วันเสาร์ที่ 27 ธันวาคม พ.ศ. 2568

สรุป รายชื่อผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดลำปาง ทั้ง 4 เขต

 

วันที่ 27 ธันวาคม 2568 ที่หอประชุมจันทน์ผา มหาวิทยาลัยราชภัฏลำปาง อำเภอเมือง จังหวัดลำปาง ซึ่งเป็นสถานที่สมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร แบบแบ่งเขต จังหวัดลำปาง ทั้ง 4 เขต  ก่อนเวลาเปิดรับสมัคร พบว่าบรรยากาศทั่วไปเป็นไปอย่างคึกคัก โดยมีผู้สมัครจากพรรคใหญ่ส่งผู้สมัครครบทุกเขต และพบว่ามีผู้สมัครรายเดิมย้ายสังกัดพรรคหลายคน

        พรรคเพื่อไทย นำโดยนายไพโรจน์ โล่ห์สุนทร ผู้สมัครบัญชีรายชื่อ มาพร้อมกับนายกิตติกร โล่ห์สุนทร  นายธนาธร  โล่ห์สุนทร นายบุญเลิศ แสนเทพ  และ น.ส.รภัสสรณ์ นิยะโมสถ  ขณะที่นายพินิจ จันทรสุรินทร์ ผู้สมัครบัญชีรายชื่อพรรคภูมิใจไทย นำทีมผู้สมัครทั้ง 4 เขตมาด้วย  คือ นายชวนิต จันทรสุรินทร์  นายศรีพรหม หอมยก  นายจรัสฤทธิ์ จันทรสุรินทร์  และนางภุมรา จันทรสุรินทร์ 

        ส่วนพรรคประชาชน มาครบทั้ง เขต เช่นกัน  นางทิพา ปวีณาเสถียร  น.ส.สุวิภา กุศลจูง นายชลธานี เชื้อน้อย และนายบอนด์ สุริยะ  อีกพรรคที่น่าจับตามองคือ พรรคกล้าธรรม มีนายต่อ อภิวัฒน์ ศรีไชยยานุพันธ์  นายดาชัย เอกปฐพี  นางระพีพรรณ โพธิ์ทอง และน.ส.เพ็ญภัค รัตนคำฟู    และพรรคประชาธิปัติย์ส่งผู้สมัครครบทั้ง เขต เช่นกัน น.ส.อมลยา เจนตวานิชย์  น.ส.วิชุดา ว่องวัฒนวิโรจน์  นายธนภัทร ศรีปินตา   และ น.ส.สิรินทิพย์ วงศ์วรกุลกิจ

        นอกจากนั้น ยังมีพรรคการเมืองที่มาสมัครในวันแรกอีกหลายพรรค เช่น พรรคพลังประชารัฐ พรรคไทยสร้างไทย  พรรครวมไทยสร้างชาติ พรรคโอกาสใหม่ พรรคไทยก้าวใหม่  เป็นต้น

        เมื่อถึงเวลา 08.30 น. ทางคณะกรรมการการเลือกตั้งฯแต่ละเขต จึงได้ทำการจับลำดับของผู้สมัคร ทั้ง เขต  หลังยื่นเอกสารเสร็จ ทางผู้สมัครแต่ละพรรคได้ออกไปพบปะกับบรรดากองเชียร์ที่มารอมอบดอกไม้ให้กำลังใจด้านนอกห้องประชุม ทำให้บรรยากาศทั่วไปคึกคัก

สรุปรายชื่อและหมายเลขผู้สมัคร ส.ส. ลำปางทั้ง 4 เขต 

เขตเลือกตั้งที่ 1

เบอร์ 1 นายอธิวัฒน์ ศรีไชยยานุพันธ์  พรรคกล้าธรรม

เบอร์ 2 นายบุญเชิด พรมศร  พรรคโอกาสใหม่

เบอร์ 3 นายชวนิต จันทรสุรินทร์ พรรคภูมิใจไทย

เบอร์ 4 นายกิตติกร โล่สุนทร พรรคเพื่อไทย

เบอร์ 5นายนริศ แสงบุญเรือง  พรรคไทยก้าวใหม่

เบอร์ 6 ร.ต.อ. ประสิทธิ ทิววงศ์ษา  พรรคเศรษฐกิจ

เบอร์ 7 นางสาวอมลยา เจนตวนิชย์ พรรคประชาธิปัตย์

เบอร์ 8 นางทิพา ปวีณาเสถียร พรรคประชาชน

 

เขตเลือกตั้งที่  2

เบอร์ นางสาววิชุดา ว่องวัฒนวิโรจน์  พรรคประชาธิปัตย์

เบอร์ 2 นางสาวสุวิภา กุศลจูง พรรคประชาชน

เบอร์ 3 นายศรีพรหม หอมยก พรรคภูมิใจไทย

เบอร์ 4 นายสมบูรณ์ รูปสะอาด  พรรคโอกาสใหม่

เบอร์ นายดาชัย เอกปฐพี พรรคกล้าธรรม

เบอร์ 6 นายธนาธร โล่สุนทร พรรคเพื่อไทย

 

