วันเสาร์ที่ 24 พฤษภาคม พ.ศ. 2568

พ่อแม่ลูกกอดกันร่ำไห้ เกิดไฟไหม้บ้านวอดทั้งหลัง ก่อนลุกลามไปบ้านของน้าที่อยู่ติดกัน อาศัยอยู่ 2 คนผัวเมีย เมื่อทราบข่าวต่างเป็นลมล้มพับไปทั้งคู่

 

เมื่อวันที่ 24 พ.ค.68 เวลาประมาณ 13.35 น. ศูนย์รับแจ้งเหตุ191 จ.ลำปาง ได้รับแจ้งว่ามีเหตุเพลิงไหม้บ้านพัก ภายในหมู่บ้านทรายทองพัฒนา ม.10 ต.บ้านเสด็จ อ.เมืองลำปาง จ.ลำปาง  จึงรีบแจ้ง พ.ต.ต .พงศกร อินทร์หอม สว.(สอบสวน) สภ.บ้านเสด็จ พร้อมเจ้าหน้าที่สายตรวจ ออกไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ  พร้อมประสานรถดับเพลิงจาก อบต.บ้านเสด็จ และ อบต.บุญนาคพัฒนา และรถน้ำจากท้องถิ่นใกล้เคียงอีก 2 คัน  เพื่อทำการดับไฟ เพื่อไม่ให้ลุกลาม


ในที่เกิดเหตุพบว่าไฟได้ลุกลามไหม้บ้านหลังแรก ซึ่งอยู่ติดกับริมรั้ว เป็นบ้านเลขที่ 139 บ้านของนายจีระศักดิ์ กาวิตา  อายุ 46 ปี  ซึ่งขณะเกิดเหตุออกไปทำงาน  ก่อนจะลุกลามไปยังบ้านหลังใหญ่ที่อยู่ข้างๆกันอีกหลัง เลขที่ 462 บ้านของนายจันทร์แดง ธรรมสิทธิ์ อายุประมาณ 60 ปี  เจ้าหน้าที่ได้เร่งดำเนินการระดมฉีดน้ำดับไฟจนสำเร็จ  เบื้องต้นไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต  ส่วนทรัพย์สินได้รับความเสียหายบ้านจำนวน 2 หลัง



ต่อมานายจีระศักดิ์ กาวิตา  เป็นเจ้าของบ้านเลขที่ 139  ทราบข่าวได้เดินทางกลับมาที่บ้าน ต่างร่ำไห้กอดกับภรรยาและลูกสาว  เมื่อพบว่าบ้านถูกไฟไหม้วอดทั้งหลัง รถจักรยานยนต์ที่กำลังผ่อนอยู่ก็ถูกไฟไหม้ไปทั้งหมด เสียหายไป 2 คัน  ส่วนอีกบ้านอีกหลังเลขที่ 462 เป็นของนายจันทร์แดง ธรรมสิทธิ์ เป็นน้าของตนเอง เมื่อทราบข่าวต่างเป็นลมล้มพับไปตามกัน    เบื้องต้นสันนิษฐานว่าเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร

 อย่างไรก็ตามทางร้อยเวรสอบสวน ร่วมกับศูนย์พิสูจน์หลักฐาน ได้ทำการสอบปากคำเจ้าของบ้าน และผู้เห็นเหตุการณ์ เพื่อหาสาเหตุอย่างละเอียดต่อไป



การให้ความช่วยเหลือ สามารถร่วมบริจาคเป็นทุนทรัพย์ได้ที่ บัญชี ธนาคารไทยพาณิชย์ เลขที่ 8802134401 ชื่อบัญชี น.ส.ญาณี คำยอแสง  (ภรรยาของนายจีระศักดิ์ กาวิตา)  หรือบริจาคสิ่งของใช้จำเป็นได้ที่ อบต.บ้านเสด็จ อ.เมืองลำปาง

 





 

Share:

วันศุกร์ที่ 23 พฤษภาคม พ.ศ. 2568

จ.ลำปาง มุ่งปราบแก๊งเงินกู้นอกระบบ จัดตั้งศูนย์อำนวยการแก้ไขหนี้นอกระบบทุกอำเภอ ช่วยเหลือผู้ตกเป็นเหยื่อ


