วันอาทิตย์ที่ 18 พฤศจิกายน พ.ศ. 2561

เชื้อชั่วไม่เคยตาย ! ระบบอุปถัมภ์อุ้มคนโกง

จำนวนผู้เข้าชม เว็บเคาน์เตอร์

คยสงสัยกันบ้างไหมว่า กรณีทุจริตที่เกี่ยวข้องกับสหกรณ์ทั้งหลาย ตั้งแต่สหกรณ์โคตรโกง เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น สหกรณ์ออมทรัพย์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จำกัด สหกรณ์ออมทรัพย์ตำรวจภูธรจังหวัดเลย มาจนถึงสหกรณ์ออมทรัพย์ตำรวจภูธรภาค 5 กว่าจะจับได้ไล่ทัน เงินที่ถูกโกงไป ก็มากเสียจนไม่สามารถติดตามคืนมาได้แล้ว

ก็เพราะระบบอุปถัมภ์ที่ช่วยอุ้ม ช่วยปกปิดความผิด ให้โอกาสครั้งแล้วครั้งเล่า เช่น กรณีสหกรณ์ออมทรัพย์ตำรวจภูธรภาค 5 ที่มีทั้งคนออกหน้าแทน มีคนช่วยอธิบาย มีคนที่ช่วยยืดระยะเวลาดำเนินคดีคนผิดไปด้วยความหวังลมๆแล้งๆ สุดท้ายคนที่รับเคราะห์ก็คือเจ้าของเงินทั้งหลาย

เราเห็นโฆษณาชวนเชื่อ ชวนให้คนปฏิเสธความร่วมไม้ร่วมมือกับคนโกง ทางจอทีวี เห็นแล้วก็ได้แต่ถอนหายใจ มันจะมีใครมีจิตสำนึกเช่นนี้สักกี่คน นอกจากคนที่ร่วมด้วยช่วยโกง ปรากฏการณ์การทุจริตในสหกรณ์ต่างๆที่ล้มกันระเนระนาด เหมือนโดมิโน ก็เพราะมีคนเหล่านี้อยู่นั่นเอง

อย่าว่าแต่นักอุ้มคนโกงที่อยู่ในหน่วยงานเท่านั้น สื่อมวลชนที่ควรทำหน้าที่เป็นหมาเฝ้าบ้านที่ดี ช่วยกันขุดคุ้ยหาความจริง และนำความจริงนั้นมาตีแผ่ เพราะคอรัปชั่นไม่กลัวความเห็น แต่กลัวความจริงก็หาได้น้อยอย่างยิ่ง โดยเฉพาะกรณีทุจริตล่าสุดนี้ มีเบาะแสมาเนิ่นนาน แต่สื่อก็ไม่ได้ให้ความใส่ใจ

ก่อนหน้านี้นานเดือน คณะกรรมการสหกรณ์ออมทรัพย์โรงเรียนตำรวจภูธรภาค 5 ได้แจ้งความสภ.ลำปาง ให้ดำเนินคดีกับ พ.ต.อ.เพื่อน ดวงจินดา ผกก.สภ.ปากน้ำประแสร์ จังหวัดระยอง  ข้อหายักยอกเงินจำนวน 47,443,500 บาท ในฐานะที่ พ.ต.อ.เพื่อน ดวงจินดา เป็นประธานสหกรณ์ และนำเงินสหกรณ์ไปใช้โดยมีเงื่อนงำ

ขณะเดียวกัน พล.ต.ท.พูลทรัพย์ ประเสริฐศักดิ์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 (ผบช.ภ.5) ได้สั่งการให้ พล.ต.ต.พิทยา ศิริรักษ์ รองผบช.ภ.5 ตรวจสอบข้อเท็จจริง และให้ประสานคณะกรรมการดำเนินการของสหกรณ์ที่เป็นสวัสดิการให้ข้าราชการตำรวจในสังกัด ให้ปฏิบัติตามกฎหมาย ระเบียบ และข้อบังคับ ของสหกรณ์โดยเคร่งครัด เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้นอีก

คดีนี้ เกิดจากเจ้าหน้าที่สหกรณ์จังหวัดลำปาง ตรวจสอบพบว่า พ.ต.อ.เพื่อน ได้อาศัยอำนาจหน้าที่สั่งการให้เจ้าหน้าที่สหกรณ์จ่ายเงินยืมทดรองของสหกรณ์ให้แก่ร้านค้าสวัสดิการ ซึ่ง พ.ต.อ.เพื่อน มีตำแหน่งเป็นประธานกรรมการร้านค้าสวัสดิการ ทั้งนี้ การกระทำดังกล่าวไม่ใช่กิจการของสหกรณ์ออมทรัพย์ฯ

