วันเสาร์ที่ 27 เมษายน พ.ศ. 2567
ระวัง! "โอมิครอน KP.3: สายพันธุ์ใหม่ที่พร้อมจะแทนที่ JN.1 ในอนาคตอันใกล้"
“ไทย” คว้าอันดับ 1 ประเทศน่าเยี่ยมชมที่สุด ประจำปี 2024 จากนิตยสาร CEOWORLD
27 เม.ย. 67 – นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ขอบคุณทุกการทำงานของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนประชาชนไทยทุกคนที่เป็นเจ้าภาพที่ดีจนไทยได้รับการจัดให้เป็นอันดับ 1 ประเทศที่น่าเยี่ยมชมที่สุดในปี 2024 (World’s Best Countries To Visit In Your Lifetime, 2024) รวมทั้ง เป็นเครื่องพิสูจน์ถึงทุกปัจจัยที่ส่งเสริมศักยภาพด้านอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของไทย
โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การจัดอันดับในครั้งนี้ ดำเนินการโดยนิตยสาร CEOWORLD ซึ่งเป็นนิตยสารด้านธุรกิจชื่อดัง โดยใช้วิธีจัดอันดับโดยการเก็บข้อมูลความคิดเห็นจากผู้อ่านมากกว่า 295,000 ราย และประเทศไทยได้รับการจัดอันดับเป็นประเทศที่น่าเยี่ยมชมที่สุด เป็นอันดับ 1 (World’s Best Countries To Visit In Your Lifetime) ในปีนี้ ด้วยคะแนน 72.15 จากทั้งหมด 67 ประเทศ/เขตเศรษฐกิจ (https://ceoworld.biz/2024/04/15/worlds-best-countries-to-visit-in-your-lifetime-2024/) โดยทางนิตยสารได้ระบุว่า การท่องเที่ยวในประเทศไทยทำให้ได้รับประสบการณ์ท่องเที่ยวหลากหลาย เช่น สีสันยามค่ำคืน อาหารอร่อย ศิลปะและวัฒนธรรมที่มีชีวิตชีวา แหล่งช้อปปิ้งที่ขึ้นชื่อ แม่น้ำลำคลองที่คดเคี้ยวอย่างสวยงาม วัดของศาสนาพุทธ ตลาดกลางคืน ตลาดน้ำ และ สวนสาธารณะสุดพิเศษ
เอไอเอส จับมือ กสทช. ดูแลผู้พิการรอบด้าน ตอกย้ำดิจิทัลเป็นหัวใจการสร้างความเท่าเทียมแก่ทุกกลุ่ม
นายวรุณเทพ วัชราภรณ์ หัวหน้าฝ่ายงานธุรกิจสัมพันธ์ AIS กล่าวในโอกาสเข้าร่วมการอบรมเชิงปฏิบัติการเพื่อสร้างกลุ่มเครือข่ายผู้บริโภคในกิจการโทรคมนาคม ในกลุ่มผู้พิการทางการได้ยิน ซึ่งจัดโดย กสทช. ว่า “ในฐานะ Digital Life Service Provider เป้าหมายของเราคือ นำศักยภาพจากเทคโนโลยี digital มาสร้างประโยชน์ให้แก่คนไทยทุกคน เพราะนี่คือ สิ่งที่ช่วยลดข้อจำกัด สร้างความเท่าเทียมและเข้าถึงโอกาสที่จะพัฒนาคุณภาพชีวิตให้แก่ทุกกลุ่ม หรือ Digital Inclusion โดยเฉพาะกลุ่มผู้พิการ ที่เราให้ความสำคัญตลอดระยะเวลาของการให้บริการกว่า 33 ปี”
โดยมี 3 ส่วน ที่สะท้อนถึงนโยบายข้างต้น ประกอบด้วย
ส่วนแรก : เอไอเอส ร่วมกับ กสทช. ออกแพ็กเกจเสริมเพื่อผู้พิการทุกกลุ่ม ในราคาสุดคุ้มเพียงเดือนละ 66 บาท (รวมภาษีแล้ว) โดยมี 2 แพ็กเกจ ให้ลูกค้าสามารถเลือกสมัครได้อย่างตอบโจทย์ ไม่ว่าจะเน้นเล่นเน็ต หรือเล่นทั้งเน็ตและโทรได้แก่