เขตเลือกตั้งที่  3 

เบอร์ 1 นางระพีพรรณ โพธิ์ทอง  พรรคกล้าธรรม

เบอร์ 2 นายประยูร แก้วเดียว พรรคเศรษฐกิจ

เบอร์ 3 นายชาญณรงค์ มาเรียน พรรคพลังประชารัฐ

เบอร์ 4 นายชลธานี เชื้อน้อย พรรคประชาชน

เบอร์ 5 นายจรัสฤทธิ์ จันทรสุรินทร์ พรรคภูมิใจไทย

เบอร์ 6 ดร.อรุณรัตน พลอยจันทร์กูล พรรครวมไทยสร้างชาติ

เบอร์ 7 นายบุญเลิศ แสนเทพ พรรคเพื่อไทย


เขตเลือกตั้งที่ 4

เบอร์ 1 นางสาวธัญญาทิพย์ ดาวเรือง  พรรคไทยสร้างไทย

เบอร์ 2 นางสาวภัสสรณ์ นิยะโมสถ พรรคเพื่อไทย

เบอร์ 3 นางสาวเพ็ญภัค รัตนคำฟู พรรคกล้าธรรม

เบอร์ 4 นางสาวสิรินทิพย์ วงศ์วรกุลกิจ พรรคประชาธิปัตย์

เบอร์ 5 นางสาวณฐอร ชมพูรัตน์ พรรคพลังประชารัฐ

เบอร์ 6 นางภุมรา จันทรสุรินทร์ พรรคภูมิใจไทย

เบอร์ 7  นายบอนด์ สุริยะ พรรคประชาชน

 










Share:

วันศุกร์ที่ 26 ธันวาคม พ.ศ. 2568

ลำปางเปิดรับสมัคร ส.ส.แบ่งเขตเลือกตั้งวันแรก บรรยากาศคึกคัก พรรคใหญ่ส่งผู้สมัครครบทุกเขต

        วันที่ 27 ธันวาคม 2568 ที่หอประชุมจันทน์ผา มหาวิทยาลัยราชภัฏลำปาง อำเภอเมือง จังหวัดลำปาง ซึ่งเป็นสถานที่สมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร แบบแบ่งเขต จังหวัดลำปาง ทั้ง 4 เขต  ก่อนเวลาเปิดรับสมัคร พบว่าบรรยากาศทั่วไปเป็นไปอย่างคึกคัก โดยมีผู้สมัครจากพรรคใหญ่ส่งผู้สมัครครบทุกเขต และพบว่ามีผู้สมัครรายเดิมย้ายสังกัดพรรคหลายคน

        พรรคเพื่อไทย นำโดยนายไพโรจน์ โล่ห์สุนทร ผู้สมัครบัญชีรายชื่อ มาพร้อมกับนายกิตติกร โล่ห์สุนทร  นายธนาธร  โล่ห์สุนทร นายบุญเลิศ แสนเทพ  และ น.ส.รภัสสรณ์ นิยะโมสถ  ขณะที่นายพินิจ จันทรสุรินทร์ ผู้สมัครบัญชีรายชื่อพรรคภูมิใจไทย นำทีมผู้สมัครทั้ง 4 เขตมาด้วย  คือ นายชวนิต จันทรสุรินทร์  นายศรีพรหม หอมยก  นายจรัสฤทธิ์ จันทรสุรินทร์  และนางภุมรา จันทรสุรินทร์ 

        ส่วนพรรคประชาชน มาครบทั้ง 4 เขต เช่นกัน  นางทิพา ปวีณาเสถียร  น.ส.สุวิภา กุศลจูง นายชลธานี เชื้อน้อย และนายบอนด์ สุริยะ  อีกพรรคที่น่าจับตามองคือ พรรคกล้าธรรม มีนายต่อ อภิวัฒน์ ศรีไชยยานุพันธ์  นายดาชัย เอกปฐพี  นางระพีพรรณ โพธิ์ทอง และน.ส.เพ็ญภัค รัตนคำฟู    และพรรคประชาธิปัติย์ส่งผู้สมัครครบทั้ง 4 เขต เช่นกัน น.ส.อมลยา เจนตวานิชย์  น.ส.วิชุดา ว่องวัฒนวิโรจน์  นายธนภัทร ศรีปินตา   และ น.ส.สิรินทิพย์ วงศ์วรกุลกิจ


        นอกจากนั้น ยังมีพรรคการเมืองที่มาสมัครในวันแรกอีกหลายพรรค เช่น พรรคพลังประชารัฐ พรรคไทยสร้างไทย  พรรครวมไทยสร้างชาติ พรรคโอกาสใหม่ พรรคไทยก้าวใหม่  เป็นต้น

