วันจันทร์ที่ 16 มิถุนายน พ.ศ. 2568

เผยเหตุหนุ่มเสียชีวิตบนรถทัวร์ แพทย์ชันสูตรระบุ "โรคแบคทีเรียกินเนื้อ"

 
       จากกรณีพบหนุ่มลำปางนั่งเสียชีวิตบนรถทัวร์โดยสารประจำทางสายนครราชสีมา-เชียงใหม่ ของบริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง  ขณะเข้าจอดที่ชานชาลาสถานีขนส่งผู้โดยสาร จ.ลำปาง เมื่อช่วงเช้ามืดวันที่ 16 มิ.ย.68 ที่ผ่านมา  เบื้องต้นคาเว่าเสียชีวิตจากโรคประจำตัว ซึ่งอยู่ระหว่างนำร่างไปการตรวจสอบชันสูตรอย่างละเอียดที่ รพ.ลำปาง 

         ล่าสุดช่วงเย็นวันเดียวกัน นางนพวรรณ ธนะสุวัตถิ์  ประธานสมาคมสว่างนครลำปาง เขต 9 ได้โพสข้อความแจ้งสาเหตุดารเสียชีวืตของชายคนดังกล่าว จากผลการชันสูตรของแพทย์ โดยระบุว่า "เคสผู้เสียชีวิตบนรถทัวร์เมื่อเช้านี้ สาเหตุการเสียชีวิต คือ  “โรคแบทคทีเรียกินเนื้อคน” รบกวนผู้เกี่ยวข้องดูแลตัวเองกันด้วยค่ะ"

       พร้อมทั้งยังให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ด้วยว่า โรคแบคทีเรียกินเนื้อ (Necrotizing fasciitis) หรือที่เรียกกันทั่วไปว่า "โรคเนื้อเน่า" เป็นการติดเชื้อแบคทีเรียที่รุนแรงและรวดเร็ว ซึ่งส่งผลกระทบต่อเนื้อเยื่ออ่อนและเนื้อเยื่อหุ้มกล้ามเนื้อ หากไม่ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที อาจทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนร้ายแรง เช่น เนื้อเยื่อตาย การติดเชื้อในกระแสเลือด และเสียชีวิตได้ 
        สาเหตุ:  โรคนี้มักเกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรียหลายชนิด เช่น Streptococcus pyogenes และ Staphylococcus aureus เชื้อเหล่านี้สามารถเข้าสู่ร่างกายผ่านทางบาดแผล รอยขีดข่วน หรือรอยถลอกบนผิวหนัง แม้แต่แผลเล็กๆ น้อยๆ ก็สามารถเป็นช่องทางให้เชื้อโรคเข้าสู่ร่างกายได้ 
       อาการ: อาการของโรคแบคทีเรียกินเนื้ออาจแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล แต่โดยทั่วไปแล้วจะเริ่มต้นด้วยอาการปวดอย่างรุนแรงบริเวณที่ติดเชื้อ ซึ่งอาจมากกว่าความรุนแรงของรอยแผลที่ปรากฏ 
อาการอื่นๆ ที่อาจพบได้ ได้แก่  ผิวหนังบวม แดง ร้อน หรือมีสีคล้ำ มีตุ่มน้ำพอง ไข้ หนาวสั่น คลื่นไส้ อาเจียน  หัวใจเต้นเร็วผิดปกติ ในกรณีที่รุนแรง อาจมีอาการช็อกจากการติดเชื้อ (septic shock)
การรักษาโรคแบคทีเรียกินเนื้อต้องทำอย่างรวดเร็วและทันท่วงที ซึ่งโดยทั่วไปจะประกอบด้วย การให้ยาปฏิชีวนะทางหลอดเลือดดำเพื่อควบคุมการติดเชื้อ การผ่าตัดเพื่อกำจัดเนื้อเยื่อที่ติดเชื้อและเนื้อเยื่อที่ตายแล้ว (debridement)  และอาจมีการรักษาอื่นๆ เช่น การใช้ยาแก้ปวด การให้สารน้ำ และการรักษาภาวะแทรกซ้อนอื่นๆ
         สำหรับการป้องกันโรคแบคทีเรียกินเนื้อสามารถทำได้โดย ดูแลรักษาบาดแผล ทำความสะอาดบาดแผลด้วยน้ำสะอาดหรือน้ำเกลือ และปิดแผลให้มิดชิด หลีกเลี่ยงการสัมผัสกับแหล่งเชื้อโรค  โดยเฉพาะอย่างยิ่งในผู้ที่มีบาดแผล ระมัดระวังในการทำกิจกรรมที่เสี่ยงต่อการบาดเจ็บ  เช่น การเดินเท้าเปล่าในที่ที่มีความเสี่ยง หากมีอาการผิดปกติ  ควรรีบไปพบแพทย์เพื่อรับการวินิจฉัยและรักษาทันที
         โดยทั่วไปโรคแบคทีเรียกินเนื้อพบได้น้อยในผู้ที่มีภูมิคุ้มกันปกติ และมักพบในเพศชายมากกว่าเพศหญิง สำหรับผู้ที่มีความเสี่ยงในการเกิดโรคนี้ ได้แก่ ผู้ที่มีภูมิคุ้มกันบกพร่อง หรือมีโรคประจำตัวที่เพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดโรค เช่น เบาหวาน ตับแข็ง ไตวาย ผู้ที่มีโรคหลอดเลือดส่วนปลายตีบหรืออุดตัน ผู้ป่วยมะเร็งที่อยู่ระหว่างการรักษาด้วยเคมีบำบัด ผู้ที่มีภาวะอ้วน ผู้ที่กินยาสเตียรอยด์ ผู้ที่ได้ยากดภูมิคุ้มกัน และกลุ่มเกษตรกรและชาวนาที่มักเกิดบาดแผลเล็กๆ น้อยๆ ในระหว่างการทำงาน และสัมผัสกับเชื้อโรคที่อยู่ในดินหรือน้ำ จากการเดินลุยหญ้า นาข้าว เหยียบย่ำโคลนระหว่างการทำเกษตรกรรม เป็นต้น นอกจากนี้ผู้ที่มีบาดแผลเล็กน้อย เช่น ของมีคมบาดหรือตำ แมลงสัตว์กัดต่อย ผู้ที่ประสบอุบัติเหตุ ผู้ที่มีแผลหลังการผ่าตัด รวมถึงผู้ที่มีแผลหลังจากการป่วยด้วยโรคสุกใส แต่ไม่ได้รับการทำความสะอาดบาดแผล หรือทำความสะอาดบาดแผลไม่เหมาะสม สามารถเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดโรคแบคทีเรียกินเนื้อได้เช่นกัน
Cr. นพวรรณ ธนะสุวัตถิ์  ประวุฒิ พวงสมบัติ
ภาพ กู้ภัยสว่างนครลำปาง 
Share:

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

18 ปี ลานนาโพสต์

โครงการปั้นดาว

โครงการปั้นดาว
ขับเคลื่อนโดย Blogger.

จำนวนการดูหน้าเว็บรวม

สถิติการเข้าชมเว็บไซต์