วันพฤหัสบดีที่ 18 กันยายน พ.ศ. 2568

อุตุฯ คาดภาคเหนือมีฝนตกหนักต่อเนื่อง โดยเฉพาะช่วง 21–24 ก.ย. ขอประชาชนในพื้นที่ลาดเชิงเขาและใกล้ทางน้ำไหลผ่าน ระวังอันตรายจากน้ำหลากและดินถล่ม

           


          ในช่วงวันที่ 1820 ก.ย. ประเทศไทยตอนบนยังคงมีฝนตกต่อเนื่องและมีฝนตกหนักบางแห่ง โดยมีฝนตกหนักมากบริเวณภาคตะวันออก เนื่องจากร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลาง และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงบริเวณทะเลจีนใต้ตอนกลาง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง

ส่วนในช่วงวันที่ 2124 ก.ย. บริเวณภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จะมีฝนเพิ่มมากขึ้นและมีฝนตกหนักบางแห่ง  สำหรับภาคใต้จะมีฝนลดลง เนื่องจากร่องมรสุมจะเลื่อนขึ้นไปพาดผ่านภาคเหนือ ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยมีฝนตกหนักมากบริเวณภาคตะวันออก ในขณะที่มรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางยังคงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย

สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูง 1 - 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร                                  

อนึ่ง พายุดีเปรสชันบริเวณประเทศฟิลิปปินส์ได้เคลื่อนตัวลงสู่ทะเลจีนใต้ตอนบนแล้ว คาดว่าจะทวีกำลังแรงขึ้นเป็นพายุโซนร้อน และมีแนวโน้มจะเคลื่อนขึ้นฝั่งบริเวณประเทศจีนตอนใต้ ในช่วงวันที่ 19-20 กันยายน 2568 โดยพายุนี้ไม่เคลื่อนเข้าประเทศไทย

ข้อควรระวัง

ในช่วงวันที่ 1820 ก.ย. ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทย ระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม

ส่วนในช่วงวันที่ 2124 ก.ย. ขอให้ประชาชนบริเวณภาคเหนือ ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่มไว้ด้วย


คาดหมายอากาศภาคเหนือ

  • วันที่ 1824 กันยายน พ.ศ. 2568  ในช่วงวันที่ 1821 ก.ย. มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40 - 60 ของพื้นที่
  • วันที่ 2224 ก.ย. มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 6080 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง ลมแปรปรวน ความเร็ว 5 - 15 กม./ชม.  
  • อุณหภูมิต่ำสุด 22 25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30 35 องศาเซลเซียส


Share:

องค์การสวนสัตว์ฯ ปล่อยนกกาฮัง “สะล้อ-ซอซึง” คืนสู่ธรรมชาติเพื่อการอนุรักษ์ เป็นคู่ที่ 2 ของอุทยานแห่งชาติแจ้ซ้อน จ.ลำปาง

 

วันที่ 18 กันยายน 2568 เวลา 09.00 น.นายชุติเดช มีจันทร์ ผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง เป็นประธานในพิธีเปิดกิจกรรมการปล่อยนกกาฮังคืนสู่ธรรมชาติเพื่อการอนุรักษ์และฟื้นฟูความหลากหลายทางชีวภาพในเขตพื้นที่ภาคเหนือ ณ อุทยานแห่งชาติแจ้ซ้อน อำเภอเมืองปาน จังหวัดลำปาง นำนกกาฮัง หรือ นกกก หนึ่งในนกเงือกขนาดใหญ่ที่สุดของประเทศไทย จำนวน 2 ตัวที่ได้รับการคัดเลือกและฟื้นฟูพฤติกรรมปล่อยคืนสู่ธรรมชาติ หลังหายจากป่าภาคเหนือกว่า 20 ปี



          องค์การสวนสัตว์แห่งประเทศไทยฯ สวนสัตว์เปิดเขาเขียว ร่วมกับ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช มูลนิธิศึกษาวิจัยนกเงือก บริษัทบางจากศรีราชา จำกัด (มหาชน) สำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน) และหน่วยงานพันธมิตร ได้กำหนดจัดกิจกรรมการปล่อยนกกาฮังคืนสู่ธรรมชาติ ระยะที่ 2 (คู่ที่ 3) ณ อุทยานแห่งชาติแจ้ซ้อน อ.เมืองปาน จ.ลำปาง       



