เมื่อวันที่
16 กันยายน 2563 ที่ บริเวณป่าข้างลำห้วย
ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าแม่งาวฝั่งขวา ท้องที่บ้านขุนแม่หวด หมู่ 4 ต.บ้านหวด อ.งาว จ.ลำปาง
เจ้าหน้าที่ศูนย์ปราบปรามการลักลอบตัดไม้ทำลายป่า ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปทส.ตร.)ภายใต้การอำนวยการสั่งการของ พ.ต.อ.วัชรินทร์
พูสิทธิ์
รองผู้บังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
หัวหน้าชุดปฏิบัติการที่ 1 พ.ต.อ.ศานุวงษ์ คงคาอินทร์
ผู้กำกับการ 4
กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
สั่งการให้ เจ้าหน้าที่ ตำรวจ กก.4 บก.ปทส.สายที่ 1 ลำปาง ประงานกับเจ้าหน้าที่สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 3 ลำปาง โดยการอำนวยการสั่งการของ นายชูเกียรติ พงศ์ศิริวรรณ
ผอ.สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 3 ลำปาง เจ้าหน้าที่ตำรวจ
กก.ตชด.ที่ 33 เชียงใหม่ เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง อ.งาว
จ.ลำปาง สนธิกำลังเข้าตรวจสอบ พื้นที่ดังกล่าว
หลังได้รับแจ้งจากพลเมืองดีว่ามีกลุ่มทุนเข้ามาลักลอบบุกรุกแผ้วถางป่าเป็นพื้นที่กว้างเพื่อทำพื้นที่ทางการเกษตรแบบไม่เกรงกลัวกฎหมาย
ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ต้องใช้รถขับเคลื่อน 4 ล้อ เดินทางเข้าไปยังจุดหมายได้อย่างทุลักทุเล
โดยเมื่อไปถึงพบว่า พื้นที่ดังกล่าวถูกแผ้วถางเป็นพื้นที่กว้าง
มีการทำแปลงเกษตรขุดสระน้ำ ที่อยู่อาศัย และสร้างโรงเรือนเพาะชำกล้าไม้
เบื้องต้นสามารถควบคุมผู้ที่อยู่ในพื้นที่ได้จำนวน 2 คน คือ
นายตฤณกฤษ ภัครวัฒน์สกุล อายุ 41 ปี และ นายสมพงษ์ แซ่จ๋าว
อายุ 30 ปี ชาวบ้าน พื้นที่ ต.บ้านอ้อน อ.งาว จ.ลำปาง
ทั้งสองให้การว่า ได้เช่าพื้นที่ดังกล่าว จากชาวบ้านในพื้นที่แห่งนี้เพื่อทำการเกษตร
โดยไม่ทราบว่า เป็นพื้นที่ป่าเพราะได้เสียค่าเช่าพื้นที่แก่ชาวบ้านมาตลอด จนมาถูกจับกุมครั้งนี้
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตรวจสอบและตรวจยึดพื้นที่แห่งนี้เป็นพื้นที่
ป่าสงวนแห่งชาติป่าแม่งาวฝั่งขวาถูกบุกรุก เนื้อที่ จำนวน 40 ไร่ คิดค่าเสียหายของรัฐเป็นเงิน 2.7 ล้านบาทเศษ นอกจากนี้ยังมีอุปกรณ์ซึ่งมีไว้เป็นความผิดหรือได้ใช้ในการกระทำความผิดในการรุกป่าอีกจำนวนหนึ่ง
ทางเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อกล่าวหากระทำผิด พ.ร.บ.ป่าไม้
พ.ศ. 2484 มาตรา 54 ประกอบ 72 ตรี ฐาน “ร่วมกันก่อสร้าง
แผ้วถาง เผาป่า หรือกระทำด้วยประการใดๆ อันเป็นการทำลายป่า
หรือเข้ายึดถือครอบครองป่าเพื่อตนเองหรือผู้อื่นโดยไม่ได้รับอนุญาต” พ.ร.บ.สงวนแห่งชาติ
พ.ศ. 2507 มาตรา 14 ประกอบมาตรา 31 ฐาน “ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ร่วมกันยึดถือ
ครอบครองทำประโยชน์ หรืออยู่อาศัยในที่ดิน ก่อสร้าง แผ้วถาง เผาป่า ทำไม้
หรือกระทำด้วยประการใดๆ อันเป็นการเสื่อมเสียแก่สภาพป่าสงวนแห่งชาติโดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่”
ส่งพนักงานสอบสวน สภ.งาว
ดำเนินคดีตามกฎหมายทันที ส่วนชาวบ้านในพื้นที่
ที่ผู้ต้องหาระบุชื่อว่าได้เช่าพื้นที่ทำการเกษตรกรรมครั้งนี้
เจ้าหน้าที่จะได้เร่งประสานติดต่อนำตัวมาสอบสวนแล้ว
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น