วันพฤหัสบดีที่ 31 มีนาคม พ.ศ. 2559

เซรามิกป่วน ซื้อล้านได้แสน นักธุรกิจร้อง กระทบเชื่อมั่นสมาคมอ้างไม่รู้เรื่อง

จำนวนผู้เข้าชม Hit Web Stats

นักธุรกิจส่งออกเซรามิคร้องศูนย์ดำรงธรรม  ติดต่อซื้อสินค้ากับ เจ้าหน้าที่สมาคมเครื่องปั้นดินเผาลำปาง แต่ได้สินค้าไม่ครบตามที่ตกลง จ่ายเงินมาแล้ว 1.2 ล้านบาท ขณะที่โรงงานผลิตยอดจ่ายคืนเป็นงวด ยังคงเหลือมูลค่าอีก 4.2 แสนบาท  ด้านนายกสมาคมเครื่องปั้นดินเผา อ้างไม่รู้เรื่อง
             
เมื่อวันที่ 28 มี.ค.2559 ที่ผ่านมา ที่ศูนย์ดำรงธรรมศาลากลางจังหวัดลำปาง    นางพจนา ดาเซน บรอด อายุ 53 ปี อยู่บ้านเลขที่ 102/4 หมู่ที่ 1 ต.โสธร  อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา  ได้เดินทางมาร้องเรียนขอความเป็นธรรม กรณีที่ตนได้สั่งซื้อสินค้าแก้วเซรามิคผ่านทาง น.ส.ศุภานิช  รักชาติ  หรือใหม่  อายุ 28 ปี เจ้าหน้าที่สมาคมเครื่องปั้นดินเผาจังหวัดลำปาง  โดยมีการโอนเงินมาให้แล้ว 1.2 ล้านบาท  แต่ปรากฏว่าไม่ได้รับสินค้าตามจำนวนที่ตกลง และจากนั้นก็ไม่สามารถติดต่อกับน.ส.ศุภานิชได้
           
นางพจนา ดาเซนบรอด  เปิดเผยว่า  เมื่อประมาณต้นเดือนมีนาคม 2558 ที่ผ่านมา ตนเองซึ่งมีสามีเป็นชาวเยอรมัน ได้รับการติดต่อจากเพื่อนักธุรกิจชาวเยอรมันว่าต้องการสินค้าประเภทแก้วเซรามิคเพื่อนำไปขายในประเทศ  โดยต้องการเปลี่ยนฐานการตลาดจากประเทศจีนมายังประเทศไทย เพราะเสียภาษีถูกกว่า  จึงได้ค้นหาข้อมูลแหล่งผลิตสินค้าเซรามิคในอินเตอร์เน็ต และพบว่าที่ จ.ลำปางเป็นแหล่งผลิตเซรามิคของประเทศไทยและมีส่งออกต่างประเทศด้วย  จึงได้ติดต่อไปยังโรงงานแห่งหนึ่งใน จ.ลำปาง แต่ทางโรงงานแจ้งว่าไม่สามารถผลิตสินค้าตามตัวอย่างได้   พร้อมกับแนะนำให้ติดต่อมายังสมาคมเครื่องปั้นดินเผาลำปาง  พร้อมให้เบอร์โทรศัพท์  054 226300  เมื่อโทรมายังสมาคมฯ ได้มีเจ้าหน้าที่รับสาย ทราบชื่อต่อมาว่าชื่อนางสาวศุภานิช รักชาติ หรือใหม่  อายุ 28 ปี
           