นายรัชพล แก้วจิตคงทอง ผู้ช่วยป้องกันจังหวัดลำปาง ได้ร่วมแถลงข่าวสื่อมวลชนประเด็นการเดินหน้าแก้ไขปัญหาแก๊งปล่อยเงินกู้นอกระบบในพื้นที่จังหวัดลำปาง เมื่อวันก่อน โดยเปิดเผยว่า จังหวัดลำปางให้ความสำคัญต่อการแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบอย่างต่อเนื่อง เพื่อลดผลกระทบที่เกิดขึ้นกับประชาชน โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากพฤติกรรมของกลุ่มนายทุนที่แสวงหาผลประโยชน์จากประชาชนอย่างไม่เป็นธรรม


ตามนโยบายของนายชุติเดช มีจันทร์ ผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง ได้เน้นย้ำแนวทางการดำเนินงานเชิงรุกในการแก้ไขปัญหาแก๊งปล่อยเงินกู้นอกระบบ โดยมีการบูรณาการความร่วมมือระหว่างฝ่ายปกครอง ตำรวจ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในการกวดขัน ตรวจสอบ และจับกุมกลุ่มบุคคลหรือเครือข่ายที่กระทำผิดกฎหมายอย่างต่อเนื่อง พร้อมยืนยันว่าจะดำเนินการตามกฎหมายกับผู้กระทำความผิดอย่างจริงจังและเด็ดขาด

จังหวัดลำปางมีความมุ่งมั่นในการยกระดับความสงบเรียบร้อย ความปลอดภัย และคุณภาพชีวิตของประชาชน โดยได้มีการจัดตั้ง ศูนย์อำนวยการแก้ไขหนี้นอกระบบณ ที่ว่าการอำเภอทุกแห่ง เพื่อรองรับเรื่องร้องเรียนและดำเนินการช่วยเหลือผู้ตกเป็นเหยื่อ

อย่างไรก็ตาม ปัญหาอุปสรรคที่พบในช่วงที่ผ่านมาคือ ประชาชนผู้ได้รับผลกระทบจากหนี้นอกระบบจำนวนมากยังไม่กล้าแสดงตัว ไม่กล้าเปิดเผยข้อมูล หรือแจ้งความ เนื่องจากเกรงกลัวอิทธิพลของกลุ่มนายทุนเงินกู้นอกระบบ จึงส่งผลให้เจ้าหน้าที่ขาดข้อมูลที่เพียงพอในการขยายผลไปสู่การดำเนินคดีกับผู้ปล่อยกู้นอกระบบรายใหญ่

เพื่อเป็นการแก้ไขปัญหาอย่างยั่งยืน จังหวัดลำปางจึงขอความร่วมมือจากประชาชน หากพบเห็นหรือมีข้อมูลเกี่ยวกับการปล่อยเงินกู้นอกระบบ สามารถแจ้งเบาะแสได้ที่ ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดลำปาง โทร. 1567 หรือที่ ศูนย์อำนวยการแก้ไขหนี้นอกระบบ ณ ที่ว่าการอำเภอทุกแห่ง โดยข้อมูลของผู้แจ้งเบาะแสจะถูกเก็บไว้เป็นความลับอย่างเคร่งครัด



Share:

วันพฤหัสบดีที่ 22 พฤษภาคม พ.ศ. 2568

หนุ่มวัยรุ่นขี่มอเตอร์ไซค์ชนสุนัขเสียชีวิตคาที่ บาดเจ็บ 2 ราย


เมื่อเวลา 21.27 น.  วันที่ 22 พ.ค. 68  เจ้าหน้าที่กู้ภัยสว่างนครลำปาง ได้ออกให้การช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ หลังรับแจ้งจากประชาชนมีอุบัตเหตุจักรยานยนต์ชนสุนัข บริเวณถนนสุเรนทร์ หน้าสวนอากง ต.สบตุ๋ย อ.เมืองลำปาง   เบื้องต้นพบผู้บาดเจ็บเป็นชายอายุ 16 ปี   2  ราย มีถลอกตามร่างกาย จึงปฐมพยาบาลและนำส่ง รพ.ลำปาง