        เมื่อถึงเวลา 08.30 น. ทางคณะกรรมการการเลือกตั้งฯแต่ละเขต จึงได้ทำการจับลำดับของผู้สมัคร ทั้ง 4 เขต  หลังยื่นเอกสารเสร็จ ทางผู้สมัครแต่ละพรรคได้ออกไปพบปะกับบรรดากองเชียร์ที่มารอมอบดอกไม้ให้กำลังใจด้านนอกห้องประชุม ทำให้บรรยากาศทั่วไปคึกคัก

สรุปรายชื่อและหมายเลขผู้สมัคร ส.ส. ลำปางทั้ง 4 เขต 

เขตเลือกตั้งที่ 1

เบอร์ 1 นายอธิวัฒน์ ศรีไชยยานุพันธ์  พรรคกล้าธรรม

เบอร์ 2 นายบุญเชิด พรมศร  พรรคโอกาสใหม่

เบอร์ 3 นายชวนิต จันทรสุรินทร์ พรรคภูมิใจไทย

เบอร์ 4 นายกิตติกร โล่สุนทร พรรคเพื่อไทย

เบอร์ 5นายนริศ แสงบุญเรือง  พรรคไทยก้าวใหม่

เบอร์ 6 ร.ต.อ. ประสิทธิ ทิววงศ์ษา  พรรคเศรษฐกิจ

เบอร์ 7 นางสาวอมลยา เจนตวนิชย์ พรรคประชาธิปัตย์

เบอร์ 8 นางทิพา ปวีณาเสถียร พรรคประชาชน

 

เขตเลือกตั้งที่  2

เบอร์ 1 นางสาววิชุดา ว่องวัฒนวิโรจน์  พรรคประชาธิปัตย์

เบอร์ 2 นางสาวสุวิภา กุศลจูง พรรคประชาชน

เบอร์ 3 นายศรีพรหม หอมยก พรรคภูมิใจไทย

เบอร์ 4 นายสมบูรณ์ รูปสะอาด  พรรคโอกาสใหม่

เบอร์ 5 นายดาชัย เอกปฐพี พรรคกล้าธรรม

เบอร์ 6 นายธนาธร โล่สุนทร พรรคเพื่อไทย

 

เขตเลือกตั้งที่  3 

เบอร์ 1 นางระพีพรรณ โพธิ์ทอง  พรรคกล้าธรรม

เบอร์ 2 นายประยูร แก้วเดียว พรรคเศรษฐกิจ

เบอร์ 3 นายชาญณรงค์ มาเรียน พรรคพลังประชารัฐ

เบอร์ 4 นายชลธานี เชื้อน้อย พรรคประชาชน

เบอร์ 5 นายจรัสฤทธิ์ จันทรสุรินทร์ พรรคภูมิใจไทย

เบอร์ 6 ดร.อรุณรัตน พลอยจันทร์กูล พรรครวมไทยสร้างชาติ

เบอร์ 7 นายบุญเลิศ แสนเทพ พรรคเพื่อไทย

เบอร์ 8  นายธนภัทร ศรีปินตา  พรรคประชาธิปัติย์

 

เขตเลือกตั้งที่ 4

เบอร์ 1 นางสาวธัญญาทิพย์ ดาวเรือง  พรรคไทยสร้างไทย

เบอร์ 2 นางสาวภัสสรณ์ นิยะโมสถ พรรคเพื่อไทย

เบอร์ 3 นางสาวเพ็ญภัค รัตนคำฟู พรรคกล้าธรรม

เบอร์ 4 นางสาวสิรินทิพย์ วงศ์วรกุลกิจ พรรคประชาธิปัตย์

เบอร์ 5 นางสาวณฐอร ชมพูรัตน์ พรรคพลังประชารัฐ

เบอร์ 6 นางภุมรา จันทรสุรินทร์ พรรคภูมิใจไทย

เบอร์ 7  นายบอนด์ สุริยะ พรรคประชาชน

 

 


Share:

วันพฤหัสบดีที่ 25 ธันวาคม พ.ศ. 2568

พปชร. ลำปาง ส่ง “เอ้ ณฐอร” ทายาท ‘โกแอ๊ด’ ชิงเก้าอี้เขต 4 มั่นใจดีกรีดอกเตอร์-นักธุรกิจรุ่นใหม่ คว้าชัยเลือกตั้ง

 

พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เปิดตัว "ขุนพลหญิง" คนสำคัญ สู้ศึกเลือกตั้งลำปาง เขต 4 เคาะชื่อ ดร.เอ้-ณฐอร ชมภูรัตน์นักธุรกิจหญิงเก่งทายาทนักการเมืองดัง ลงชิงชัย มั่นใจความรู้คู่ประสบการณ์และรากฐานที่ผูกพันกับชุมชน จะเปลี่ยนโฉมการพัฒนาพื้นที่ 5 อำเภอตอนใต้ของจังหวัด

จากการประชุมสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ เมื่อวันที่ 23 ธันวาคม 2568 ที่ผ่านมา ณ ชุมชนบ้านเวียง อ.เถิน ที่ประชุมมีมติเป็นเอกฉันท์ส่ง นางสาวณฐอร ชมภูรัตน์ หรือ "ดร.เอ้" เป็นตัวแทนพรรคลงสมัคร สส.ลำปาง เขต 4  (ครอบคลุมพื้นที่ อ.เกาะคา, อ.เสริมงาม, อ.สบปราบ, อ.เถิน และ อ.แม่พริก)

