายมาสอบสวน ตามที่ระบุในเอกสารมาสอบสวนต่อไป


Share:

วันพฤหัสบดีที่ 3 กรกฎาคม พ.ศ. 2568

"กรมอุทยานฯ แจงชัด! 'เหี้ย' เพาะพันธุ์ได้แต่ต้องขออนุญาต – ห้ามจับจากธรรมชาติเด็ดขาด"


        

          นายอรรถพล​ เจริญชันษา​ อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า​ และพันธุ์พืช​ เปิดเผยว่า จากกรณีที่ "เหี้ย" (Varanus salvator) ได้รับการประกาศในราชกิจจานุเบกษาให้เป็นสัตว์ป่าคุ้มครองที่สามารถเพาะพันธุ์ได้อย่างเป็นทางการเมื่อปลายปีที่ผ่านมานั้น ขอเรียนชี้แจงและทำความเข้าใจแก่ประชาชนทุกท่านว่า "การเปลี่ยนแปลงสถานะดังกล่าว ไม่ได้หมายความว่าประชาชนทั่วไปจะสามารถจับเหี้ยจากธรรมชาติมาเลี้ยง หรือเพาะพันธุ์เหี้ยได้ทันทีโดยไม่มีข้อกำหนด และไม่ไช่เหี้ยที่อยู่ตามธรรมชาติ แต่เป็นเหี้ยที่อยู่ที่สถานีเพาะเลี้ยงที่ได้รับอนุญาตให้จำหน่ายเพื่อให้ผู้ได้รับอนุญาตนำไปเพาะขยายพันธุ์เท่านั้น"

        จากนโยบายดังกล่าว สืบเนื่องจากกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ได้เล็งเห็นถึงศักยภาพของเหี้ยในการเป็นสัตว์เศรษฐกิจชนิดใหม่ ที่จะสร้างมูลค่าเพิ่มและสร้างรายได้ให้กับเกษตรกรและผู้ประกอบการทั่วประเทศ จึงได้มีการเร่งดำเนินการในหลายส่วน หนึ่งในนั้นคือการที่คณะกรรมการฯ ได้เห็นชอบ การกำหนดราคาสัตว์ป่าคุ้มครองที่เพาะพันธุ์ได้ (เหี้ย) ซึ่งจะนำไปสู่การออกระเบียบว่าด้วยการกำหนดอัตราเรียกเก็บค่าใช้จ่าย ค่าบริการ หรือค่าตอบแทน และราคาสัตว์ป่า เพื่อเพิ่มรายการเหี้ยไว้ในบัญชีดังกล่าว และจะประกาศลงในราชกิจจานุเบกษาต่อไป



  • ใครบ้างที่สามารถเพาะพันธุ์เหี้ยได้?​
        เน้นย้ำว่า การเพาะพันธุ์เหี้ยเพื่อการค้าหรือเพื่อวัตถุประสงค์ใด ๆ ก็ตาม จำเป็นต้องได้รับอนุญาตจากกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เท่านั้น โดยผู้ที่สามารถดำเนินการได้คือ ผู้ประกอบการที่ได้รับอนุญาตเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าตามกฎหมาย ซึ่งจะต้องปฏิบัติตามระเบียบและหลักเกณฑ์ที่กรมฯ กำหนดไว้อย่างเคร่งครัด
  •  เงื่อนไขสำหรับผู้ที่ประสงค์จะขออนุญาตเพาะพันธุ์มีดังนี้​
        ผู้ขออนุญาตเพาะพันธุ์ต้องเป็นผู้ได้รับใบอนุญาตเพาะพันธุ์สัตว์ป่าคุ้มครอง มีกรรมสิทธิ์ในที่ดินที่จะทำการเพาะเลี้ยงหรือได้รับการยินยอมจากเจ้าของกรรมสิทธิ์ในที่ดินนั้น และต้องไม่มีประวัติเคยต้องโทษคดีเกี่ยวกับ พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2562​ ในส่วนของพ่อแม่พันธุ์ ไม่สามารถจับได้เองจากธรรมชาติ​ เนื่องจากเหี้ยยังมีสถานะเป็นสัตว์ป่าคุ้มครองตาม พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2562 จำเป็นต้องซื้อจากสถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าเท่านั้น และหลังจากมีผู้ได้รับอนุญาตเพาะพันธุ์และมีสัตว์ที่ได้จากการเพาะพันธุ์แล้ว ผู้ขออนุญาตจึงจะสามารถซื้อจากสถานที่เพาะพันธุ์ที่ได้รับอนุญาตนั้นได้
        นอกจากนี้ เหี้ยที่ได้จากการเพาะพันธุ์ทุกตัวต้องมีการทำเครื่องหมายโดยการฝังไมโครชิพ เพื่อป้องกันการลักลอบนำมาจากธรรมชาติ​ เนื่องจากไม่สามารถจับเหี้ยจากธรรมชาติมาเลี้ยงเองได้