 นอกจากนั้นในที่เกิดเหตุยังพบว่ามีเสียชีวิต 1 ราย คือสุนัขพันธุ์ไทยพื้นเมืองสีน้ำตาล คาดว่าเป็นสุนัขจรจัดไม่มีเจ้าของ ทางเจ้าหน้าที่กู้ภัยจึงได้นำเก็บไปฝังในจุดที่ปลอดภัยต่อไป 

ภาพ กู้ภัยสว่างนครลำปาง








Share:

รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ พบปะชาวบ้านแม่ฮวก อ.เกาะคา พร้อมหนุนอาชีพทำไม้กวาด แย้มวางตัวผู้สมัคร ส.ส.ลำปาง

 


วันที่ 22 พ.ค.68 เวลา 13.30 น.  นายสุรเดช ยะสวัสดิ์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.)  พร้อมคณะ ได้เดินทางมายังวัดแม่ฮวก ต.ไหล่หิน อ.เกาะคา จ.ลำปาง โดยมีนายวัฒนา สิทธิวัง  ส.อบจ.ลำปาง เขต อ.เกาะคา พร้อมผู้บริหารท้องถิ่นในพื้นที่  ร่วมพบปะกับชาวบ้าน และผู้สนับสนุน



         โดยรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ได้พูดคุยกับชาวบ้านกลุ่มทำไม้กวาดจากขวดพลาสติก เพื่อสอบถามการทำงานและรับทราบปัญหาของชาวบ้าน  เบื้องต้นชาวบ้านแจ้งว่า บ้านแม่ฮวกได้รับซื้อพลาสติกจากหมู่บ้านต่างๆ เพื่อนำมาทำไม้กวาด และอัดพลาสติกส่งขาย จึงต้องการเครื่องอัดพลาสติกที่เป็นระบบไฮโดรลิก เนื่องจากที่ผ่านมาชาวบ้านใช้การอัดพลาสติกด้วยแรงคน ทำให้กำลังการผลิตได้ไม่มากพอ หากมีเครื่องอัดจะทำให้ทุ่นแรง และสามารถจัดการได้ดียิ่งขึ้น  ซึ่งทางรองหัวหน้าพรรค ได้รับเรื่องและมอบหมายให้ทางนายวัฒนา สิทธิวัง ประสานงานกับทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่อไป พร้อมกับจะนำไม้กวาดจากขวดพลาสิตกไปนำเสนอให้กับกลุ่มจังหวัดอื่นๆ เพื่อเปิดตลาดให้กว้างขวางขึ้นด้วย


ในส่วนของการเดินสายภาคเหนือในครั้งนี้  นายสุรเดช ยะสวัสดิ์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ เปิดเผยว่า ได้รับมอบหมายจากพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ให้ทำหน้าที่ดูแลพื้นที่ภาคเหนือตอนบน 8 จังหวัดได้แก่ เชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน ลำปาง พะเยา แพร่ แม่ฮ่องสอน น่าน ทั้งหมด 34 เขต ซึ่งมีจำนวน ส.ส.รวม 34 คน  จึงได้ลงพื้นที่ภาคเหนือเพื่อพบปะกับผู้ที่แสดงเจตจำนงต้องการลงสมัครเป็นตัวแทนพรรคในการเลือกตั้งปี 2570 กว่า 30 คน ซึ่งล้วนแต่เป็นบุคคลคุณภาพ เป็นที่รู้จักของคนในพื้นที่ ยืนยันว่า พรรคจะคัดเลือกตัวแทนที่ดีที่สุด มีความสามารถ ส่งลงสนามสู้ศึกเลือกตั้ง

          เรื่องการเปิดตัวผู้สมัคร ส.ส.ลำปาง มีแนวคิดว่าจะส่งลงทุก 4 เขต และพร้อมผลักดันนายวัฒนา สิทธิวัง ในการลงสมัคร ส.ส.ลำปางครั้งต่อไปอย่างเต็มที่ เพราะเคยเป็น อดีต ส.ส.ของพรรคพลังประชารัฐในพื้นที่ จ.ลำปาง  และขณะนี้ยังคงเปิดกว้างที่จะรับสมัครผู้ที่มีเจตนารมย์ในการทำงานร่วมกับพรรค  แต่อย่างไรก็ตามยังคงต้องฟังมติจากทางพรรคร่วมด้วย  ซึ่งขณะนี้สถานการณ์การเมืองไม่แน่ไม่นอน พรรคจึงต้องมีการเตรียมความพร้อมในการคัดสรรผู้สมัคร ส.ส.ในการเลือกตั้งครั้งต่อไป  นายสุรเดช กล่าว.