โดยล่าสุดเมื่อวันที่ 25 ธันวาคม พรรคได้ยืนยันความพร้อมในการส่ง ผู้สมัครทั้ง 3 เขต  คือ   เขต 2  พันเอกสันทัด ภัทรกิตตินนท์  เขต 3 เปา-ชาญณรงค์ มาเรียนอดีตผู้สมัคร ส.อบจ.ลำปาง และ เขต 4 ดร.เอ้  ณฐอร ชมภูรัตน์  ซึ่งทั้งหมดถือเป็นความหวังของพรรคที่จะคว้าที่นั่ง ส.ส. ในจังหวัดลำปางครั้งนี้  โดยมีกำหนดการเดินทางไปสมัครอย่างเป็นทางการในวันที่ 27 ธันวาคม 2568 ณ มหาวิทยาลัยราชภัฏลำปาง

 

  • ส่องโปรไฟล์ “เอ้” จาก หัวใจสิงห์แดงสู่ นักบริหารรุ่นใหม่

ดร.เอ้ ณฐอรในวัย 52 ปี ไม่ใช่หน้าใหม่ในวงการสังคมและการเมือง เธอคือบุตรสาวของ นายจุมพร ชมภูรัตน์ หรือ โกแอ๊ดอดีตนายกเทศมนตรีเมืองล้อมแรด และเป็นพี่สาวของนายกเทศมนตรีคนปัจจุบัน

นอกจากสายเลือดนักพัฒนาแล้ว เธอยังพกพาดีกรีความรู้มาแน่นปึก  จบปริญญาโท รัฐศาสตร์ (การเมืองการปกครอง) มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์  และปริญญาเอก ความชำนาญเฉพาะทางด้าน CSR จากยุโรป  ประสบการณ์ทำงาน เป็นนักธุรกิจเจ้าของแบรนด์สินค้าสุขภาพในเครือ "ใจเฮง" อ.เถิน และที่ปรึกษาพิเศษนายกเทศมนตรีเมืองล้อมแรด

 


  • ผู้อยู่เบื้องหลังการแก้ปัญหาน้ำยั่งยืน

จุดเด่นของ ดร.เอ้ ณฐอรคือการทำงานเชิงรุกที่เข้าถึงปัญหาจริง ผลงานชิ้นโบแดงคือการผลักดัน "โครงการประตูระบายน้ำแม่น้ำวังบ้านเหล่า" ที่กำลังจะเป็นเส้นเลือดใหญ่ในการแก้ภัยแล้งและน้ำท่วมให้พี่น้องชาวเถินและพื้นที่ใกล้เคียง ซึ่งจะช่วยกักเก็บน้ำได้มหาศาลกว่า 4.41 ล้านลูกบาศก์เมตร ครอบคลุมพื้นที่เกษตรกรรมกว่า 20,500 ไร่

ดร.เอ้ กล่าวว่า "การเลือกตั้งครั้งนี้ ไม่ใช่แค่การชิงเก้าอี้ แต่คือการนำความรู้ด้านการบริหารธุรกิจและรัฐศาสตร์ มาต่อยอดงานพัฒนาที่พ่อและน้องชายทำไว้ เพื่อให้คนเขต 4 ลำปาง มีกินมีใช้และมีน้ำทำเกษตรตลอดปี"  

จับตาดูว่าในวันที่ 27 ธันวาคมนี้ การเปิดตัวอย่างเป็นทางการ จะสร้างแรงกระเพื่อมในพื้นที่เขต 4 ได้มากน้อยเพียงใด แต่ที่แน่ๆ ชื่อของเธอคือคู่แข่งที่ "ประมาทไม่ได้" ในสนามเลือกตั้งครั้งนี้



Share:

วันพุธที่ 24 ธันวาคม พ.ศ. 2568

ทต.แม่เมาะ ลงพื้นที่เหมืองแม่เมาะ ตรวจสอบการปฏิบัติตามมาตรการป้องกันสิ่งแวดล้อมในการทำเหมืองแร่ลิกไนต์และเหมืองหินปูน

เมื่อวันที่ 23 ธันวาคม 2568 ที่ ห้องประชุม M2 อาคารที่ทำการเหมืองแม่เมาะ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) แม่เมาะ คณะเทศบาลตำบลแม่เมาะ (ทต.แม่เมาะ) ต.แม่เมาะ อ.แม่เมาะ จ.ลำปาง นำโดย นายธรรมการ ชุมศรี นายกเทศบาลตำบลแม่เมาะ เข้าตรวจสอบการปฏิบัติตามมาตรการป้องกันและแก้ไขผลกระทบสิ่งแวดล้อมโครงการเหมืองแร่ลิกไนต์ และเหมืองหินปูนเพื่ออุตสาหกรรมเคมี โดยมี นายธิติพันธ์ พงษ์รามัญ ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายวางแผนและบริหารเหมืองแม่เมาะ-2. (ช.อบม-2.) พร้อมด้วยผู้ปฏิบัติงานที่เกี่ยวข้อง บรรยายสรุปผลการปฏิบัติตามมาตรการป้องกันและแก้ไขผลกระทบสิ่งแวดล้อม พร้อมกับ ร่วมแลกเปลี่ยนความคิดเห็น และหารือแนวทางการแก้ไขปัญหา ตลอดจนพัฒนาการดำเนินงานให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและสอดคล้องกับมาตรการที่กำหนด จากนั้น ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมการทำงานบริเวณเหมืองหินปูน FGD กฟผ.แม่เมาะ 


