จากปัญหาการแพร่ของจอกหูหนูวัชพืชร้าย
ที่อัดแน่นจนเหมือนสนามฟุตบอลภายในอ่างเก็บน้ำเขื่อนกิ่วลม รวมระยะทางประมาณ 18
กิโลเมตร จากพื้นที่ผิวน้ำเหนือเขื่อนประมาณ 10,000 ไร่
คิดเป็นพื้นที่เกิดวัชพืชประมาณ 2,000 ไร่
ทำให้เกิดการประชุมบูรณาการแก้ไขปัญหาและกำจัดวัชพืชในเขื่อนกิ่วลมเมื่อวันที่ 5
มีนาคม 63 ที่ผ่านมา โดยมีนายสิธิชัย จินดาหลวง รองผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง
เป็นประธาน โดยสรุปการแก้ไขปัญหา 3
ระยะคือ ระยะที่ 1 คือ ระยะเร่งด่วนเริ่มตั้งแต่วันนี้ไปถึง 5 เม.ย.63
จะทำการนำวัชพืชน้ำที่อยู่เหนือเขื่อน ในระยะ 1 กิโลเมตรแรก ขึ้นจากน้ำให้หมดในระยะเวลา
1 เดือน เพื่อให้น้ำหน้าเขื่อนใสให้ได้
ระยะที่ 2 คือ หลังจากเคลียร์ช่วงหน้าเขื่อนเสร็จแล้ว
จะมีการดำเนินการต่อในกิโลเมตรที่ 2 คือช่วงตั้งแต่โรงสูบน้ำของ กฟผ.
ยาวไปจนถึงท่าแพสำเภาทอง เราจะวางแผนเพื่อปฏิบัติการเอาวัชพืชน้ำกิโลเมตรที่ 2
ถึงกิโลเมตรที่ 18 ออกให้หมด ภายใน 6 เดือน ไปจนถึงเดือน ก.ย.63
และล่าสุด
เมื่อวันที่ 10 เมษายน 2563 นายสิธิชัย จินดาหลวง
รองผู้ว่าราชการจังหวัดลำปางเป็นประธานการประชุมการกำจัดวัชพืชในเขื่อนกิ่วลม
ครั้งที่ 3/2563 ณ ห้องประชุมโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษากิ่วลม-กิ่วคอหมา
ต.บ้านแลง อ.เมืองลำปาง เพื่อรับทราบสถานการณ์และติดตามผลการกำจัดวัชพืชในเขื่อนกิ่วลม
ร่วมกับหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้อง และกลุ่มวิสาหกิจเรือแพ
ซึ่งเบื้องต้นได้มีการกำจัดจอกหูหนูในช่วงกิโลเมตรที่ 1 แล้วเสร็จแล้ว
โดยบริเวณด้านหน้าเขื่อนกิ่วลมได้กลับมาใสเหมือนเดิมแล้ว
ทั้งนี้ การประชุมได้ข้อสรุปแนวทางการดำเนินการเพิ่มเติม ให้ปิดกั้นพื้นที่กิโลเมตรที่ 1 ไว้ก่อน
ไม่อนุญาตให้เรือแพเข้ามาในพื้นที่ พร้อมทั้งจะจัดทำแนวทุ่นกั้นแนวไว้ 2 ชั้น
ในส่วนกิโลเมตรที่ 2-4 ได้บล๊อกพื้นที่ไว้ทั้งหมดแล้ว ต่อไปจะเร่งรัดบล็อกในกิโลเมตรที่
4 ขึ้นไป โดยได้รับการสนับสนุนเชือกเพิ่มเติมจากสำนักเครื่องจักรกล
เชียงใหม่ และกลุ่มวิสาหกิจเรือแพกิ่วลม
-สำเภาทอง จัดทำบล็อกในจุดสำคัญ
นอกจากนั้นยังมีทุ่นที่ได้รับการสนับสนุนจากองค์การบริหารส่วนจังหวัดลำปาง
กำหนดสเปคให้มีขนาดบางลง เพื่อให้ได้ความยาวที่เพียงพอกับการกั้นแนว
ขอบเขตวัชพืชทั้งหมด เพื่อนำวัชพืชขึ้นมาจากเขื่อนในช่วงที่เหลือต่อไป
ขณะเดียวกันได้ขอความร่วมมือกับกลุ่มวิสาหกิจชาวแพ
ระหว่างนี้ถ้าหากมีการสัญจรไปมา
และพบวัชพืชขอให้นำเข้าไปไว้ในจุดที่กั้นแนวไว้
โดยมอบหมายให้สำนักงานท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดลำปาง
ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมหารือเรื่องการวางมาตรการและการดำเนินการต่างๆ
ของกลุ่มวิสาหกิจเรือนแพในพื้นที่ให้มีความถูกต้องตามระเบียบกฎหมายต่อไป
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น