
คนร้ายชาย ทำทีให้เมียอุ้มลูกน้อยวัย 5 ขวบ มาขอความช่วยเหลือชาวบ้าน พอสบโอกาสชิงกระเป๋าเงินขับเก๋งหลบหนี พอจนมุมไปจอดรถทิ้งไว้ และยังไปชิงรถจักรยานยนต์ขาวบ้านที่เสียบกุญแจรถคาไว้หนีไปอีกต่อหนึ่ง
เจ้าหน้าที่เร่งติดตามคาดได้ตัวเร็วๆนี้
เมื่อวันที่26 กรกฎาคม
2562 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เกาะคา อ.เกาะคา
จ.ลำปาง ได้รับแจ้งว่าเกิดเหตุชิงทรัพย์ที่ร้านขายของชำ ในหมู่บ้านวังพร้าว หมู่ 7 ต.วังพร้าว อ.เกาะคา โดยผู้ก่อเหตุเป็นชาย มากับภรรยาและลูกวัยประมาณ 5
ขวบ ได้ขับรถยนต์เก๋งสีเทาดำหลบหนีไป หลังรับแจ้งจึงประสานร้อยเวรสอบสวน
เข้าทำการตรวจสอบ เบื้องต้นได้พบกับเจ้าของร้านขายของชำ
ให้การว่า ได้มีชายวัยกลางคน ขับรถยนต์เก๋งยี่ห้อมาสด้ารุ่นเก่า สีเทาดำ
ซึ่งตนเองก็จำหมายเลขทะเบียนไม่ได้ ขับรถมาจอดที่หน้าร้าน
แล้วเดินเข้ามาบอกว่าตนเองเพิ่งจะพ้นโทษออกจากเรือนจำ กำลังหาเงินเพื่อที่จะกลับบ้านขอเงินหน่อย
ขณะนั้นก็มีชาวบ้านนั่งพูดคุยกันอยู่ 2-3 คน แต่ก็ไม่ได้มีใครสนใจชายคนดังกล่าว กระทั่งได้ก่อเหตุชิงกระเป๋าเงินของตนเอง
ภายในมีเงินสดอยู่ประมาณ 1,000 กว่าบาท แล้วขับรถยนต์หลบหนีไป
จึงแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจทันที
ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการสอบสวนเจ้าของร้านขายของชำอยู่นั้น
ก็ได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่า มีชายวัยกลางคนพร้อมผู้หญิงและเด็ก
มาก่อเหตุชิงรถจักรยานยนต์ของชาวบ้านที่ร้านรับซื้อของเก่า เลขที่ 70 หมู่ 4 บ้านม่อนหินแก้ว ต.วังพร้าว
อ.เกาะคา จ.ลำปาง โดยได้นำรถยนต์เก๋งมาจอดทิ้งไว้ ทางเจ้าหน้าที่ ตำรวจ สภ.เกาะคา
สายตรวจประจำตำบลวังพร้าว พร้อมด้วยผู้ใหญ่บ้านบ้านม่อนหินแก้ว หมู่ 4 ผู้ใหญ่บ้านบ้านวังพร้าว หมู่ 7 จึงได้รีบเดินทางไปตรวจสอบ
และพบรถยนต์เก๋ง มาสด้า รุ่นเก่า หมายเลขทะเบียน 2 กฌ 8396 กทม. ถูกจอดทิ้งไว้ที่ลานหน้าบ้านหลังดังกล่าว
นางอรัญญา บุญมา อายุ
77 ปี ชาวบ้าน บ้านไร่อ้อย ต.ศาลา อ.เกาะคา เจ้าของรถจักรยานยนต์ เล่าว่า
ชายและหญิง ได้ขับรถเก๋งมาจอดไว้ และทำทีอุ้มลูกมาหา อ้างว่ารถน้ำมันหมด
จะขอยืมรถจักรยานยนต์ไปซื้อน้ำมัน
แต่ตนเองไม่ให้ยืมเพราะไม่เคยรู้จักกันมาก่อน เมื่อชายคนดังกล่าวเห็นว่ารถของตนได้เสียบกุญแจทิ้งไว้
ก็ได้วิ่งไปควบรถสตาร์ท และพาลูกเมียขี่รถหลบหนีไปทันที
ตนเองก็ทำอะไรไม่ถูกได้แต่ตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเพราะมีผู้สูงอายุอยู่ด้วย พอได้สติจึงโทรศัพท์แจ้งตำรวจ
ทั้งนี้ ทางเจ้าหน้าที่ได้วิทยุสกัดจับหลายเส้นทาง
และพบว่าคนร้ายยังได้นำกระเป๋งเงินของผู้เสียหายรายแรกไปทิ้งไว้ที่หน้าที่ว่าการอำเภอเกาะคาแล้วขับรถหลบหนีไป
ล่าสุดชุดสืบสวน สภ.เกาะคา
ได้ติดตามอย่างกระชั้นชิดแล้ว และพอจะมีเบาะแสคนร้ายบ้าง คาดว่าจะได้ตัวเร็วๆนี้
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น