สำหรับการลงพื้นที่ในครั้งนี้ เป็นไปตามการถ่ายโอนภารกิจจากกรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ (กพร.) ที่ให้ให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นรับผิดชอบในการติดตาม ตรวจสอบ และเฝ้าระวังคุณภาพสิ่งแวดล้อมและมลพิษจากการทำเหมืองแร่ ตามพระราชบัญญัติแร่ พ.ศ. 2560 และรายงานให้ กพร. ทราบต่อไป

Share:

สถาบันวิจัยเทคโนโลยีเกษตร มทร.ล้านนา เชิญร่วมงานเกษตรแฟร์ ATRI ครั้งที่ 2 และฉลอง 50 ปี จัดประกวดชิงถ้วยพระราชทานฯ 9–11 ม.ค. 2569 ณ สถาบันวิจัยเทคโนโลยีเกษตร มทร.ล้านนา จังหวัดลำปาง

 


สถาบันวิจัยเทคโนโลยีเกษตร มทร.ล้านนา เชิญร่วมงานเกษตรแฟร์ ATRI ครั้งที่ 2 และฉลอง 50 ปี จัดประกวดชิงถ้วยพระราชทานฯ 9–11 ม.ค. 2569  ณ สถาบันวิจัยเทคโนโลยีเกษตร มทร.ล้านนา จังหวัดลำปาง

ภายในงานจัดให้มีการประกวดผลผลิตและสัตว์สวยงาม ชิงถ้วยพระราชทาน สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ได้แก่ การประกวดฟักทอง การประกวดสับปะรด การประกวดกล้วยน้ำว้ามะลิอ่อง และการประกวดไก่แจ้สวยงาม แยกประเภทเพศผู้และเพศเมีย เพื่อส่งเสริมการพัฒนาคุณภาพผลผลิตทางการเกษตรและอนุรักษ์พันธุ์พื้นถิ่น


นอกจากนี้ ภายในงานยังมีกิจกรรมที่น่าสนใจอีกมากมาย อาทิ การจำหน่ายสินค้าเกษตรและอาหารแปรรูปจากเกษตรกรและผู้ประกอบการท้องถิ่น การจัดหลักสูตรฝึกอบรมอาชีพด้านเกษตรในเมืองและการเพาะต้นอ่อนพืชออร์แกนิก การจัดแสดงบูธนิทรรศการและแปลงสาธิตทางการเกษตร ตลอดจนกิจกรรมวันเด็ก เพื่อเปิดโอกาสให้เยาวชนและประชาชนได้เรียนรู้และมีส่วนร่วมด้านการเกษตรอย่างสร้างสรรค์

สถาบันวิจัยเทคโนโลยีเกษตร มทร.ล้านนา ขอเชิญชวนผู้สนใจเข้าร่วมงาน ร่วมแสดงผลงาน แลกเปลี่ยนองค์ความรู้ และสัมผัสบรรยากาศงานเกษตรแฟร์ที่ครบครันตลอดทั้ง 3 วัน

Share:

วันอังคารที่ 23 ธันวาคม พ.ศ. 2568

ปิดฉากยุคบุกเบิก “โรงไฟฟ้าแม่เมาะ” ชัตดาวน์ 3 เครื่องสิ้นปี 68 จับตาเงินกองทุนพัฒนาไฟฟ้าหายวับ 154 ล้านต่อปี

 

เผยแผนส่งท้ายปี 2568 โรงไฟฟ้าแม่เมาะเตรียมปลดระวางโรงไฟฟ้าเก่าอีก 3 เครื่อง หลังเสร็จสิ้นภารกิจ "ฮีโร่" ช่วยพยุงค่าไฟช่วงวิกฤตพลังงานโลก ส่งผลกำลังผลิตวูบเหลือเพียง 1,795 เมกะวัตต์ จากเดิมสามารถผลิตได้สูงถึง  2,400 เมกะวัตต์  ขณะที่ชุมชนรอบพื้นที่เตรียมรับมือรายได้กองทุนพัฒนาไฟฟ้าหายปีละกว่า 154 ล้านบาท

  • ย้อนรอยเครื่อง 4-7 จากยุคบุกเบิกสู่ภารกิจ "ฟื้นคืนชีพ"