 

 

Share:

กระบะชนประสานเก๋ง อัดก๊อปปี้ป้าคนขับเก๋งติดในรถอาการสาหัส ส่วนชายคนขับกระบะมากับลูกสาววัย 1 ขวบ เจ็บเล็กน้อย

 

เมื่อเวลาประมาณ 12.00 น. วันที่  22 พ.ค.68  ศูนย์วิทยุ สภ.แม่ทะ จ.ลำปาง ได้รับแจ้งว่าเกิดอุบัติเหตุรถยนต์ชนกัน มีผู้ได้รับบาดเจ็บติดภายในรถ  เหตุเกิดบริเวณใกล้บริษัท พีเค การเกษตร ถ.ห้วยหลอ-แม่ทะ  ต.แม่ทะ อ.แม่ทะ จ.ลำปาง  จึงรีบประสานร้อยเวรสอบสวน สภ.แม่ทะ และเจ้าหน้าที่สมาคมกู้ภัยแม่ทะ เข้าตรวจสอบให้การช่วยเหลือ

เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุ พบรถยนต์เก๋งสีเทา ทะเบียน จ.ลำปาง สภาพรถพังเสียหายทั้งคัน โดยเฉพาะบริเวณด้านหน้ากระโปรงรถและกระจกแตกทั้งบาน พุ่งตกลงไปข้างทาง โดยมีคนขับรถเป็นหญิงอายุ 60 ปี ชาวบ้านหลุก อ.แม่ทะ จ.ลำปาง ติดอยู่ภายในรถ ได้รับบาดเจ็บสาหัส เจ้าหน้าที่กู้ภัยจึงได้ใช้เครื่องตัดถ่างงัดประตูรถเพื่อนำตัวผู้บาดเจ็บออกมา  เบื้องต้น ยังรู้สึกตัวดี แต่มีอาการซึม มีแผลฉีกขาดตามร่างกายหลายแห่ง จึงเร่งนำส่งโรงพยาบาลทันที 

ส่วนรถคู่กรณีอีกคันเป็นรถยนต์กระบะ อิซูซุ สี่ประตู สีบรอนด์ทอง จอดขวางอยู่กลางถนน สภาพด้านหน้ารถพังเสียหายเช่นกัน โดยมีคนขับรถเป็นชายได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย  และมีเด็กหญิงอายุ 1 ขวบ รู้สึกตัวได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยเช่นกัน เจ้าหน้าที่ได้ปฐมพยาบาลก่อนนำส่งตรวจอย่างละเอียดที่โรงพยาบาล  ทั้งนี้ สาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุ อยู่ระหว่างทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสอบสวนอย่างละเอียดต่อไป  

ภาพ สมาคมกู้ภัยแม่ทะ

Share:

โครงการนวัตกรรมระบบวิเคราะห์การสะสมตัวของเถ้าหลอมในหม้อไอนํ้าเชิงรุก โครงการต้นแบบตามหลักธรรมาภิบาล กฟผ. ด้านความคุ้มค่า


โครงการต้นแบบของฝ่ายการผลิตโรงไฟฟ้าแม่เมาะ (อฟม.) ชื่อ โครงการนวัตกรรมระบบวิเคราะห์การสะสมตัวของเถ้าหลอมในหม้อไอนํ้าเชิงรุก (ABC Active Boiler Condition Monitoring System) ผ่านการคัดเลือกเป็นโครงการต้นแบบที่มีความโดดเด่นในการปฏิบัติตามหลักธรรมาภิบาลสายงานรองผู้ว่าการผลิตไฟฟ้า(รวฟ.) ประจำปี 2568 ด้วยหลักธรรมาภิบาลที่โดดเด่นด้าน หลักความคุ้มค่า ผ่านการคัดเลือกได้เป็นตัวแทนสายงานเข้าไปนำเสนอผลงานในรอบ กฟผ.ในเดือนมิถุนายน 2568