             โดยก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 27 ตุลาคม 2565  จ.ลำปาง ได้เปิดโครงการทดลองปล่อยนกกาฮังคืนสู่ธรรมชาติ เพื่อการอนุรักษ์และฟื้นฟูความหลากหลายทางชีวภาพในเขตพื้นที่ภาคเหนือ โดยนำนกกาฮัง หรือ นกกก หนึ่งในนกเงือกขนาดใหญ่ที่สุดของประเทศไทย จำนวน 2 ตัว ที่ได้รับการคัดเลือกและฟื้นฟูพฤติกรรมปล่อยคืนสู่ธรรมชาติ ในพื้นที่ป่าอนุรักษ์ของอุทยานแห่งชาติแจ้ซ้อน จ.ลำปาง  เพื่อศึกษาการใช้พื้นที่เชิงนิเวศ การกระจาย และการอยู่รอดได้ในพื้นที่  ถือเป็นนกกาฮังคู่แรกที่ปล่อยคืนสู่ธรรมชาติของภาคเหนือ 

ต่อมาในปี 66 ได้มีการปล่อยนกกาฮัง ตามโครงการ “ทดลองปล่อยนกกาฮังคืนสู่ธรรมชาติ เพื่อการอนุรักษ์และฟื้นฟูความหลากหลายทางชีวภาพในเขตพื้นที่ภาคเหนือ" เป็นคู่ที่ 2 ของภาคเหนือ ที่สถานีวิจัยสัตว์ป่าดอยเชียงดาว เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเชียงดาว จ.เชียงใหม่


และล่าสุด จ.ลำปางได้ทำการปล่อยนกกาฮังคืนสู่ธรรมชาติเป็นคู่ที่ 3 ของภาคเหนือ  และเป็นคู่ที่ 2 ของอุทยานแห่งชาติแจ้ซ้อน โดยมีการประกวดตั้งชื่อนกกาฮัง  ผลการประกวด เพศผู้ได้ชื่อว่า “สะล้อ” และเพศเมียชื่อ “ซอซึง”  

ทั้งนี้ จะมีการดำเนินงานติดตามภายหลังการทดลองปล่อยที่สอดคล้องกับแนวทางปฏิบัติของ IUCN SSC และ AZA ในการปล่อยสัตว์ป่าคืนสู่ธรรมชาติที่เป็นไปตามหลักทางวิชาการต่อไป

Share:

วันพุธที่ 17 กันยายน พ.ศ. 2568

ครอบครัวไชยแก้วเมร์ บ้านน้ำล้อม อ.งาว สุดดีใจได้ซ่อมแซมบ้านใหม่จากโครงการช่วยเหลือผู้ยากไร้ หลังเคยถูกน้ำป่าหลากกลางดึก สามีต้องอุ้มภรรยาลอยกระบะผสมปูนหนีน้ำรอดชีวิต

 

วันที่ 17 ก.ย. 68 นายชุติเดช มีจันทร์ ผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง พร้อมด้วย นางณัชชา มีจันทร์ นายกเหล่ากาชาดจังหวัดลำปาง/ประธานแม่บ้านมหาดไทยจังหวัดลำปาง เป็นประธานในพิธีมอบบ้านตามโครงการปรับปรุงซ่อมแซมบ้านหรือห้องน้ำให้แก่ผู้ยากไร้ ผู้ด้อยโอกาส ผู้ป่วยติดเตียง และผู้พิการที่มีฐานะยากจน ประจำปี 2568 รายของ นางเนตรดาว ไชยแก้วเมรุ์ บ้านเลขที่ 101/6  บ้านน้ำล้อม หมู่ 3 ตำบลหลวงใต้ อำเภองาว จังหวัดลำปาง

สำหรับบ้านของนางเนตรดาว อายุ 51 ปี ผู้ป่วยติดเตียง  และนายนิรันดร ไชยแก้วเมร์ อายุ 54 ปี สามี พักอาศัยอยู่ด้วยกัน 2 คนที่บ้านหลังดังกล่าว  โดยเมื่อวันที่ 16 ก.ค.68 ที่ผ่านมา ช่วงเวลาประมาณ 03.00 น. ได้เกิดน้ำป่าไหลหลากเข้าท่วมบ้านอย่างรวดเร็วเกือบจะถึงคอ  ทำให้นายนิรันดร ต้องอุ้มภรรยาไว้ในกระบะผสมปูนลอยน้ำไว้ เพื่อรอเจ้าหน้าที่กู้ภัยเข้ามาช่วยเหลือ  และไปพักอยู่ที่วัดน้ำล้อมเป็นการชั่วคราว  กระทั่งน้ำลดจึงได้กลับมาสำรวจบ้าน และพบว่าข้าวของจำเป็นได้รับความเสียหายทั้งหมด 