หากย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2528 ถือเป็นวันประวัติศาสตร์ที่โรงไฟฟ้าแม่เมาะ เครื่องที่ 4-7 (กำลังผลิตรวม 600 เมกะวัตต์) ได้เริ่มเดินเครื่องอย่างเป็นทางการ เป็นฟันเฟืองสำคัญที่เปลี่ยนโฉมหน้าพลังงานไทยจากการพึ่งพาน้ำมันนำเข้า มาสู่การใช้ถ่านหินลิกไนต์ในประเทศอย่างเต็มรูปแบบ

แม้เครื่องกลุ่มนี้ (5-6-7)จะถูกปลดระวางไปแล้วในปี 2562 โดยมี MMRP1  มาแทนที่ แต่ด้วยวิกฤตการณ์ราคาก๊าซ LNG ในตลาดโลกที่พุ่งสูง กฟผ. จึงต้อง "ฟื้นคืนชีพ" เครื่องที่ 4 กลับมา Recommissioning อีกครั้งในปี 2565 เพื่อช่วยลดต้นทุนค่า Ft และประคองค่าไฟให้ประชาชน จนกระทั่งถึงกำหนดการ "ชัตดาวน์ถาวร" อีกครั้งในสิ้นปี 2568 นี้

  • ชัตดาวน์เครื่อง 9-10 และทางเลือกใหม่ของเครื่อง 8, 11

ในส่วนของโรงไฟฟ้า เครื่องที่ 8-11  ซึ่งเป็นโรงไฟฟ้าพลังความร้อนขนาดใหญ่ที่มีอายุการใช้งานกว่า 30 ปี แม้จะมีการติดตั้งระบบกำจัดมลพิษที่ทันสมัยทั้งระบบ FGD และดักจับฝุ่นไฟฟ้าสถิต (ESP) แต่ตามแผนความมั่นคงทางพลังงาน ล่าสุด เครื่องที่ 9-10 จะต้องเข้าสู่กระบวนการปลดระวางตามกำหนดเวลาสิ้นปี 2568 นี้เช่นกัน

          ขณะที่เครื่องที่ 8 และ 11 ได้รับการต่อลมหายใจ ยืดระยะเวลาเดินเครื่องยาวไปจนถึงปี 2574 เพื่อทำหน้าที่ผลิตไฟฟ้าทดแทนระหว่างรอให้มีการปรับปรุงเครื่องที่ 12-13 ให้สอดคล้องกับกฎหมายมลพิษฉบับใหม่ปี 2575  เนื่องจากโครงการ MMRP2 ถูกระงับไป


  • กำลังผลิตวูบ-เงินกองทุนหาย

การหายไปของโรงไฟฟ้าทั้ง 6 เครื่อง (4-7 และ 9-10) ในคราวเดียว ส่งผลกระทบที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ใน 2 มิติหลัก นั่นคือ “กำลังการผลิตไฟฟ้า”  จากเดิมที่เป็นฐานผลิตขนาดใหญ่ จะเหลือยอดรวมเพียง  1,795 เมกะวัตต์  (จากเครื่อง 8, 11, 12, 13 และ 14) และที่สำคัญคือ “เม็ดเงินกองทุนพัฒนาไฟฟ้า”  เงินกองทุนที่จัดเก็บจาก "ทุกหน่วยการผลิต" ในอัตรา 0.02 บาทต่อหน่วย จะหายไปทันทีประมาณ  154 ล้านบาทต่อปี

เม็ดเงินที่หายไปนี้ถือเป็นตัวเลขที่สูงมากสำหรับงบพัฒนาท้องถิ่นในระดับอำเภอ ซึ่งปกติจะถูกนำไปใช้ในโครงการสาธารณสุข การศึกษา และการสร้างอาชีพให้แก่ชุมชนรอบโรงไฟฟ้า การปลดระวางครั้งนี้จึงไม่ได้เป็นเพียงเรื่องของเทคนิคการผลิตไฟฟ้า แต่เป็นโจทย์ใหญ่ที่ทุกภาคส่วนในแม่เมาะต้องร่วมกันวางแผนรับมือกับ "รายได้ที่หายไป" เพื่อให้การเปลี่ยนผ่านสู่ยุคพลังงานใหม่เป็นไปอย่างยั่งยืน


ข้อมูลสรุปสถานะโรงไฟฟ้าแม่เมาะ

เครื่องที่ปลดระวาง ปี 62 : เครื่องที่  5, 6, 7  (กำลังผลิตที่หายไป: ประมาณ 450 เมกะวัตต์)

เครื่องที่ปลดระวาง ปี 68 : เครื่องที่  4,  9, 10   (กำลังผลิตหายไป ประมาณ 690 เมกะวัตต์)

เครื่องที่เดินเครื่องต่อ:   เครื่องที่  8, 11  (ขยายเวลาเดินเครื่องถึงปี 2574 กำลังผลิตรวม 540 เมกะวัตต์)  เครื่องที่  12-13 (กำลังผลิตรวม 600 เมกะวัตต์  เตรียมปรับปรุงใหญ่ทดแทน MMRP2)  และ เครื่องที่ 14 หรือ MMRP1  กำลังผลิตรวม 655 เมกะวัตต์

