โจรงัดไม่สำเร็จทิ้งตู้เติมเงิน หายแล้วหลายตู้

จำนวนผู้เข้าชม

โจรเมืองลำปางยังชุกชุม แอบยกตู้เติมเงินออนไลน์กะจะทุบเอาเงินภายในแต่ไม่สำเร็จ จึงนำมาทิ้งไว้ข้างถนนใกล้ป่าช้าเขตตำบลพิชัย เจ้าของเผยไม่กี่วันที่ผ่านมาก็เคยโดนมาแล้ว รวมกับของบริษัทอื่นจำนวนหลายตู้ คงต้องรอดูฝีมือตำรวจว่าจะติดตามจับกุมตัวมาดำเนินคดีได้หรือไม่

เมื่อเวลาประมาณ 07.40 น. วันที่ 20 ธ.ค.60  เจ้าหน้าที่ตำรวจศูนย์วิทยุ สภ.เมืองลำปาง ได้รับแจ้งจากพลเมืองดีว่า พบมีตู้เติมเงินโทรศัพท์ออนไลน์ ถูกนำมาวางทิ้งข้างถนน ใกล้กับป่าช้าหมู่บ้านพิชัย หมู่ 1 ต.พิชัย อ.เมือง จ.ลำปาง คาดว่าคนร้ายน่าจะนำมาทิ้ง ขอให้เจ้าหน้าที่มาตรวจสอบด่วน ต่อมา ร.ต.อ.ทรงวุฒิ เกตุวงศ์ รอง สว.(สอบสวน) ปฏิบัติหน้าที่ร้อยเวรสอบสวน จึงเดินทางไปตรวจสอบร่วมกับ ร.ต.อ.ลายวิน สุนันทพงษ์ และ ด.ต.ธานินทร์ จะวะนะ เจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจตำบลพิชัย

โดยเมื่อไปถึงพบมีกลุ่มชาวบ้านจำนวนหนึ่งกำลังมุงดูตู้สีเขียวซึ่งวางทิ้งอยู่ข้างถนน ตรวจสอบเบื้องต้นพบว่าเป็นตู้ที่ใช้สำหรับเติมเงินมือถือระบบออนไลน์ โดยมีชื่อติดข้างตู้ คือกระปุก ตู้เติมเงินออนไลน์มือถือ สอบสวนชาวบ้านที่อยู่ในบริเวณนั้นทราบว่าในช่วงเช้าได้ขับรถจักรยานยนต์ผ่านถนนเส้นดังกล่าวพบว่ามีตู้เติมเงินถูกทิ้งอยู่ ข้างตู้มีมีดคัทเตอร์แบบพับ ปะแจ ไขควง และไฟแช๊ควางอยู่คาดว่าน่าจะเป็นของคนร้าย ขณะที่เจ้าหน้าที่กำลังตรวจอยู่บริเวณที่เกิดเหตุได้มีนางสาวหัสยา เลิศพินิจอมรกุล วัย 32 ปี ที่อยู่  365 ซอยเศรษฐกิจ 22 แขวงบางแควเหนือ กทม.พร้อมเพื่อนชายเข้ามายังจุดดังกล่าว โดยแจ้งกับเจ้าหน้าที่ว่าตนเองเป็นผู้รับมอบจากบริษัทแอดวานเซอร์วิส โดยเป็นตัวแทนในจังหวัดลำปางนำตู้เติมเงินออนไลน์มาวางตามจุดต่างๆในจังหวัดลำปางกว่า 300 ตู้  

ซึ่งตู้ที่โดนคนร้ายนำมาทิ้งครั้งนี้ตนเองได้มีการนำมาติดตั้งไว้ที่บริเวณหน้าบ้านของนางสมร มหาสมิตร อายุ 59 ปี ราษฎรชุมชนหลังค่ายทหาร หมู่ 1 หน้าตลาด สร.หมู่ 1 ต.พิชัย อ.เมืองลำปาง ทราบว่าตู้ดังกล่าวสัญญาณได้หายไปจากระบบไปตั้งแต่เวลาประมาณเกือบ 5 ทุ่มคืนที่ผ่านมา กระทั่งมาได้รับแจ้งจากนางสมร ในช่วงเช้าว่าตู้เติมเงินได้หายไปจากจุดหน้าบ้านจึงได้เข้ามาดู ซึ่งภายในตู้มีเงินสดอยู่กว่า 2 พันบาท แต่คนร้ายไม่สามารถเอาออกไปได้ เพราะมีการล๊อคกุญแจไว้อีกชั้นภายใน

โดยนางสาวหัสยา เลิศพินิจอมรกุล กล่าวว่า ที่ผ่านมาไม่กี่วันตู้เติมเงินที่ตนดูแลอยู่ได้ถูกคนร้ายขโมยหายไปแล้ว 1 ตู้ ในเขตพื้นที่ สภ.เขลางค์นคร  ยังไม่รวมกับของบริษัทอื่นๆที่หายไปจำนวนหลายตู้ จากการตรวจที่เกิดเหตุทางพนักงานสอบสวนได้ประสานเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานเพื่อตรวจหารอยนิ้วมือแฝงของคนร้าย เพื่อจะได้ให้ทางตำรวจชุดสืบสวนติดตามจับกุมต่อไป.

(หนังสือพิมพ์ลานนาโพสต์ ฉบับที่ 1160 วันที่ 22 -28 ธันวาคม 2560)