วันศุกร์ที่ 17 เมษายน พ.ศ. 2563

จอกหูหนูเกลี้ยงหน้าเขื่อนกิ่วลม คืนน้ำใสกิโลเมตรแรก เร่งดำเนินการต่อกิโลเมตรที่ 2-4 จนครบ 18 กิโลเมตร

จำนวนผู้เข้าชม เว็บเคาน์เตอร์

จากปัญหาการแพร่ของจอกหูหนูวัชพืชร้าย ที่อัดแน่นจนเหมือนสนามฟุตบอลภายในอ่างเก็บน้ำเขื่อนกิ่วลม รวมระยะทางประมาณ 18 กิโลเมตร จากพื้นที่ผิวน้ำเหนือเขื่อนประมาณ 10,000 ไร่ คิดเป็นพื้นที่เกิดวัชพืชประมาณ 2,000 ไร่ ทำให้เกิดการประชุมบูรณาการแก้ไขปัญหาและกำจัดวัชพืชในเขื่อนกิ่วลมเมื่อวันที่ 5 มีนาคม 63 ที่ผ่านมา โดยมีนายสิธิชัย จินดาหลวง รองผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง เป็นประธาน โดยสรุปการแก้ไขปัญหา  3 ระยะคือ ระยะที่ 1 คือ ระยะเร่งด่วนเริ่มตั้งแต่วันนี้ไปถึง 5 เม.ย.63 จะทำการนำวัชพืชน้ำที่อยู่เหนือเขื่อน ในระยะ 1 กิโลเมตรแรก ขึ้นจากน้ำให้หมดในระยะเวลา 1 เดือน เพื่อให้น้ำหน้าเขื่อนใสให้ได้  ระยะที่ 2 คือ หลังจากเคลียร์ช่วงหน้าเขื่อนเสร็จแล้ว จะมีการดำเนินการต่อในกิโลเมตรที่ 2 คือช่วงตั้งแต่โรงสูบน้ำของ กฟผ. ยาวไปจนถึงท่าแพสำเภาทอง เราจะวางแผนเพื่อปฏิบัติการเอาวัชพืชน้ำกิโลเมตรที่ 2 ถึงกิโลเมตรที่ 18 ออกให้หมด ภายใน 6 เดือน ไปจนถึงเดือน ก.ย.63  

 

และล่าสุด เมื่อวันที่ 10 เมษายน 2563 นายสิธิชัย จินดาหลวง รองผู้ว่าราชการจังหวัดลำปางเป็นประธานการประชุมการกำจัดวัชพืชในเขื่อนกิ่วลม ครั้งที่ 3/2563 ณ ห้องประชุมโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษากิ่วลม-กิ่วคอหมา ต.บ้านแลง อ.เมืองลำปาง  เพื่อรับทราบสถานการณ์และติดตามผลการกำจัดวัชพืชในเขื่อนกิ่วลม ร่วมกับหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้อง และกลุ่มวิสาหกิจเรือแพ  ซึ่งเบื้องต้นได้มีการกำจัดจอกหูหนูในช่วงกิโลเมตรที่ 1 แล้วเสร็จแล้ว โดยบริเวณด้านหน้าเขื่อนกิ่วลมได้กลับมาใสเหมือนเดิมแล้ว

 

ทั้งนี้ การประชุมได้ข้อสรุปแนวทางการดำเนินการเพิ่มเติม  ให้ปิดกั้นพื้นที่กิโลเมตรที่ 1 ไว้ก่อน ไม่อนุญาตให้เรือแพเข้ามาในพื้นที่ พร้อมทั้งจะจัดทำแนวทุ่นกั้นแนวไว้ 2 ชั้น ในส่วนกิโลเมตรที่ 2-4 ได้บล๊อกพื้นที่ไว้ทั้งหมดแล้ว ต่อไปจะเร่งรัดบล็อกในกิโลเมตรที่ 4 ขึ้นไป   โดยได้รับการสนับสนุนเชือกเพิ่มเติมจากสำนักเครื่องจักรกล เชียงใหม่  และกลุ่มวิสาหกิจเรือแพกิ่วลม -สำเภาทอง จัดทำบล็อกในจุดสำคัญ นอกจากนั้นยังมีทุ่นที่ได้รับการสนับสนุนจากองค์การบริหารส่วนจังหวัดลำปาง กำหนดสเปคให้มีขนาดบางลง เพื่อให้ได้ความยาวที่เพียงพอกับการกั้นแนว ขอบเขตวัชพืชทั้งหมด  เพื่อนำวัชพืชขึ้นมาจากเขื่อนในช่วงที่เหลือต่อไป



ขณะเดียวกันได้ขอความร่วมมือกับกลุ่มวิสาหกิจชาวแพ ระหว่างนี้ถ้าหากมีการสัญจรไปมา และพบวัชพืชขอให้นำเข้าไปไว้ในจุดที่กั้นแนวไว้   โดยมอบหมายให้สำนักงานท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดลำปาง ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมหารือเรื่องการวางมาตรการและการดำเนินการต่างๆ ของกลุ่มวิสาหกิจเรือนแพในพื้นที่ให้มีความถูกต้องตามระเบียบกฎหมายต่อไป


Share:

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

18 ปี ลานนาโพสต์

โครงการปั้นดาว

โครงการปั้นดาว
ขับเคลื่อนโดย Blogger.

จำนวนการดูหน้าเว็บรวม

สถิติการเข้าชมเว็บไซต์