กำลังผลิตคงเหลือ: 1,795 เมกะวัตต์

คาดการณ์เงินกองทุนพัฒนาไฟฟ้าคงเหลือ :  ~154 ล้านบาท/ปี  


Share:

ลำปางจับมือไปรษณีย์ไทย ปล่อยคาราวานส้มสายน้ำผึ้งกว่า 4 ตัน ส่งตรงผู้บริโภคทั่วประเทศ

 


จังหวัดลำปางผนึกกำลังบริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด เดินหน้าสนับสนุนเกษตรกรท้องถิ่น จัดกิจกรรมกระจายผลผลิตส้มเขียวหวานสายน้ำผึ้งคุณภาพ ส่งตรงถึงมือผู้บริโภคทั่วประเทศ รับเทศกาลปีใหม่ 2569

        เมื่อวันที่ 24 ธันวาคม 2568 เวลา 09.00 น. นายวิวัฒน์ อินทร์ไทยวงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง เป็นประธานเปิดกิจกรรมเชื่อมโยงการจำหน่ายส้มเขียวหวานสายน้ำผึ้งจากกลุ่มวิสาหกิจชุมชนกลุ่มเกษตรกรก้าวหน้าบ้านบ่อสี่เหลี่ยม อำเภองาว ร่วมกับบริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด โดยมี นางณิชรัศม์ แลวงค์นิล หัวหน้าสำนักงานสภาเกษตรกรจังหวัดลำปาง พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นายอำเภอ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมพิธี ณ บริเวณด้านหน้ามุก ชั้น 1 ศาลากลางจังหวัดลำปาง

        กิจกรรมดังกล่าวจัดขึ้นภายใต้แนวคิด “จังหวัดลำปาง ร่วมกับบริษัท ไปรษณีย์ไทย กระจายผลผลิตส้มสายน้ำผึ้งคุณภาพ ส่งตรงถึงผู้บริโภคทั่วไทย ต้อนรับปีใหม่ 2569” เพื่อยกระดับสินค้าเกษตรของจังหวัด สร้างช่องทางการตลาดที่มั่นคง และเพิ่มโอกาสทางการจำหน่ายให้แก่เกษตรกร โดยมีการเจรจาซื้อขายและวางแผนการขนส่งร่วมกันตั้งแต่ต้นเดือนธันวาคมที่ผ่านมา

        สำหรับการกระจายผลผลิตในครั้งนี้ มีการจัดส่งส้มสายน้ำผึ้งคุณภาพ น้ำหนักรวมกว่า 4,000 กิโลกรัม ผ่านระบบขนส่งของบริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด ส่งตรงถึงผู้บริโภคทั่วประเทศ ช่วยลดปัญหาผลผลิตล้นตลาด เพิ่มรายได้ให้เกษตรกร และสร้างความเชื่อมั่นในคุณภาพผลไม้ของจังหวัดลำปาง

        ในโอกาสนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง พร้อมคณะ ได้เยี่ยมชมขั้นตอนการคัดแยกและบรรจุส้มที่ได้มาตรฐาน ก่อนประกอบพิธีปล่อยขบวนคาราวานรถขนส่งผลผลิตส้มสายน้ำผึ้งออกสู่ตลาดทั่วประเทศ เพื่อมอบความสดใหม่เป็นของขวัญต้อนรับเทศกาลปีใหม่ 2569 ให้แก่ผู้บริโภค ถือเป็นต้นแบบความร่วมมือเชิงบูรณาการระหว่างภาครัฐและรัฐวิสาหกิจในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานรากอย่างยั่งยืน



            สำหรับช่องทางการจำหน่าย สามารถสั่งซื้อได้ผ่านเพจ สวนส้มสายน้ำผึ้งบ่อสี่เหลี่ยม อ.งาว   รวมทั้งไปรษณีย์ไทย ทุกสาขา  และมีวางจำหน่ายที่ปั๊ม ปตท. สาขา งาว และ ปตท. ติดศูนย์ราชการจังหวัดลำปาง 





Share:

ถอดรหัสสงครามหาเสียงออนไลน์ บทเรียนจากก้าวไกลถึงพรรคประชาชน

            คล้ายการใช้โซเชียลมีเดีย ของพรรคประชาชน ที่เคยเป็นตัวแปรชัยชนะให้กับพรรคก้าวไกล อย่างถล่มทลายเมื่อการเลือกตั้ง66 จะสิ้นมนต์ขลัง ไม่มีพลังมากพอที่จะสยบคู่แข่งอย่างราบคาบได้อีกแล้ว โดยเฉพาะการใช้โซเชียลมีเดีย สื่อออนไลน์ เป็นเครื่องมือสำคัญ ที่เห็นได้ชัดเจนระหว่างพรรคประชาชน และพรรคเพื่อไทย โดยมีพรรคภูมิใจไทย และกล้าธรรม เร่งฝีเท้าตามมาติดๆ

