วงการจิบไวน์ลำปางเริ่มคึกคัก
ผู้ประกอบการหน้าใหม่เปิดตัวสวนกระแส ขณะที่เอเยนต์ท้องถิ่นเริ่มอืดเพราะผู้บริโภคหันไปซื้อในห้างและสั่งตามร้านอาหาร
Corkscrew
ได้ทีเปิดสองช่องทางขายส่ง-ปลีกหวังครองตลาดคนนิยมดื่มไวน์
ผู้สื่อข่าวรายงานจาการสำรวจตลาดไวน์ในจังหวัดลำปาง
พบว่าเริ่มมีกระแสตื่นตัวในกลุ่มตลาดไวน์มากขึ้น โดยมีร้านอาหารที่เน้นขายไวน์เป็นตัวเลือกที่โดดเด่นหลายแห่ง
ขณะที่อาหารประเภทร้านขายไวน์ 100 % ตอบสนองกลุ่มตลาดเฉพาะ (Niche
Market) ย่านถนนสวนดอก หรือร้าน Corkscrew wine shop ซึ่งมีทั้งหน้าร้านเป็นร้านอาหารย่านถนนติดแม่น้ำวัง และร้านขายส่งไวน์
ย่านกาดกองต้า นอกจากนี้ยังมี ร้านไวน์นาว(wine now) ด้านหลังเซ็นทรัลลำปาง
โดยพบว่า wine now
เป็นผู้จำหน่ายไวน์ทางออนไลน์ที่เริ่มรู้จักในกลุ่มตลาดไวน์
ขณะที่ตัวแทนจำหน่ายเครื่องดื่มที่รู้จักกันในนามเอเยนต์ในท้องถิ่น
เกือบทุกรายลดยอดสต๊อคสินค้ากลุ่มไวน์ สวนกระแสในไฮซีซันนี้ โดยส่วนใหญ่พบว่าจะมีไวน์ยี่ห้อที่รู้จักกันในตลาดทั่วไป
ไม่เกิน 10-20 ชนิด ในราคา 480 จนถึงไม่เกิน 1,000 บาท โดยในห้างสรรพสินค้า
รายใหญ่ทุกแห่ง มีการวางจำหน่ายไวน์ที่หลากหลาย ทั้งไวน์ขาว ไวน์แดง ส่วนใหญ่เป็นไวน์ จากฝรั่งเศส อิตาลี ชิลี โดยเฉพาะโซนไวน์ในท็อปส์
ซุปเปอร์มาร์เกต เซนทรัลลำปาง และบิ๊กซี ลำปางมีการจัดวางแบ่งประเภทให้ดึงดูดความสนใจ
สนนราคาเริ่มตั้งแต่ขวดละ 290 บาท ส่วนใหญ่เป็นไวน์ราคา 500-700 บาท จนถึง ราคาสูงที่สุดขวดละ
2,490 บาท

"ร้าน
corkscrew wine shop เปิดมาระยะหนึ่งแล้วซึ่งมีทำเลที่เหมาะสมติดกับแม่น้ำวัง
กลุ่มลูกค้าเป็นคนทำงานและลูกค้าเฉพาะกลุ่มที่นิยมดื่มไวน์ ร้านเรามีความชัดเจนคือ
ไม่อนุญาต หรือรับลูกค้าที่ต้องการดื่มแอลกอฮอลล์ชนิดอื่น
โดยต้องเปิดไวน์ที่ร้านจำหน่ายเท่านั้น ดังนั้นบรรยากาศในร้านจะเป็นร้านเล็กๆ
อบอุ่น มีอาหารจากกุ๊กฝีมือระดับที่มีชื่อเสียง และมีไวน์ทุกชนิด
ทุกประเภทให้เลือก โดยเฉพาะไวน์ในกลุ่มโลกใหม่ หรือไวน์กลุ่มที่นิยมในท้องตลาดทั่วไป(mass
wine) แต่ก็ยังมีไวน์คุณภาพสูง ราคาแพงเป็นอีกตัวเลือกหนึ่งเช่นกัน
ทั้งไวน์ ออสเตรเลีย ฝรั่งเศส ชิลี อิตาลี ที่สำคัญเรามีไวน์หลายชนิดในราคาเดียวขวดละ
750 บาท เมื่อรวมกับเมนูอาหาร แล้วราคาก็ไม่เกิน 1,500- 2,000 บาท เป็นจุดขาย"
อย่างไรก็ตามกล่าวว่า
ขณะนี้ corkscrew อยู่ในระหว่างการเปิดตัวให้เป็นที่รู้จักและทำตลาดแบบค่อยเป็นค่อยไป เนื่องจากธรรมชาติของธุรกิจไวน์เป็นธุรกิจเฉพาะที่มีอัตราเติบโตช้า
ซึ่งต้องอาศัยการสร้างแบรนด์ที่ชัดเจนและกุลยุทธ์การตลาดระยะยาวและยังคาดหวังจะครองตลาดไวน์ในลำปางในอนาคต

"สำหรับตลาดไวน์ในลำปางก่อนหน้านี้
สองสามปี ยังถือว่าดีเพราะมีกลุ่มลูกค้าประจำที่มาสั่งซื้อไปใช้ในงานจัดเลี้ยง
และมีลูกค้าตลาดบนเป็นกลุ่มลูกค้าประจำ แต่ปัจจุบัน
ลดจำนวนสต๊อคไวน์เหลือเพียงไม่เกิน 10 ชนิด ยอมรับว่าส่วนหนึ่งเดี๋ยวนี้
หันไปซื้อในห้าง และไปสั่งซื้อในร้านอาหารกันหมด ยกเว้นลูกค้าที่ไปนั่งตามร้านอาหารเป็นลูกค้าขาจรบ้างบางส่วน"
(หนังสือพิมพ์ลานนาโพสต์ฉบับที่ 951 วันที่ 8 - 14 พฤศจิกายน 2556)