Active Boiler Condition Monitoring System (ABC) คือ การใช้ Machine Learning เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำความสะอาด Boiler เพื่อสร้างความมั่นคงของระบบไฟฟ้าและเพิ่มประสิทธิภาพให้กับระบบผลิต ซึ่งการผลิตไฟฟ้าด้วยถ่านหินลิกไนต์ของโรงไฟฟ้าแม่เมาะ ก่อให้เกิดความสกปรกขึ้นภายในเตาเผา ต้องใช้อุปกรณ์ทำความสะอาด(Water Cannon) มากถึง 288 ครั้งต่อวัน ใช้น้ำมากถึง 5 ตันต่อครั้ง ฉีดพ่นเข้าไปในกองไฟทุกครั้งที่มีการทำความสะอาด เกิดการสูญเสียความร้อนและทำให้ต้องใช้ถ่านหินลิกไนต์เพิ่มขึ้นอีก 130 ตันต่อวัน จากปัญหาที่กล่าวมาทำให้ทีมได้คิดวิธีแก้ปัญหา คือ การลดการทำความสะอาดให้เหมาะสมกับสภาพความสกปรกของเตา

โรงไฟฟ้าแม่เมาะมีการนำ ABC เข้ามาใช้งานเพื่อลดความถี่ของการทำความสะอาดเตาจากเดิม 288 ครั้งต่อวัน เหลือเพียง 24 ครั้งต่อวัน ทำให้ช่วยลดการใช้ถ่านได้ 130 ตันต่อวัน โดยที่โรงไฟฟ้ายังมีความมั่นคง ซึ่งการใช่ถ่านหินลิกไนต์ที่น้อยลงส่งผลให้ CO2 ที่จะปล่อยสู่บรรยากาศลดลงไปด้วย จากข้อมูลเมื่อปี พ.ศ. 2565 สามารถลดการปลดปล่อย CO2 สะสมถึง 65,000 tonCO2e ซึ่งการนำ ABC เข้าใช้งานในโรงไฟฟ้าแม่เมาะเครื่องที่ 14 ยังช่วยแก้ไขปัญหาหินหลอมละลาย(Slag) ที่เกิดจากการเผาไหม้ถ่านหินลิกไนต์ที่ไม่สมบูรณ์เกาะสะสมอยู่ตามผนังเตาเป็นก้อนขนาดใหญ่และตกลงมาสร้างความเสียหายกับอุปกรณ์จนทำให้โรงไฟฟ้าต้องหยุดเดินเครื่องอยู่บ่อยครั้ง โดยตั้งแต่นำเขาใช้งานก็ไม่เกิดปัญหานี้ขึ้นอีก การที่โรงไฟฟ้าสามารถเดินเครื่องได้อย่างมีประสิทธิภาพสม่ำเสมอ ใช้ถ่านหินน้อยลง ลดการปลดปล่อย CO2 จึงเป็นนวัตกรรมใหม่และเป็นทรัพย์สินทางปัญญาของ กฟผ. ซึ่งตัวชี้วัดและเกณฑ์การดำเนินงานมีความน่าเชื่อถือและเป็นที่ยอมรับในธุรกิจผลิตไฟฟ้าทั้งในและต่างประเทศ สามารถนำไปปรับใช้ได้กับโรงไฟฟ้าอื่นๆ ได้




โรงไฟฟ้าแม่เมาะตระหนักและทราบดีว่าการผลิตไฟฟ้าจากเชื้อเพลิงถ่านหินลิกไนต์มีการปลดปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่เป็นสาเหตุของสภาวะโลกร้อน ทั้งนี้ทิศทางพลังงานในอนาคตที่มุ่งเน้นไปสู่พลังงานสะอาดและลดการใช้เชื้อเพลิงฟอสซิล ซึ่งตามแผนการดำเนินงานโรงไฟฟ้าแม่เมาะจะค่อยๆ ลดการผลิตไฟฟ้าจากถ่านหินลิกไนต์ลง และเพิ่มสัดส่วนพลังงานหมุนเวียนเข้ามาแทนที่ ซึ่งต้องดำเนินการควบคู่ไปกับการรักษาความมั่นคงด้านพลังงานของประเทศไว้ด้วย การบรรลุเป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอน(Carbon Neutrality) ให้ได้ภายในปี ค.ศ.2050 ต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ไม่ว่าจะเป็นด้านพลังงาน สิ่งแวดล้อม เศรษฐกิจ สังคม และการเมือง ที่สำคัญประชาชนต้องเข้าใจและตระหนักถึงความสำคัญของพลังงานสะอาด รวมไปถึงภาครัฐที่ต้องเพิ่มความเข้มข้นในการกำหนดนโยบาย เพื่อให้การเปลี่ยนผ่านบรรลุวัตถุประสงค์และไม่เกิดปัญหาขาดแคลนพลังงานขึ้นในอนาคต
Share:

วันพุธที่ 21 พฤษภาคม พ.ศ. 2568

ตำรวจลำปางรวบหนุ่มรับจ้างส่งยาบ้า ได้ค่าจ้างวันละ 100 บาท แถมยาบ้ามาเสพฟรีอีก 50 เม็ด


          พ.ต.อ.ไพโรจน์ ทองขาว ผกก.สส.ภ.จว.ลำปาง,  พ.ต.ท.พิรชัช ปากเพรียว รอง ผกก.สส.ภ.จว.ลำปางเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม  กก.สส.ภ.จว.ลำปาง  นำโดย  พ.ต.ต.ณภัทร  แสนชัยชุม สว.กก.สส.ภ.จว.ลำปาง, ร.ต.ต.วรยุทธ  ต๊ะค่า รอง สว.กก.สส.ภ.จว.ลำปาง ได้จับกุมตัวนายตง (นามสมมุติ) อายุ 30 ปี  ชาว ต.ชมพู อ.เมือง จ.ลำปาง พร้อมของกลางยาบ้า 815 เม็ด โทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง มาสอบสวน ก่อนนำส่งร้อยเวร สภ.เขลางค์นครดำเนินคดี"จำหน่ายซึ่งยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า หรือ เมทแอมเฟตามีน ) โดยมีไว้ครอบครองเพื่อจำหน่ายอันเป็นการกระทำเพื่อการค้าโดยไม่ได้รับอนุญาต

          ก่อนจับกุมเจ้าหน้าที่รับแจ้งและได้รับร้องเรียนจากประชาชนว่า ที่หอพักแห่งหนึ่งเขต ต.ชมพู อ.เมืองลำปาง จ.ลำปางว่า มีกลุ่มวัยรุ่นมั่วสุมเสพยา สร้างความเดือนร้อนรำคาญและยังรับแจ้งจากสายลับว่า นายตง มีพฤติกรรมเกี่ยวข้องกับยาเสพติดและมักจะไปมั่วสุมเสพยาด้วย เมื่อไปถึงหอพักดังกล่าว พบนายตงมีพิรุธอยู่ในห้อง เจ้าหน้าที่จึงแสดงตัวก่อนจะทำการตรวจค้นเบื้องต้นพบยาบ้าของกลางข้างต้นในกล่องในห้องนอน

      นายตงรับสารภาพว่า ยาบ้าที่พบตนร้บจ้างส่งจากเอเย่นต์คนหนึ่ง นำไปส่งและวางให้ลูกค้าตามจุดต่างๆ โดยได้ค่าจ้างวันละ 100บาท และได้ยาบ้ามาเสพอีก 50 เม็ด ก่อนจะมาถูกจับกุมดังกล่าว

Share:

วันอังคารที่ 20 พฤษภาคม พ.ศ. 2568

ตำรวจเจอหนุ่มวัย 17 ปี เดินสะลึมสะลือข้างทาง เรียกมาถามแต่พยายามเดินหนี จึงคุมตัวและขอตรวจค้น พบยาบ้า 119 เม็ดในกระเป๋า รับเสพมา 11 เม็ด

 