ต่อมาทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เข้าให้การช่วยเหลือ และได้เข้าโครงการปรับปรุงซ่อมแซมบ้าน กระทั่งได้รับมอบจากผู้ว่าราชการจังหวัดลำปางดังกล่าว



ภาพ คุณเอ็กซ์ กู้ภัยงาว , สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดลำปาง

Share:

เพลิงไหม้รุนแรงร้านขายแก๊สแอลพีจี-น้ำมัน ต.เมืองยาว อ.ห้างฉัตร ดับเพลิงระดมฉีดน้ำกว่า 1 ชั่วโมงจึงคุมเพลิงได้ เผาทำลายข้าวของวอด รถกระบะ-จยย.เสียหายรวม 4 คัน

 

เมื่อเวลา 10.18 น. วันที่ 17 กันยายน 2568  ศูนย์วิทยุ 191 จ.ลำปาง ได้รับแจ้งว่าเกิดเหตุเพลิงไหม้ร้านขายแก๊สแอลพีจี และน้ำมัน บริเวณหน้าวัดเวียงใต้ ต.เมืองยาว อ.ห้างฉัตร จ.ลำปาง จึงรีบประสานทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองยาว และเจ้าหน้าที่ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ทต.เมืองยาว และใกล้เคียง ร่วมระงับเหตุอย่างเร่งด่วน  

          ในที่เกิดเหตุเป็นบ้านปูน 2 ชั้น ด้านล่างเปิดเป็นร้านขายของชำ และจำหน่ายน้ำมัน แก๊สหุงต้ม  อุปกรณ์การเกษตรและอุปกรณ์ก่อสร้าง โดยได้เกิดเพลิงไหม้อย่างรุนแรง  โดยมีรถดับเพลิงจาก ทต.เมืองยาว ทต.เวียงตาล  ทต.ห้างฉัตรแม่ตาล  ทต.ปงยางคก  อบต.แม่สัน

และอบต.วอแก้ว ร่วมกันระดมฉีดน้ำดับเพลิง  ขณะเดียวกันได้ประสานทางการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคอำเภอห้างฉัตรให้ทำการตัดกระแสไฟฟ้าในบริเวณจุดเกิดเหตุเพื่อความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่ เนื่องจากต้องทำงานด้วยความระมัดระวัง เพราะภายในบ้าน มีเชื้อเพลิงเป็นน้ำยาฆ่าหญ้า น้ำมันดีเซล เบนซินต่างๆ จำนวนมาก   จนกระทั่งใช้เวลากว่า 1 ชั่วโมงจึงสามารถควบคุมเพลิงไว้ได้ ในเวลา 11.30 น.

ทั้งนี้พบว่า อุปกรณ์เครื่องใช้ในการเกษตร และอุปกรณ์ขายของ บริเวณชั้นล่างได้รับความเสียหายทั้งหมด  และยังมีรถยนต์กระบะอีก  1 คัน และรถจักรยานยนต์อีก 3 คันถูกไฟไหม้เหลือแต่โครงเหล็ก

ส่วนเจ้าของบ้านทราบชื่อคือ นายฤทธิ์ กาวิชัย  บ้านเลขที่ 85 หมู่ 2 บ้านเวียงใต้ ต.เมืองยาว อ.ห้างฉัตร จ.ลำปาง  ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย เจ้าหน้าที่กู้ภัยจึงได้ปฐมพยาบาลและนำตัวส่งรักษาตัวที่ รพ.ห้างฉัตร ส่วนสาเหตุอยู่ระหว่างการสอบสวนอย่างละเอียดของเจ้าหน้าที่ตำรวจ และเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานต่อไป


อย่างไรก็ตาม ทางกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดลำปาง ได้สั่งการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการ  แจ้งทุกอำเภอ แจ้งเตือน และประชาสัมพันธ์ ให้ประชาชน ระมัดระวัง เหตุอัคคีภัย    เตรียมความพร้อมเครื่องมือ อุปกรณ์ เครื่องจักรกล กำลังพลพร้อมให้การช่วยเหลือทันทีตลอด 24 ชั่วโมง ด้านหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้เร่งสำรวจความเสียหายและให้ความช่วยเหลือตามระเบียบ ต่อไป