โดยมีการลงลายมือชื่อผู้ยืม และผู้รับเงินในสัญญายืมเงินทดรอง จำนวน 21 รายการ เป็นเงินทั้งสิ้น 47,443,500 บาท ผิดวัตถุประสงค์และข้อบังคับของสหกรณ์ ก่อให้เกิดความเสียหาย รวมทั้งการดำเนินการดังกล่าวไม่มีการขออนุมัติที่ประชุมคณะกรรมการสหกรณ์เพื่อยืมเงินทดรองจ่าย และไม่มีมติในการจ่ายเงินแต่อย่างใด

“พ.ต.อ.เพื่อน ให้เจ้าหน้าที่จ่ายเงินยืมทดรองของสหกรณ์ให้ตนเอง เมื่อคณะกรรมการดำเนินการสหกรณ์ทราบเรื่อง จึงมีหนังสือทวงถาม และเรียกเงินคืน แต่กลับไม่ได้รับเงินคืน”

แหล่งข่าวกล่าว และว่า หลังจากมีการแจ้งความดำเนินคดี พ.ต.อ.เพื่อน ได้มีการเจรจากับสมาชิกว่า จะขอคืนเงินก่อนจำนวน 31 ล้านบาท แต่สมาชิกยืนยันให้คืนทั้งหมด ต่อมาเมื่อวันที่ 25 กรกฎาคม 2561 ได้เซ็นเช็คจำนวน 3 ใบ ของธนาคารกสิกรไทย สาขาถนนนวมินทร์ เขตบึงกุ่ม กทม. รวมเป็นเงิน 6 ล้านบาทเศษ และเมื่อวันที่ 14 กันยายน 2561 พ.ต.อ.เพื่อน ได้โอนเงินเข้าบัญชีสหกรณ์อีก 30 ล้านบาท คงเหลือเงินที่ยังไม่คืนสหกรณ์อีกจำนวน 17 ล้านบาท และในที่สุดเช็คจำนวน 15 ล้านบาทเศษก็เด้งอีก

จากการสืบค้นหลักฐานบัญชีเงินยืมทดรอง พบว่า มีทั้งหมด 23 รายการ ในจำนวนนี้ ระบุเหตุผลการยืมว่า เป็นหุ่นยนต์เก็บกู้ระเบิด ในรายการที่ 12 และ เครื่องยิงปลดฉนวนระยะไกล รายการที่ 13 นอกจากนั้นเป็นรายการชำระค่าอาวุธปืน มัดจำโครงการอาวุธปืน และค่าสินค้า

พ.ต.อ.เพื่อน ดวงจินดา อธิบายว่า เงินจำนวน 47 ล้านบาทเศษนั้น เป็นการกู้สหกรณ์ โดยมีหลักทรัพย์โฉนดที่ดินมูลค่า 52 ล้านบาทเป็นประกัน ทั้งนี้ได้นำเงินไปลงทุนกับบริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง ในธุรกิจเครื่องตรวจสอบวัตถุระเบิด และหุ่นยนต์ กับหน่วยงานของรัฐหน่วยหนึ่ง ทั้งนี้สัญญาร่วมกับบริษัทมี 2 สัญญา สัญญาแรกได้ส่งมอบอุปกรณ์หุ่นยนต์ และได้นำเงินต้นและดอกเบี้ยคืนให้สหกรณ์แล้ว 9 ล้านบาท ส่วนสัญญาที่ 2 อยู่ระหว่างรับมอบอุปกรณ์

ถามว่าตำรวจนำเงินตำรวจไปทำธุรกิจเกี่ยวกับวัตถุระเบิด ซึ่งคู่สัญญาต้องเป็นภาครัฐด้วยกัน โดยเฉพาะหน่วยงานด้านความมั่นคง  สหกรณ์อนุมัติได้อย่างไร

ถ้าไม่มีระบบอุปถัมภ์คอยโอบอุ้มอยู่ วันนี้พ.ต.อ.เพื่อน ดวงจินดา คงลอยนวลเช่นนี้ไม่ได้แน่นอน

(หนังสือพิมพ์ลานนาโพสต์ ฉบับที่ 1205 วันที่ 16 - 22 พฤศจิกายน 2561)

Share:

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

18 ปี ลานนาโพสต์

โครงการปั้นดาว

โครงการปั้นดาว
ขับเคลื่อนโดย Blogger.

จำนวนการดูหน้าเว็บรวม

สถิติการเข้าชมเว็บไซต์