  • สิ่งสำคัญที่ประชาชนต้องทำความเข้าใจ
         เหี้ยยังคงเป็น "สัตว์ป่าคุ้มครอง" การจับเหี้ยจากธรรมชาติมาเลี้ยง หรือครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตยังคงเป็นสิ่งที่ "ผิดกฎหมาย" และมีบทลงโทษตามพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2562
        ทั้งนี้ วัตถุประสงค์ของการส่งเสริมการเพาะพันธุ์​ มีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมการเพาะพันธุ์เหี้ยเชิงเศรษฐกิจอย่างถูกกฎหมายและยั่งยืน และสร้างโอกาสทางเศรษฐกิจให้กับผู้ที่สนใจและมีคุณสมบัติตามที่กำหนด​ ดังนั้น หากท่านใดสนใจที่จะประกอบอาชีพเกี่ยวกับการเพาะพันธุ์เหี้ย หรือมีข้อสงสัยเพิ่มเติม สามารถติดต่อสอบถามรายละเอียดและขั้นตอนการขออนุญาตได้ที่ ส่วนคุ้มครองสัตว์ป่า สำนักอนุรักษ์สัตว์ป่า กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ในเวลาราชการ เพื่อให้การดำเนินการเป็นไปอย่างถูกต้องตามกฎหมาย และร่วมกันผลักดันให้เหี้ยเป็นสัตว์เศรษฐกิจที่สร้างประโยชน์อย่างยั่งยืนต่อไป



ที่มา กรมอุทยาน สัตว์ป่า และพันธุ์พืช
Share:

สลด! เจอร่างลุงวัย 61 จมน้ำดับกลางสระนา หลังพบเพียงรองเท้าทิ้งไว้ริมตลิ่ง

 

เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 3 กรกฎาคม 2568  ผู้ใหญ่บ้านบ้านแพะ หมู่ 4 ต.สบปราบ อ.สบปราบ จ.ลำปาง  ได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่า พบรองเท้าถูกถอดทิ้งไว้ริมสระน้ำกลางทุ่งนา หมู่ 4  อย่างผิดสังเกต แต่ไม่พบเจ้าของรองเท้าอยู่ในบริเวณดังกล่าว เกรงว่าจะมีผู้จมน้ำเสียชีวิต จึงขอความช่วยเหลือเจ้าหน้าที่กู้ภัยเข้าตรวจสอบค้นหาผู้สูญหาย



ต่อมา สมาคมกู้ภัยลำปาง จุดสบปราบ พร้อมชุดกู้ภัยใต้น้ำ นทีลำปางได้เร่งเข้าตรวจสอบและเริ่มปฏิบัติการค้นหา ใช้เวลาประมาณ 15 นาที จนกระทั่งพบร่างผู้เสียชีวิตลอยอยู่บริเวณกลางสระ ที่มีความลึกประมาณ 3 เมตร  เจ้าหน้าที่ได้นำร่างผู้เสียชีวิตขึ้นจากน้ำ ก่อนประสานแพทย์เวรและพนักงานสอบสวนเข้าชันสูตรพลิกศพ  ทราบชื่อภายหลังคือ นายถิรพล อายุ 61 ปี ชาวบ้านแพะ หมู่ 4 ต.สบปราบ อ.สบปราบ จ.ลำปาง



เบื้องต้นยังไม่ทราบสาเหตุแน่ชัดว่าเกิดจากการพลัดตกน้ำหรือเป็นลมหมดสติ จนเป็นเหตุให้จมน้ำเสียชีวิต ซึ่งเจ้าหน้าที่จะสอบสวนหาข้อเท็จจริงอย่างละเอียด จากนั้นจึงส่งร่างผู้เสียชีวิตให้ญาติเพื่อประกอบพิธีทางศาสนาต่อไป

ภาพ สมาคมกู้ภัยลำปาง จุดสบปราบ 

Share:

วันพุธที่ 2 กรกฎาคม พ.ศ. 2568

ลำปางรุกหนัก! บุกตรวจโรงเรียน จับรถแต่ง 172 คัน - เตือนสายแว้นเสี่ยงคุกถึง 3 เดือน

        ตำรวจภูธรจังหวัดลำปางเปิดปฏิบัติการ "เปิดโรงเรียน เปิดโรงรถ" ระหว่างวันที่ 1-7 กรกฎาคม 2568 เพื่อปราบปรามรถจักรยานยนต์ดัดแปลงผิดกฎหมาย

