วันอาทิตย์ที่ 17 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2562

สถาบันอยู่เหนือการเมือง

จำนวนผุ้เข้าชม เว็บเคาน์เตอร์

ย่างน้อยการเล่นการเมืองแบบอ่อนเดียงสาในสายตาที่มอง ของพรรคไทยรักษาชาติ ที่หวังผลประโยชน์เฉพาะหน้า ก็ให้บทเรียนที่ลึกซึ้งยิ่งสำหรับนักการเมือง พรรคการเมือง ที่อาสามาทำงานระดับชาติ แต่สติปัญญา ความคิด การใคร่ครวญ แยกแยะความถูกผิด ต่ำเตี้ยเรี่ยดิน จนกระทั่งกลายเป็นปมปัญหาย้อนกลับมาทำลายตัวเอง และอาจเลยเถิดไปส่งผลกระทบการเมืองทั้งระบบ

เช้าวันศุกร์ (8) ร.ท.ปรีชาพล พงษ์พานิช หัวหน้าพรรคไทยรักษาชาติ และแกนนำของพรรค ซึ่งล้วนแล้วแต่มีบทบาทในฐานะคนเสื้อแดงในห้วงระยะเวลาที่ผ่านมา เปิดแถลงข่าวด้วยความกระหยิ่มยิ้มย่องว่า พวกเขาได้สร้างปรากฎการณ์ใหม่ให้กับการเมืองไทย ด้วยการเชิญทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตน์ฯมหิดล เป็นแคนดิเดทนายกรัฐมนตรีของพรรค

“พรรคไทยรักษาชาติรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้รับพระเมตตาจากทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตน์ฯ มหิดล ในการรับการเสนอชื่อเป็นนายกฯในนามพรรค”

ร.ท.ปรีชาพล กล่าว

ค่ำวันเดียวกัน มีประกาศพระราชโองการในสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร เรื่อง สถาบันพระมหากษัตริย์ตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2562 ใจความโดยสรุปคือ การนำทูลกระหม่อมหญิง สมาชิกชั้นสูง ในพระบรมราชวงศ์มาเกี่ยวข้องกับระบบการเมือง ไม่ว่าจะโดยทางใดก็ตาม เป็นการกระทำที่ขัดต่อโบราณราชประเพณี ขนบมธรรมเนียมและวัฒนธรรมของชาติ ถือเป็นการกระทำที่มิบังควร ไม่เหมาะสมอย่างยิ่ง

คำถามก็คือ นี่เป็นเรื่องของ ร.ท.ปรีชาพล พงษ์พานิช และกรรมการบริหารพรรคไทยรักษาชาติ จะคิดการนี้โดยไม่เฉลียวใจเลยหรือว่า ผลสะเทือนที่จะเกิดจากปฎิบัติการครั้งนี้  จะเป็นเช่นใด คำตอบคือวิญญุชนทั้งหลายย่อมคิดได้ แต่ความมั่นใจที่จะก้าวข้ามปัญหาทั้งปวงนี้มาอย่างไร มาจากผู้ใด

ใครที่ถูกกล่าวหาว่า เคยตีตัวเสมอเจ้า ด้วยความเชื่อว่า สถาบันมีส่วนเกี่ยวข้องกับการเมืองได้ เช่นที่เคยตั้งป้อมต่อสู้กับประธานองคมนตรีมาในห้วงระยะเวลาหนึ่ง และยังพาดพิงกล่าวร้ายว่ามีเบื้องหน้าเบื้องหลัง

สถาบันกษัตริย์ เชื้อพระวงศ์ทั้งหลาย อาจอยู่ภายใต้การเมือง สถาบันมีบทบาทในการบริหารปกครอง เช่น ประเทศในกลุ่มตะวันออกกลาง แต่สำหรับสังคมไทย เป็นประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และสถาบันกษัตริย์อยู่เหนือการเมือง

รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยทุกฉบับ กำหนดรูปแบบการปกครองและประมุขแห่งรัฐไว้ว่า ประเทศไทยมีการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข เป็นการเทิดทูนพระมหากษัตริย์ คือทรงดำรงอยู่ในฐานะอันเป็นที่เคารพสักการะ ผู้ใดจะละเมิดมิได้ ความข้อนี้อาจรวมทั้งเชื้อพระวงศ์ชั้นสูงตามโบราณราชประเพณีด้วย

ปรากฎการณ์ที่เกิดขึ้นครั้งนี้ ไม่เพียงเป็นบทเรียนของพรรคการเมือง ที่หวังผลเลิศ ฮึกเหิมคิดเรียนลัดแอบอิงสถาบันมาหาเสียง ซึ่งผิดระเบียบการหาเสียงของกกต.เท่านั้น หากจะยังเป็นบรรทัดฐานต่อไปภายหน้าว่าอย่าบังอาจดึงฟ้ามาเกลือกกลั้วกับโคลนตมอีกด้วย

(หนังสือพิมพ์ลานนาโพสต์ฉบับที่ 1217 วันที่ 15 - 21 กุมภาพันธ์ 2562)
Share:

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

18 ปี ลานนาโพสต์

โครงการปั้นดาว

โครงการปั้นดาว
ขับเคลื่อนโดย Blogger.

จำนวนการดูหน้าเว็บรวม

สถิติการเข้าชมเว็บไซต์