            ย้อนไปดูพรรคก้าวไกล ที่เคยมี พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เป็นแม่เหล็ก กวาดเก็บเสียงคนรุ่นใหม่ จนก้าวไกลเป็นพรรคอันดับหนึ่ง พิธา ร่ำเรียนมาในเรื่องการใช้สื่อออนไลน์ เขาใช้โซเชียลมีเดีย หรือสื่อสังคมออนไลน์อย่างมียุทธศาสตร์ ก้าวไกลในวันนั้น หรือประชาชนในวันนี้ เป็นพรรคที่มีทุนรอนจำกัด หรืออย่างน้อยก็แสดงให้เห็นว่า พวกเขาไม่ได้ใช้เงินเป็นปัจจัยชี้ขาด ไม่ซื้อเสียง ไม่มีหัวคะแนน ไม่มีคะแนนจัดตั้ง ดังนั้น วิธีการที่จะได้การสนับสนุน คือการสร้างหัวคะแนนธรรมชาติ โดยผ่านการสร้างเนื้อหาแปลกใหม่ หลากหลาย ที่โดนใจคนรุ่นใหม่ (User Generated Content – UGC)

            พิธา ใช้ช่องทาง Tik Tok เป็นช่องทางหลัก คู่ขนานไปกับช่องทางออนไลน์อื่นๆ และด้วยบุคลิกลักษณะที่โดดเด่น เข้าถึงคนในทุกระดับ ผู้ชมหลายสิบล้านซึ่งส่วนใหม่เป็นคนรุ่นใหม่และคนทำงาน จึงกลายเป็นฐานเสียงและหัวคะแนนธรรมชาติโดยปริยาย แต่ “เท้ง ณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ ไม่ได้มีคุณสมบัติเช่นนั้น

            ผู้สมัคร ส.ส.พรรคประชาชน ทั้ง 4 เขต จังหวัดลำปาง ครั้งนี้ จึงอาจเหนื่อยกว่าครั้งก่อนที่เคยมีแรงส่งจากกระแสก้าวไกล และพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ โดยเฉพาะในเขต 4 ที่ บอนด์ สุริยะ จะต้องชนกับ รภัสสรณ์ นิยะโมสถ  สะใภ้บ้านสวน อดีต ส.ส.พรรคประชาชน

            น่าจับตามองยุทธศาสตร์หาเสียงที่เปลี่ยนไปของพรรคการเมืองเก่า ที่เริ่มใช้พื้นที่โซเชียลมากขึ้น แม้แต่การรับสมัครผู้ช่วยทำงานและผู้ช่วยหาเสียงของ กิตติกร โล่ห์สุนทร ผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์  การแนะนำตัวในช่องทางสื่ออิเล็คทรอนิคส์ ของ ธนาธร โล่ห์สุนทร

            พื้นที่โซเชียลมีเดียซึ่งรวมคนหลากหลายประเภท หลายสาขาอาชีพ เป็นพื้นที่ขนาดใหญ่ ที่หากเข้าถึงได้ก็จะได้เปรียบคู่แข่ง นาทีนี้ ก็ยังบอกไม่ได้ชัดเจนว่า พรรคเพื่อไทยจะทวงแชมป์กลับมา หรือพรรคประชาชนจะรักษาพื้นที่เดิมและได้รับชัยชนะแบบยกจังหวัดเหมือนเช่นที่พรรคก้าวไกลเคยทำได้ในบางจังหวัดหรือไม่

            ยังมองไม่เห็นการใช้โซเชียลมีเดียอย่างมีกลยุทธ์เลย ทั้งพรรคประชาชนและเพื่อไทย นอกจากการใช้เปิดตัวผู้สมัคร ครีเอทีฟ บวกกับความถี่ในการนำเสนอ แพลตฟอร์มที่ใช้ในการหาเสียงจะมีความจำเป็นอย่างยิ่งจากนี้ แต่ในภาพใหญ่ของการเลือกตั้ง หากพรรคเพื่อไทยเลือกใช้โซเชียลมีเดียที่มีการบริหาร จัดการ บวกกับระบบหัวคะแนนแบบเก่า การหาเสียงลงพื้นที่ การวิเคราะห์คู่แข่ง วิเคราะห์เนื้อหาการหาเสียงของพรรคที่เป็นแคนดิเดท ด้วยมืออาชีพ พรรคเพื่อไทยก็จะเป็นคู่แข่งที่น่ากลัวสำหรับพรรคการเมืองอื่นๆทันที

            ไม่มีพรรคการเมืองไหนยึดครองโลกแห่งโซเชียลมีเดียได้อีกแล้ว

            ใช้ให้ฉลาด  ใช้ให้เป็น  นั่นแหล่ะคือวิถีแห่งชัยชนะ


Share:

18 ปี ลานนาโพสต์

โครงการปั้นดาว

โครงการปั้นดาว
ขับเคลื่อนโดย Blogger.

จำนวนการดูหน้าเว็บรวม

สถิติการเข้าชมเว็บไซต์