1. แพ็กเกจเน็ต 5G เต็มสปีด : ใช้งานเน็ตความเร็วสูงสุด 10GB เมื่อใช้ครบตามปริมาณเน็ตที่กำหนด หลังจากนั้นใช้งานต่อเนื่องที่ความเร็ว 128 kbps โดยหักค่าบริการทุก 30 วัน
2. แพ็กเกจเน็ต 5G เต็มสปีดพร้อมโทร : ใช้งานเน็ตความเร็วสูงสุด 8GB เมื่อใช้ครบตามปริมาณเน็ตที่กำหนด หลังจากนั้นใช้งานต่อเนื่องที่ความเร็ว 128 kbps พร้อมโทรทุกเครือข่าย 100 นาที (ค่าโทรส่วนเกินคิดตามโปรโมชันหลัก) โดยหักค่าบริการทุก 30 วัน
โดยลูกค้าผู้พิการ ทั้งระบบเติมเงิน และรายเดือนสนใจสมัครแพ็กเกจพิเศษนี้ได้ง่ายๆ เพียงโชว์บัตรคนพิการและบัตรประจำตัวประชาชนที่ เอไอเอส ช็อปทุกสาขา หรือติดต่อ AIS Call Center 1175
ส่วนต่อมา : การพัฒนาเครือข่ายและคุณภาพของช่องทางการใช้บริการ ที่เราออกแบบอย่างเป็นเลิศในทุกๆขั้นตอนเพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ผู้พิการ อาทิ การมีพนักงานที่ใช้ภาษามือในการสื่อสารตามมาตรฐาน รวมถึงสิทธิพิเศษที่จัดเต็ม เพื่อลูกค้าและผู้พิการอย่างทั่วถึงและเท่าเทียม ส่วนสุดท้าย คือ การสร้างอาชีพให้แก่ผู้พิการทุกด้าน ด้วยการเปิดโอกาสให้เป็นพนักงานในกลุ่มเอไอเอสอย่างต่อเนื่อง
นายวรุณเทพ กล่าวในตอนท้ายว่า “เราให้ความสำคัญอย่างยิ่งกับการพัฒนาบริการในทั้ง 3 ส่วนเพื่อลูกค้าผู้พิการ และจะยังคงเดินหน้านำเทคโนโลยีต่างๆ อาทิ AI, ML มาประยุกต์ใช้ เพื่ออำนวยความสะดวกและยกระดับคุณภาพชีวิตคนไทยให้ดียิ่งขึ้นอย่างต่อเนื่อง”
วันศุกร์ที่ 26 เมษายน พ.ศ. 2567
ต้นเดือน พ.ค. 67 ลมเริ่มเปลี่ยนทิศ สัญญาณฝนเริ่มมา
วันที่ 26 เมษายน 2567 เพจเฟซบุ๊ก กรมอุตุนิยมวิทยา ได้อัปเดตผลการพยากรณ์ฝนสะสมรายวัน (ทุกๆ 24 ชม. นับตั้งแต่ 07.00 น. ถึง 07.00 น. วันรุ่งขึ้น) และลมที่ระดับ 925hPa (750 ม.) 10 วันล่วงหน้า ระหว่าง 26 เม.ย. - 5 พ.ค. 67 init. 2024042512 จากศูนย์พยากรณ์อากาศระยะกลางยุโรป (ECMWF) (วิเคราะห์ตามผลของแบบจำลองฯ)
ระบุว่า อากาศยังร้อนและร้อนจัด ต่อเนื่องโอกาสเกิดฝนยังมีน้อย ช่วงนี้ต้องทนร้อนต่อไป ถึงต้นเดือน พ.ค. 67 ลมเริ่มเปลี่ยนทิศทาง สัญญาณฝนเริ่มมา โดยช่วง 26-30 เม.ย. 67 หย่อมความกดอากาศต่ำ ยังคงปกคลุมบริเวณประเทศไทยตอนบน และลมฝ่ายตะวันตก ตะวันตกเฉียงเหนือ พัดปกคลุมทำให้อากาศร้อนถึงร้อนจัดต่อเนื่อง ท้องฟ้าโปร่งเมฆมีน้อย
และอาจจะเป็นอีกช่วงที่ร้อนระอุ แต่จะทำลายสถิติได้หรือไม่ต้องติดตาม เป็นช่วงที่ดวงอาทิตย์ตั้งฉากบริเวณภาคกลาง ภาคเหนือ ภาคอีสาน ส่วนภาคใต้ โดยเฉพาะฝั่งอันดามัน ยังมีฝนฟ้าคะนอง คลื่นลมแรงขึ้นบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง
ช่วง 1-5 พ.ค. 67 ลมเริ่มเปลี่ยนทิศทางเป็นลมตะวันตก ตะวันตกเฉียงใต้พัดปกคลุมในระดับล่าง (สัญญาณการเปลี่ยนฤดูกาล) ประกอบมีลมใต้ ตะวันออกเฉียงใต้ พัดสอบเข้าหากันทางด้านตะวันออกของเวียดนาม