        พล.ต.ต.ภูมิปัญญ์ญา นวตระกูลพิสุทธิ์ ผบก.ภ.จว.ลำปาง และ พ.ต.อ.กฤษดา พันธ์เกษม รอง ผบก. สั่งการ 21 สภ. ในพื้นที่รับผิดชอบ สั่งระดมกวาดล้างยานพาหนะที่มีสภาพไม่ปลอดภัยและผิดกฎหมายโดยประสานผู้บริหารสถานศึกษาและอู่รถเอกชน   

        ผลการดำเนินงาน ตรวจพบรถจักรยานยนต์ที่มีการแต่งแปลงสภาพ ติดตั้งท่อเสียงดัง และอุปกรณ์ไม่ครบถ้วน รวม 172 คัน  และส่งมอบเจ้าพนักงานที่เกี่ยวข้อง ทำการตรวจสอบบันทึกประวัติผู้ขับขี่ตามอำนาจและหน้าที่ ตามลำดับ 

  • โทษสำหรับผู้กระทำผิด

        ผู้ขับขี่ หากแข่งรถในทางสาธารณะ: จำคุกไม่เกิน 3 เดือน หรือปรับ 5,000-10,000 บาท และขับรถไม่คำนึงความปลอดภัย: จำคุกไม่เกิน 3 เดือน หรือปรับ 2,000-10,000 บาท  ส่วนผู้จัดการแข่งขัน/โฆษณา มีโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับ 10,000-20,000 บาท

        ขณะที่ผู้ปกครองที่ปล่อยปละละเลยจะมีโทษ จำคุกไม่เกิน 3 เดือน หรือปรับไม่เกิน 30,000 บาท หากเด็กกระทำผิดซ้ำ ริบเงินประกันและดำเนินคดีเพิ่มเติม  หากเจ้าของรถ ให้คนไม่มีใบขับขี่ใช้รถ ปรับไม่เกิน 2,000 บาท ปล่อยให้เด็กประพฤติไม่เหมาะสม จำคุกไม่เกิน 3 เดือน หรือปรับไม่เกิน 30,000 บาท  กรณีเป็นร้านแต่งรถ หากรถที่แต่งถูกนำไปแข่งผิดกฎหมาย จะได้รับโทษ 2 ใน 3 ของโทษการแข่งรถ

  • ขอความร่วมมือประชาชน

        ตำรวจภูธรจังหวัดลำปางขอความร่วมมือผู้ปกครองและเจ้าของรถ ไม่ให้เด็กและเยาวชนแข่งรถในทางสาธารณะ เนื่องจากเป็นอันตรายต่อชีวิต สร้างความเดือดร้อน และผิดกฎหมาย แจ้งเบาะแส: สายด่วน 191 หรือ 1599 ตลอด 24 ชั่วโมง

Share:

อุตุฯประกาศเตือน! ฝนถล่มภาคเหนือ 2-6 ก.ค. 68 เสี่ยงน้ำท่วมฉับพลัน-น้ำป่าไหลหลาก

 


ช่วงวันที่ 2-6 กรกฎาคม 2568 บริเวณภาคเหนือมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง บริเวณจังหวัด แม่ฮ่องสอน เชียงราย พะเยา น่าน แพร่ เชียงใหม่ ลำพูน ลําปาง อุตรดิตถ์ ตาก พิษณุโลก และเพชรบูรณ์ เนื่องจากจะมีร่อง มรสุมกําลังปานกลางถึงค่อนข้างแรงพาดผ่านภาคเหนือตอนบน ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน และประเทศลาวตอนบน เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณประเทศเวียดนามตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กําลังปานกลางพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย

ขอให้ประชาชนระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วม ฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ควรหลีกเลี่ยงการเดินทางผ่าน บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง และเส้นทางที่มีปัญหาน้ำท่วมซ้ำซาก โดยเฉพาะพื้นที่ลุ่มต่ำ ซึ่งอาจเกิดน้ำท่วมขังในระยะสั้นได้

สำหรับเกษตรกรควรเสริมความแข็งแรงให้ไม้ผล และเตรียมการป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นกับผลผลิตทางการเกษตรและสัตว์เลี้ยง



Share:

วันอังคารที่ 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2568

หนุ่มลำปางวัย 30 ปี ขับมอเตอร์ไซค์เฉี่ยวชนรถทัวร์โดยสารดับคาที่

 