ภาพ สท.แยม เทศบาลตำบลเมืองยาว , กู้ภัยสว่างนครลำปาง





Share:

วันอังคารที่ 16 กันยายน พ.ศ. 2568

ไฟไหม้บ้านสาวท้อง 6 เดือน วอดทั้งหลัง เคราะห์ดีไม่มีใครบาดเจ็บ หน่วยงานเร่งให้การช่วยเหลือ

 


เกิดเหตุเพลิงไหม้บ้าน 2 ชั้น ที่บ้านห้วยวาด ต.ทุ่งผึ้ง อ.แจ้ห่ม จ.ลำปาง บ้านของสาววัย 19 ตั้งครรภ์ 6 เดือน ถูกไฟเผาวอดทั้งหลัง ไม่มีผู้บาดเจ็บหรือเสียชีวิต หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งเข้าช่วยเหลือและเปิดช่องทางบริจาค

เมื่อวันที่ 16 กันยายน 2568 เวลาประมาณ 13.30 น. นายชาญ จูดคง นายอำเภอแจ้ห่ม พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่เทศบาลตำบลทุ่งผึ้ง ได้ลงพื้นที่บ้านใหม่สามัคคี (ห้วยวาด) หมู่ที่ 7 ตำบลทุ่งผึ้ง อำเภอแจ้ห่ม จังหวัดลำปาง เพื่อตรวจสอบเหตุเพลิงไหม้บ้านพักอาศัยของ นางสาวนรินดา อายุ 19 ปี ซึ่งขณะนี้กำลังตั้งครรภ์ได้ 6 เดือน โดยมีการเข้าดับเพลิงและให้ความช่วยเหลือเบื้องต้นแก่เจ้าของบ้านและครอบครัวอย่างเร่งด่วน

เหตุเพลิงไหม้เกิดขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 12.30 น. โดยบ้านหลังดังกล่าวเป็นบ้านพักอาศัย 2 ชั้น ชั้นล่างก่อสร้างด้วยปูน และชั้นบนเป็นไม้ ซึ่งถูกไฟไหม้เสียหายทั้งหลัง ขณะเกิดเหตุไม่มีผู้ใดอยู่ภายในบ้าน และยังไม่สามารถระบุสาเหตุของเพลิงไหม้ได้อย่างแน่ชัด

โชคดีที่เหตุการณ์ครั้งนี้ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิตแต่อย่างใด โดยทางอำเภอแจ้ห่มและเทศบาลตำบลทุ่งผึ้งได้ดำเนินการให้ความช่วยเหลือเบื้องต้น พร้อมประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อพิจารณาแนวทางการฟื้นฟูและเยียวยาครอบครัวผู้ประสบภัยต่อไป

ร่วมช่วยเหลือเจ้าของบ้านได้ที่ บัญชี 020211533100 ธนาคาร ธกส.  ชื่อ น.ส.นรินดา จะที

ที่มา ที่ทำการปกครองอำเภอแจ้ห่มจังหวัดลำปาง

Share:

ตำรวจปราบปรามยาเสพติด กก.สส.ฯ รวบแก๊งยาบ้าเสริมงาม ก่อนขยายผลรวบตัวสั่งการ ขณะนอนซมรักษาอาการบาดเจ็บในห้องเช่า

          เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปราบปรามยาเสพติด กก.สส.ภ.จว.ลำปาง  นำโดย  พ.ต.ต.ณภัทร  แสนชัยชุม สว.กก.สส.ภ.จว.ลำปาง, ร.ต.ต.วรยุทธ   ต๊ะค่า รอง สว.กก.สส.ภ.จว.ลำปาง , ด.ต.กิตติชัย โนสี ผบ.หมู่ (ป.).กก.สส.ภ.จว.ลำปาง, ส.ต.อ.ภูริวัฒน์ ปันทะรส, ส.ต.ท.ศุภศิษฐ ต้อนรับ ผบ.หมู่ (สส) กก.สส.ภ.จว.ลำปาง, ส.ต.ท.ณภัทร ทวีวัฒน์  ผบ.หมู่ ปรก.กก.สส.ภ.จว.ลำปาง ได้ช่วยกันพยุงนายเค (นามสมมุติ) อายุ 31 ปี  ชาว อ.เสริมงาม จ.ลำปาง  ผู้ต้องหาจำหน่ายซึ่งยาเสพติดให้โทษประเภท 1  ยาบ้า  โดยการมีไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายอันเป็นการกระทำเพื่อการค้าโดยไม่ได้รับอนุญาต  ออกจากห้องเช่าแห่งหนึ่งใน ต ต้นธงชัย อ.เมืองลำปาง จ.ลำปาง  หลังถูกเจ้าหน้าที่จับกุมพร้อมของกลาง ยาบ้า จำนวน  190 เม็ด พร้อมโทรศัพท์มือถือยี่ห้อ oppo รุ่น A 5 pro สีฟ้า  1 เครื่อง มาสอบสวนที่กองกำกับการสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดลำปาง

    โดย ก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่จับกุมตัวนายคิว (นามสมมุติ) อายุ 20 ปี ชาว อ.เสริมงาม ในข้อหา มียาเสพติดให้โทษประเภท 1 ( ยาบ้า หรือ เมทแอมเฟตามีน ) มีไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตพร้อมยาบ้าจำนวน 20 เม็ด จากการขยายผล ผู้ต้องหาสารภาพว่า นายบัติ ชาว อ.เสริมงาม ได้ใช้ให้ตนไปเอายาบ้าจาก นายเค (นามสมมุติ) ที่ห้องเช่าแห่งหนึ่ง ใน ต.ต้นธงชัย แล้วเอาไปส่งให้ลูกค้า ก่อนจะมาถูกจับกุมตัวดังกล่าว นายคิวยังให้การอีกว่า นายบัติกับนายเคทั้งสองคนยังอยู่ในห้องเช่า จึงพาเจ้าหน้าที่ไปชี้ตัวที่ห้องเช่า

          เมื่อไปถึงเจ้าหน้าที่ได้แสดงตัวและให้นายคิว ชี้ตัวนายบัติ ซึ่งนั่งอยู่ในห้อง ส่วนนายเค  นอนอยู่บนเตียงมีบาดแผลพันด้วยผ้าก๊อตได้รับบาดเจ็บหลายแห่ง  ก่อนจะขอตรวจค้น เบื้องต้นพบยาบ้าจำนวน 190 เม็ดในชั้นวางของข้างเตียงนอน จึงจับกุมตัวนายเค ส่วนนายบัติพบยาบ้า 20 เม็ด ในกระเป๋ากางเกง ทั้งสองให้การรับสารภาพ  นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ยังจับกุมตัวนายช้าง (นามสมมุติ) อายุ 19 ปี พร้อมยาบ้าอีก 30 เม็ด ได้ที่หอพักใกล้กันก่อนนำตัวทั้ง 4 คน ไปสอบสวนและดำเนินคดีตามกฏหมาย


          สำหรับผู้ต้องหาทั้งหมด เป็นแก๊งค้ายาบ้าในอำเภอเสริมงาม โดยมีนายเค เป็นคนสั่งการ โดยมาเช่าห้องเช่าอยู่ที่ ต.ต้นธงชัย ดังกล่าว  ซึ่งนายเคนอนพักรักษาตัวอยู่ในห้อง หลังประสบอุบัติทางรถยนต์  เป็นคนสั่งการให้นายบัติ นายคิว และนายช้าง เป็นเครือข่าย นำยาบ้าไปส่งให้ลูกค้า ก่อนจะถูกจังกุมยกแก๊งดังกล่าว


Share:

วันจันทร์ที่ 15 กันยายน พ.ศ. 2568

เก๋งชนท้ายซาเล้งจนขาดออกจากมอเตอร์ไซค์รถพังยับ แม่ลูกกระเด็นตกจากรถ ได้รับบาดเจ็บ 3 ราย

 



 

        เมื่อเวลาประมาณ 19.40 น. วันที่ 14 ก.ย. 68 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เถิน ได้รับแจ้งว่าเกิดอุบัติเหตุรถยนต์เก๋งชนท้ายรถจักรยานยนต์พ่วงข้าง มีผู้ได้รับบาดเจ็บหลายราย บริเวณหน้าลานมัน หลักกิโลเมตรที่  4-5  เขตบ้านหวยโจ้  ถนนสายเถิน- ลี้  ต.นาโป่ง อ.เถิน จ.ลำปาง   หลังรับแจ้งจึงประสานร้อยเวรสอบสวน พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่กู้ภัยนาโป่ง  สมาคมกู้ภัยลำปาง จุดเถิน เข้าตรวจสอบและให้การช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ 