สำหรับฝั่งทะเลอันดามัน เริ่มมีความชื้นเพิ่มขึ้น และมีสัญญาณฝนเพิ่มขึ้น ในช่วงวันที่ 3-5 พ.ค. 67 ข้อมูล นี้อาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ตามข้อมูลนำเข้าใหม่ ภายใต้สถานการณ์ปรากฏการณ์เอลนีโญกำลังอ่อน ซึ่งทำให้สภาวะทางอุตุนิยมวิทยาเปลี่ยนแปลงไป ใช้เพื่อประกอบการตัดสินใจ)
ราชกิจจาฯ แพร่ประกาศระเบียบ กกต. แนะนำตัว สว. ห้ามออกสื่อทุกช่องทาง
วันที่ 26 เม.ย. 2567 เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา
เผยแพร่ระเบียบคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)
ว่าด้วยการแนะนำตัวในการเลือกสมาชิกวุฒิสภา 2567
โดยในหมวด 3 ได้กำหนดข้อห้ามในการแนะนำตัว ดังนี้
1.ห้ามผู้สมัคร หรือผู้ช่วยเหลือผู้สมัครนำสถาบันพระมหากษัตริย์มาเกี่ยวข้องกับการแนะนำตัว
2.นับแต่วันที่พระราชกฤษฎีกาให้มีการเลือกสมาชิกวุฒิสภา มีผลใช้บังคับการแนะนำตัวไปจนถึงวันที่ กกต. ประกาศผลการเลือก ห้ามผู้สมัครหรือผู้ช่วยเหลือผู้สมัครแนะนำตัวในกรณีดังต่อไปนี้
(1) กระทำการฝ่าฝืนข้อห้ามตามที่กำหนดไว้ในกฎหมายว่าด้วยการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา
(2) ผู้ประกอบอาชีพทางวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ สื่อมวลชน หรือสื่อโฆษณา เช่น นักแสดง นักร้อง นักดนตรี พิธีกร เป็นต้น ใช้ความสามารถ หรือวิชาชีพดังกล่าว เพื่อเอื้อประโยชน์ในการแนะนำตัว
(3) แจกเอกสารเกี่ยวกับการแนะนำตัวโดยวิธีการวาง โปรยหรือติดประกาศในที่สาธารณะ
(4) แนะนำตัวโดยใช้ถ้อยคำที่รุนแรง หรือปลุกระดมก่อให้เกิดความไม่สงบขึ้นในพื้นที่
(5) แนะนำตัวทางวิทยุโทรทัศน์ วิทยุกระจายเสียง เคเบิลทีวี หรือสื่อสิ่งพิมพ์ รวมถึงการให้สัมภาษณ์แก่สื่อมวลชน นักข่าว หรือสื่อโฆษณาซึ่งเผยแพร่ผ่านบริการแพลตฟอร์มดิจิทัล
(6) จงใจไม่ปฏิบัติให้เป็นไปตามกฎหมายและระเบียบนี้
3.ห้ามผู้สมัครยินยอมให้ผู้สมัครอื่น กรรมการบริหารพรรคการเมือง
ผู้ดำรงตำแหน่งอื่นใดในพรรคการเมือง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร สมาชิกสภาท้องถิ่น
ผู้บริหารท้องถิ่น หรือผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง
เข้ามาช่วยเหลือผู้สมัครไม่ว่ากรณีใดๆ
แกงไตปลา หลุดที่ 1 เมนูยอดแย่โลกแล้ว แต่ แกงฮังเล รั้งท็อป 5 แทน พร้อมเมนูไทยอีกไม่น้อย
แกงไตปลา หลุดที่ 1
เมนูยอดแย่โลกแล้ว แต่ แกงฮังเล รั้งท็อป 5 แทน พร้อมเมนูไทยอีกไม่น้อย
ก่อนหน้านี้
เป็นกระแสฮือฮาในหมู่อาหาร เมื่อ Taste Atlas ได้จัดอันดับเมนูอาหารยอดแย่ทั่วโลก
ที่กลายเป็นว่า แกงไตปลา ได้เข้ามาติดอันดับ 1 ในบรรดา 100 เมนู
ทั้งยังมีเมนูอื่นๆ อย่าง ข้าวคลุกกะปิ หอยทอด จิ้มจุ่ม ที่เรียงแถวติด 100
เมนูยอดแย่โลก
‘แกงไตปลา’ ประเทศไทย
โผล่ติดอันดับ 1จาก100เมนู ยอดแย่ทั่วโลก ไม่ได้มีแค่แกงไตปลา แต่