             วันที่ 2 ก.ค. 2568 เวลา 04.03 น. พ.ต.ท.มนตรี ดวงวะนา สว.(สอบสวน)สภ.เกาะคา ได้รับแจ้งอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์เฉี่ยวชนกับรถโดยสารประจำทาง มีผู้เสียชีวิต บริเวณถนนทางหลวงหมายเลข 1 ซุปเปอร์ไฮเวย์ ขาเข้าลำปาง เลยหน้าร้านประจำ ม.1 ต.ศาลา อ.เกาะคา จ.ลำปาง จึงรายงานผู้บังคับบัญชาทราบแล้วเดินทางตรวจสอบที่เกิดเหตุ 

        พบรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า สีดำ ทะเบียน จ. เชียงใหม่ ล้มตะแคงอยู่กลางถนน พบเศษชิ้นส่วนรถ และพบร่าง นายณัฐดนัย อุทาหรณ์ อายุ 30 ปี ที่อยู่ ม.7 ต.วังพร้าว อ.เกาะคา จ.ลำปาง  ผู้ขับขี่เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ  และพบรถทัวร์สีฟ้าขาว ของบริษัทแห่งหนึ่ง ทะเบียน จ.กรุงเทพฯ  จอดอยูในช่องทางเดียวกัน ขาเข้าลำปาง ห่างจุดพบศพประมาณ 40 เมตร สภาพหน้ารถฝั่งซ้ายแตกเสียหาย พบ นายไพรศาล ชาภู่พวง อายุ 53 ปี ชาว ต.บางพลับ อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี เป็นผู้ขับขี่ประจำรถ (ตรวจไม่พบแอลกอฮอล์)  

        ทั้งนี้ ร้อยเวรสอบสวน พร้อมกับแพทย์นิติเวช รพ.เกาะคา และเจ้าหน้าที่สมาคมกู้ภัยเกาะคา ได้ร่วมกันชันสูตรศพเบื้องต้น ก่อนนำส่งชันสูตรอย่างละเอียดที่ รพ.ศูนย์ลำปาง ต่อไป   ส่วนสาเหตุอยู่ระหว่างการสอบสวนต่อไป 




Share:

สภ.เถิน ร่วมครูวิทยาลัยการอาชีพ กวาดล้างรถผิดกฎหมาย พบฝ่าฝืน 24 คัน

เมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 1 กรกฎาคม 2568 สถานีตำรวจภูธรเถิน ดำเนินการตรวจสอบรถจักรยานยนต์ผิดกฎหมายภายในวิทยาลัยการอาชีพเถิน เพื่อสร้างจิตสำนึกด้านความปลอดภัยและการเคารพกฎหมายจราจรในกลุ่มเยาวชน  ตามการสั่งการของ พ.ต.อ.กิตติ มาลีหวล ผกก.เถิน  และ พ.ต.ท.ปิยะพล ถ้ำวัตร รอง ผกก.ป  โดยมอบหมายให้ พ.ต.ท.กชพงษ์ ติ๊บปะละวงศ์ สวป.และ พ.ต.ต.วรวุฒิ ตาวงศ์ สวป. (ชส.) พร้อมเจ้าหน้าที่จราจร หน่วยร้อยเวร 20 และได้รับความร่วมมือจากคณะครูฝ่ายปกครอง วิทยาลัยการอาชีพเถิน ในการประชาสัมพันธ์และดำเนินการตรวจสอบ

ผลการตรวจสอบการตรวจสอบพบรถจักรยานยนต์ที่มีการดัดแปลงผิดกฎหมายทั้งสิ้น 24 คัน โดยแบ่งการดำเนินการดังนี้  แจ้งเตือนและให้แก้ไข 23 ราย ให้มาแจ้งตัวที่สถานีตำรวจภูธรเถิน ในวันที่ 2 กรกฎาคม 2568  ยึดรถทันที 1 คัน เนื่องจากฝ่าฝืนหลายข้อหา ได้แก่  ไม่ติดป้ายทะเบียน  ไม่มีสำเนาทะเบียนรถประจำตัว  ดัดแปลงสภาพรถผิดกฎหมาย

ทั้งนี้ การปฏิบัติการครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของนโยบายสร้างความปลอดภัยทางถนนและพัฒนาจิตสำนึกเยาวชนให้เป็นพลเมืองดีที่เคารพกฎหมาย เพื่อลดปัญหาอุบัติเหตุจราจรในอนาคต

ที่มา สภ.เถิน 

Share:

18 ปี ลานนาโพสต์

โครงการปั้นดาว

โครงการปั้นดาว
ขับเคลื่อนโดย Blogger.

จำนวนการดูหน้าเว็บรวม

สถิติการเข้าชมเว็บไซต์