        เบื้องต้นในที่เกิดเหตุพบผู้บาดเจ็บทั้งหมด 3 ราย รายแรกเป็นหญิงอายุ 44 ปี นอนอยู่ริมถนน มีแผลถลอกปอกเปิกตามร่างกาย  ส่วนอีก 2 ราย เป็นเด็ก อายุ 10 ขวบ และ  6 ขวบ  เจ้าหน้าที่กู้ภัยจึงรีบปฐมพยาบาล และนำทั้งหมดส่งรักษาที่โรงพยาบาลเถิน 

        จากการตรวจสอบพบรถซาเล้งอยู่บริเวณกลางถนน ภายในบรรทุกแตงไทยมาเต็มคัน แตงส่วนหนึ่งตกกระจัดกระจายอยู่บนพื้นถนน ส่วนรถจักรยานยนต์ กระเด็นลงไปอยู่ในพงหญ้าข้างทาง ได้รับความเสียหาย ยางหลังแตก ล้อบิดเบี้ยว ส่วนคู่กรณีเป็นรถยนต์เก๋ง มาสด้า สีเทา ไฟหน้ารถฝั่งได้ซ้าย และไฟเบอร์ด้านข้างแตกได้รับความเสียหาย ส่วนคนขับรถไม่ได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด

        เหตุการณ์ทราบว่า 3 แม่ลูกได้ขี่รถจักรยานยนต์พ่วงข้างไปรับแตงไปขาย และได้ขับมาตามเส้นทางดังกล่าว ซึ่งคาดว่ารถยนต์เก๋งที่ขับมาตามหลัง ไม่ทันเห็นรถจักรยานยนต์ของ 3 แม่ลูก เนื่องจากเส้นทางนี้มีไฟส่องสว่างเป็นบางช่วง จึงได้ชนท้ายเข้าอย่างจังดังกล่าว อย่างไรก็ตาม ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้ทำการสอบสวนสาเหตุอย่างละเอียดเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป



ภาพ ภาณุวัฒน์ วงศ์ยศ

 

Share:

ปภ.ลำปาง รายงานเกิดน้ำป่าหลาก 2 อำเภอ วังเหนือ-แจ้ห่ม ชาวบ้านได้รับผลกระทบ เกือบ 40 หลัง

 


          สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดลำปา รายงานเหตุการณ์น้ำป่าไหลหลาก เมื่อวันที่ 14 ก.ย.68 เวลา 01.00 น. ที่ผ่านมา  ทำให้มีบ้านเรือนประชาชนได้รับผลกระทบ  2 อำเภอ  3 ตำบล 4 หมู่บ้าน ได้แก่

          อ.วังเหนือ ต.วังซ้าย หมู่ 3 และหมู่ 7  รวมจำนวน 24  หลังคาเรือน และ ต.วังเหนือ หมู่ 5  มีลำเหมืองได้รับความเสียหาย 1 แห่ง   โดยนายทศพล จักรบุญมา นายอำเภอวังเหนือ มอบหมายให้นายเอกศักดิ์ บุญพา ปลัดอำเภอหัวหน้ากลุ่มงานบริหารงานปกครอง พร้อมด้วยสมาชิก อส.กองร้อย อ.วังเหนือที่ 9  ร่วมกับสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดลำปาง สาขาวังเหนือ  , การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคอำเภอวังเหนือ , องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น , กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ฯลฯ  ร่วมตรวจสอบและให้ความช่วยเหลือประชาชนที่ประสบภัยดังกล่าว  โดยได้มอบถุงยังชีพช่วยเหลือในเบื้องต้น


ขณะที่ อ.แจ้ห่ม ที่ ต.เมืองมาย หมู่ 5 ได้รับผลกระทบ 13 หลังคาเรือน ทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เข้าให้การช่วยเหลือในเบื้องต้นแล้วเช่นกัน  ซึ่งอำเภอและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จะได้ดำเนินการสำรวจและให้การช่วยเหลือตามอำนาจหน้าที่ต่อไป

ภาพ ที่ทำการปกครองอำเภอวังเหนือ , ที่ทำการปกครองอำเภอแจ้ห่ม

 

Share:

18 ปี ลานนาโพสต์

โครงการปั้นดาว

โครงการปั้นดาว
ขับเคลื่อนโดย Blogger.

จำนวนการดูหน้าเว็บรวม

สถิติการเข้าชมเว็บไซต์