วันที่ 20 พ.ค.68 เวลาประมาณ 14.30 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.แม่พริก จว.ลำปาง ภายใต้อำนวยการสั่งการของ พ.ต.อ.ประสิทธิ์  หล้าสมศรี ผกก.สภ.แม่พริก จว.ลำปาง  ชุดจับกุมนำโดย พ.ต.ท.สุพรรณ หอมนาน  รอง ผกก.สส.ฯ ,พ.ต.ท.สุมิตร  ปิงวัง สว.สส.ฯ พร้อมเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน  ร่วมจับกุม นายณัฐ (นามสมมุติ)  อายุ 17 ปี อยู่บ้าน หมู่ 2 ต.แม่พริก  อ.แม่พริก จ.ลำปาง พร้อมของยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) ชนิดเม็ดกลมแบนสีส้ม ประทับอักษร WY จำนวน 119 เม็ด  กระทำผิด ข้อหา มียาเสพติดให้โทษประเภท 1(ยาบ้า)ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และเสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1(ยาบ้า)โดยผิดกฎหมาย จับกุมได้บนถนนสาธารณะในหมู่บ้านแม่พริกลุ่ม หมู่ 1 ต.แม่พริก อ.แม่พริก

ก่อนหน้านื้ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ออกปฏิบัติหน้าที่ ระดมกวาดล้างอาชญากรรมและยาเสพติด ในพื้นที่รับผิดชอบ และได้รับแจ้งจากสายลับว่าพบผู้ชายคนหนึ่งมีพิรุธเหมือนกับคนมีสิ่งผิดกฎหมาย กำลังเดินอยู่บริเวณบนถนนสาธารณะในหมู่บ้านแม่พริกลุ่ม ม.1 ต.แม่พริก อ.แม่พริก จ.ลำปาง เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม จึงได้เดินทางไปตรวจสอบบริเวณดังกล่าว โดยอาศัยอำนาจของเจ้าพนักงาน ป.ป.ส. ของพ.ต.ท.สุมิตร ปิงวัง สว.สส.ฯ  ได้พบชายคนหนึ่งทราบชื่อภายหลังคือ นายณัฐ อายุ 17 ปี  เมื่อเห็นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้แสดงอาการมีพิรุธ พยายามเดินหลบหนี   เจ้าหน้าที่จึงได้ไล่ติดตามอย่างกระชั้นชิด และส่งเสียงเรียกให้หยุด ก่อนจะควบคุมตัวไว้

จากการตรวจค้นตัวนายณัฐ พบยาบ้า จำนวน 119 เม็ด ซุกซ่อนอยู่ในขวดพลาสติกมีฝาปิดพันด้วยเทปกาวสีดำ อยู่ในถุงย่ามที่สะพายอยู่   สอบถามนายณัฐ รับว่ายาบ้าเป็นของตนเอง มีไว้เพื่อเสพเอง  โดยซื้อมาจากชายไม่ทราบชื่อ นามสกุล บ้านท่าไผ่ ต.ยกกระบัตร จ.ตาก มาจำนวน 130  เม็ด ในราคา 1,400 บาท จ่ายเป็นเงินสด  ซึ่งชายไม่ทราบชื่อได้นำยาบ้ามาวางไว้ให้กับตนบริเวณหัวสะพานบ้านท่าไผ่  ต.ยกกระบัตร จ.ตาก

 ก่อนจะมาถูกจับกุม นายณัฐรับว่าได้เสพไป มาจำนวน 11 เม็ด ที่บ้านของตนเอง ในช่วงเช้าของวันที่ 19 พ.ค.68  ซึ่งนายณัฐมีอาการมึนๆ สะลึมสะลือเหมือนคนเพิ่งเสพยามา เจ้าหน้าที่จึงได้ควบคุมตัวนายณัฐ มายัง  สภ.แม่พริก  และทำการตรวจปัสสาวะเบื้องต้นด้วยน้ำยาเคมี  ผลเป็นบวก จึงได้นำตัวอย่างปัสสาวะ ส่งตรวจยืนยันผลที่ รพ.แม่พริก อีกครั้งหนึ่ง เวลาต่อมาได้รับผลการตรวจปัสสาวะ จาก รพ.พริก ยืนยันว่าพบสารเสพติดเมทแอมเฟตามีน อยู่ในปัสสาวะ ซึ่งนายณัฐให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา จึงคุมตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป





Share:

18 ปี ลานนาโพสต์

โครงการปั้นดาว

โครงการปั้นดาว
ขับเคลื่อนโดย Blogger.

จำนวนการดูหน้าเว็บรวม

สถิติการเข้าชมเว็บไซต์