เผยแผนส่งท้ายปี 2568 โรงไฟฟ้าแม่เมาะเตรียมปลดระวางโรงไฟฟ้าเก่าอีก 3 เครื่อง หลังเสร็จสิ้นภารกิจ "ฮีโร่" ช่วยพยุงค่าไฟช่วงวิกฤตพลังงานโลก ส่งผลกำลังผลิตวูบเหลือเพียง 1,795 เมกะวัตต์ จากเดิมสามารถผลิตได้สูงถึง 2,400 เมกะวัตต์ ขณะที่ชุมชนรอบพื้นที่เตรียมรับมือรายได้กองทุนพัฒนาไฟฟ้าหายปีละกว่า 154 ล้านบาท
- ย้อนรอยเครื่อง 4-7 จากยุคบุกเบิกสู่ภารกิจ "ฟื้นคืนชีพ"
หากย้อนกลับไปเมื่อวันที่
7 กุมภาพันธ์ 2528 ถือเป็นวันประวัติศาสตร์ที่โรงไฟฟ้าแม่เมาะ เครื่องที่ 4-7 (กำลังผลิตรวม
600 เมกะวัตต์) ได้เริ่มเดินเครื่องอย่างเป็นทางการ
เป็นฟันเฟืองสำคัญที่เปลี่ยนโฉมหน้าพลังงานไทยจากการพึ่งพาน้ำมันนำเข้า
มาสู่การใช้ถ่านหินลิกไนต์ในประเทศอย่างเต็มรูปแบบ
แม้เครื่องกลุ่มนี้ (5-6-7)จะถูกปลดระวางไปแล้วในปี 2562 โดยมี MMRP1 มาแทนที่ แต่ด้วยวิกฤตการณ์ราคาก๊าซ LNG ในตลาดโลกที่พุ่งสูง กฟผ. จึงต้อง "ฟื้นคืนชีพ" เครื่องที่ 4 กลับมา Recommissioning อีกครั้งในปี 2565 เพื่อช่วยลดต้นทุนค่า Ft และประคองค่าไฟให้ประชาชน จนกระทั่งถึงกำหนดการ "ชัตดาวน์ถาวร" อีกครั้งในสิ้นปี 2568 นี้
- ชัตดาวน์เครื่อง 9-10
และทางเลือกใหม่ของเครื่อง 8, 11
ในส่วนของโรงไฟฟ้า
เครื่องที่ 8-11 ซึ่งเป็นโรงไฟฟ้าพลังความร้อนขนาดใหญ่ที่มีอายุการใช้งานกว่า
30 ปี แม้จะมีการติดตั้งระบบกำจัดมลพิษที่ทันสมัยทั้งระบบ FGD
และดักจับฝุ่นไฟฟ้าสถิต (ESP) แต่ตามแผนความมั่นคงทางพลังงาน
ล่าสุด เครื่องที่ 9-10 จะต้องเข้าสู่กระบวนการปลดระวางตามกำหนดเวลาสิ้นปี 2568
นี้เช่นกัน
ขณะที่เครื่องที่
8 และ 11 ได้รับการต่อลมหายใจ ยืดระยะเวลาเดินเครื่องยาวไปจนถึงปี 2574 เพื่อทำหน้าที่ผลิตไฟฟ้าทดแทนระหว่างรอให้มีการปรับปรุงเครื่องที่
12-13 ให้สอดคล้องกับกฎหมายมลพิษฉบับใหม่ปี 2575
เนื่องจากโครงการ MMRP2 ถูกระงับไป
- กำลังผลิตวูบ-เงินกองทุนหาย
การหายไปของโรงไฟฟ้าทั้ง
6 เครื่อง (4-7 และ 9-10) ในคราวเดียว ส่งผลกระทบที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ใน 2 มิติหลัก
นั่นคือ “กำลังการผลิตไฟฟ้า” จากเดิมที่เป็นฐานผลิตขนาดใหญ่ จะเหลือยอดรวมเพียง 1,795 เมกะวัตต์ (จากเครื่อง 8, 11,
12, 13 และ 14) และที่สำคัญคือ “เม็ดเงินกองทุนพัฒนาไฟฟ้า”
เงินกองทุนที่จัดเก็บจาก
"ทุกหน่วยการผลิต" ในอัตรา 0.02 บาทต่อหน่วย จะหายไปทันทีประมาณ 154 ล้านบาทต่อปี
เม็ดเงินที่หายไปนี้ถือเป็นตัวเลขที่สูงมากสำหรับงบพัฒนาท้องถิ่นในระดับอำเภอ ซึ่งปกติจะถูกนำไปใช้ในโครงการสาธารณสุข การศึกษา และการสร้างอาชีพให้แก่ชุมชนรอบโรงไฟฟ้า การปลดระวางครั้งนี้จึงไม่ได้เป็นเพียงเรื่องของเทคนิคการผลิตไฟฟ้า แต่เป็นโจทย์ใหญ่ที่ทุกภาคส่วนในแม่เมาะต้องร่วมกันวางแผนรับมือกับ "รายได้ที่หายไป" เพื่อให้การเปลี่ยนผ่านสู่ยุคพลังงานใหม่เป็นไปอย่างยั่งยืน
ข้อมูลสรุปสถานะโรงไฟฟ้าแม่เมาะ
เครื่องที่ปลดระวาง
ปี 62 : เครื่องที่ 5, 6, 7 (กำลังผลิตที่หายไป:
ประมาณ 450 เมกะวัตต์)
เครื่องที่ปลดระวาง
ปี 68
: เครื่องที่ 4, 9, 10 (กำลังผลิตหายไป
ประมาณ 690 เมกะวัตต์)
เครื่องที่เดินเครื่องต่อ: เครื่องที่ 8, 11 (ขยายเวลาเดินเครื่องถึงปี 2574 กำลังผลิตรวม 540 เมกะวัตต์) , เครื่องที่ 12-13 (กำลังผลิตรวม 600 เมกะวัตต์ เตรียมปรับปรุงใหญ่ทดแทน MMRP2) และ เครื่องที่ 14 หรือ MMRP1 กำลังผลิตรวม 655 เมกะวัตต์
กำลังผลิตคงเหลือ: 1,795
เมกะวัตต์
คาดการณ์เงินกองทุนพัฒนาไฟฟ้าคงเหลือ
: ~154
ล้านบาท/ปี









0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น