นางพจนา กล่าวต่อว่า  ตนได้แจ้งความต้องการให้ น.ส.ศุภานิชทราบว่าต้องการผลิตแก้ว โดย น.ส.ศุภานิช รับจะประสานงานให้ โดยมีการเสนอราคามาให้ตนเองเลือก และตกลงกันที่ราคาใบละ 28 บาท พร้อมสั่งจองสินค้าจำนวน 39,780 ใบ   ซึ่งระหว่างดำเนินการตนเองได้พาเพื่อนชาวเยอรมันที่ต้องการสินค้า เดินทางมาเจรจากับนางสาวศุภานิช  ในสำนักงานของสมาคมเครื่องปั้นดินเผาจังหวัดลำปาง ตั้งอยู่เลขที่ 227 ถ.ไฮเวย์ลำปาง-งาว ต.สวนดอก อ.เมืองลำปาง  และมีล่ามในสมาคมช่วยแปลภาษาด้วย  ซึ่งสร้างความมั่นใจให้กับทางเพื่อนนักธุรกิจมาก จึงมอบหมายให้ตนเองเป็นตัวแทนในการดำเนินการซื้อขายในครั้งนี้  โดยกำหนดเริ่มส่งสินค้าตั้งแต่ต้นเดือน พ.ค – ก.ย. 2558
           
เมื่อเริ่มการผลิต น.ส.ศุภานิชได้บอกว่าโรงงานผลิตเป็นโรงงานเล็ก ผลิตสินค้าโอทอปไม่มีเงินทุน จึงขอให้โอนเงินมาให้ก่อน  ตนมีความเชื่อถือในสมาคมเครื่องปั้นดินเผา จึงจ่ายเงินงวดแรกให้ไป 2.8 แสนบาท  โดยโอนผ่านบัญชีธนาคารของ น.ส.ศุภานิช  จากนั้นได้โอนให้อีก 5 งวด เป็นเงินรวมทั้งหมด 1.2 ล้านบาท  ซึ่งตนเองเก็บหลักฐานการโอนทั้งหมดไว้  นอกจากนั้น น.ส.ศุภานิชยังได้ขอค่าลากจูงเป็นเงินอีก 3.1 หมื่นบาท  ตนก็ยอมจ่ายให้เพราะต้องการสินค้า  แต่ปรากฏว่ามีการส่งสินค้าไปให้ที่เยอรมันมีมูลค่าเพียง  364,824 บาทเท่านั้น   ต่อมาได้มีการทวงถามเงินส่วนที่หายไปพบว่าส่วนหนึ่ง โรงงานผลิตแก้วเซรามิคชื่อจิวเฮงรับเงินไป  เมื่อสอบถามไปยังโรงงานก็บอกว่าไม่สามารถผลิตแก้วได้ตามสเป็คที่ตกลงได้ บางส่วนที่ผลิตออกมาก็เสียไป   และยอมที่จะใช้เงินคืนให้แต่ขอผ่อนเป็นงวด  จึงพากันไปลงบันทึกประจำวันที่ สภ.เมืองลำปางไว้เป็นหลักฐาน  โดยมีตน น.ส.ศุภานิช และเจ้าของโรงงานจิวเฮง  ตกลงว่าทางโรงงานจะชดใช้คืน 5 แสนบาท ส่วนที่เหลืออีก 4.2 แสนบาท น.ส.ศุภานิชจะใช้คืนให้  โดยตกลงจ่ายคืนก้อนแรก 1 แสนบาท  ในวันที่ 8 มี.ค.59 ปรากฏว่าถึงเวลานัดก็ไม่มา  ตนเองจึงเดินทางไปที่สมาคมเครื่องปั้นดินเผาลำปาง พบกับนายชูเกียรติ ตังคะกุตติยา  นายกฯ  และกรรมการอีกหลายคน หารือกันซึ่งทางนายชูเกีรยติและกรรมการ สรุปว่าเรื่องทั้งหมดที่เกิดทางสมาคมไม่รับรู้อะไรด้วย เป็นการกระทำของเจ้าหน้าที่คือนางสาวศุภานิชเพียงคนเดียวเท่านั้นและจะพยายามติดตามตัวให้ 
        
นางพจนา กล่าวเพิ่มว่า ด้วยความที่คับข้องใจเพราะเดินทางมาติดต่อกับสมาคมฯถึงที่ทำการ แต่ถูกปฏิเสธความรับผิดชอบแบบนี้ จึงเดินทางมายังศูนย์ดำรงธรรม เพื่อร้องเรียนต่อผู้ว่าราชการจังหวัดลำปางอีกทางหนึ่ง  เพื่อให้ทราบถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นว่ามันสร้างความเสียหายขึ้นขนาดไหน ขาดความรับผิดชอบ  ธุรกิจของตนเสียหายมาก  ซึ่งเป็นเรื่องที่คนต่างชาติทำงานแบบมืออาชีพในระดับสากลรับไม่ได้   ตนเองเชื่อถือในสมาคมเครื่องปั้นดินเผาลำปาง และชื่อเสียงของจังหวัดลำปางในเรื่องเซรามิค แต่กลับพบกับเรื่องแบบนี้ ทำให้ความเชื่อมั่นหายไปทั้งหมด  อยากให้จังหวัดลำปางเลิกสนับสนุนทุกอย่างที่เกี่ยวข้องกับสมาคมนี้  ไม่อยากให้นักธุรกิจคนอื่นเจอเรื่องแบบนี้อีก   ถ้าเรื่องไม่เกิด ตนเองยังจะสั่งของอีกปีละ 3 แสนใบด้วยซ้ำ
        
ด้านนายชูเกียรติ์  ตังคะกุตติยา  นายกสมาคมเครื่องปั้นดินเผาลำปาง  กล่าวผ่านโทรศัพท์ว่า  ตนทราบเรื่องก็ต่อเมื่อเกิดปัญหาขึ้นแล้ว  และที่ผ่านมา น.ส.ศุภานิชไม่เคยแจ้งเรื่อง หรือประสานงานกับคณะกรรมการสมาคมแต่อย่างใด   ตอนไปตกลงพูดคุยกันไปคุยที่สำนักงานของสมาคมฯก็จริง แต่ตนเองไม่ได้รับรู้  หลังทราบถึงปัญหาดังกล่าว ตนเองพยายามที่จะช่วยเหลือ และช่วยทำชิ้นงานส่งให้ลูกค้า ไปจำนวน  6,000 กว่าใบ เป็นเงิน 169,344 บาท  ซึ่งตนเองก็ยังไม่ได้รับเงินในส่วนนี้   ตอนนี้ น.ส.ศุภานิช ได้พ้นจากการเป็นเจ้าหน้าที่ของสมาคมแล้ว  ตนเองก็ช่วยตามหาตัวอยู่  ส่วนสินค้าที่เหลือทราบเบื้องต้นว่า ทางโรงงานจิวเฮงจะทยอยผลิตให้  ในส่วนที่ผลิตไม่ได้ก็จะชดใช้เงินคืน
           
นายชูเกียรติ กล่าวอีกว่า  ส่วนเรื่องที่ตนส่งอีเมล์เสนอราคาไปให้ใหม่นั่น เนื่องจากต้นทุนการผลิตเดิมในราคา 28 บาท ไม่มีโรงงานไหนรับทำ จึงได้เสนอราคาไป แต่ทางลูกค้าก็เงียบไป

ทั้งนี้ เรื่องดังกล่าวได้ทราบไปถึงนายสามารถ ลอยฟ้า ผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง แล้ว  โดยได้สั่งการให้รองผู้ว่าราชการจังหวัด และพาณิชย์จังหวัด  เข้าตรวจสอบข้อเท็จจริง เพราะเรื่องนี้กระทบต่อภาพลักษณ์และความเชื่อมั่นของจังหวัดลำปางอย่างมาก 

(หนังสือพิมพ์ลานนาโพสต์  ฉบับที่ 1073 วันที่ 1 - 7 เมษายน 2559)
Share:

1 ความคิดเห็น:

18 ปี ลานนาโพสต์

โครงการปั้นดาว

โครงการปั้นดาว
ขับเคลื่อนโดย Blogger.

จำนวนการดูหน้าเว็บรวม

สถิติการเข้าชมเว็บไซต์