‘ข้าวคลุกกะปิ-หอยทอด-จิ้มจุ่ม’ เรียงแถวติด 100 เมนูยอดแย่โลก
ล่าสุด
จากการอัพเดตข้อมูลเมื่อวันที่ 16 เมษายน พบว่าอันดับ 1 กลายเป็นของ Blodpalt
จากประเทศฟินแลนด์เป็นที่เรียบร้อย ตามมาด้วย Bocadillo de
sardinas จากสเปน, อันดับ 3 Hákarl จากไอซ์แลนด์ และอันดับ 4 Yerushalmi Kugel จากอิสราเอล
โดย แกงไตปลา หลุดจากอันดับมาแล้ว
อย่างไรก็ตาม แกงฮังเล
ได้เข้ามาติดในอันดับ 5 ของเมนูอาหารยอดแย่ โดยได้คะแนน 1.9 ของการรีวิว
ระบุว่าเป็นเมนูทางภาคเหนือ คล้ายคลึงกับอาหารของพม่า เมนูนี้ประกอบด้วย
เครื่องแกง ที่มักใส่พริกแห้ง ตะไคร้ ข่า กะปิ กระเทียม หอมแดง และมีหมูสามชั้น
น้ำมะขาว ถั่วลิสง สับปะรด ก่อนเสิร์ฟมักจะโรยหน้าด้วยขิงสดหั่นบางๆ
ขณะที่เมนูอื่นๆ อันดับ
27 เมนูหนอนไหมทอด อันดับ 42 จิ้มจุ่ม อันดับ 64 ผัดพริก อันดับ 67 หมูน้ำตก
วันพฤหัสบดีที่ 25 เมษายน พ.ศ. 2567
เช็กเลยจังหวัดไหนพื้นที่เสี่ยง กรมอุตุเตือน 35 จังหวัด มีฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง เหนือ-อีสาน ร้อนตับแตก
วันที่ 26 เม.ย.2567 กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ความกดอากาศต่ำเนื่องจากความร้อนปกคลุมประเทศไทยตอนบน ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยมีอากาศร้อนถึงร้อนจัดโดยทั่วไปกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน ขอให้ประชาชนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศที่ร้อนถึงร้อนจัด โดยหลีกเลี่ยงการทำงานหรือการประกอบกิจกรรมในที่โล่งแจ้งเป็นระยะเวลานานไว้ด้วย
ในขณะที่มีลมใต้และลมตะวันออกเฉียงใต้พัดปกคลุมประเทศไทย
อ่าวไทย และทะเลอันดามัน
ทำให้บริเวณดังกล่าวมียังคงมีฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรงบางแห่ง
พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทย 06:00 น. วันนี้
ถึง 06:00 น. วันพรุ่งนี้
ภาคเหนือ
อากาศร้อนถึงร้อนจัดโดยทั่วไป
กับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน
โดยมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 10 ของพื้นที่
กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง
ส่วนมากบริเวณ จังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่
เชียงราย ลำปาง พะเยา น่าน แพร่
อุตรดิตถ์ กำแพงเพชร ตาก และเพชรบูรณ์
อุณหภูมิต่ำสุด 23-28 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 37-43 องศาเซลเซียส
ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 5-15 กม./ชม.
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
อากาศร้อนจัดโดยทั่วไป กับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน
โดยมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 10 ของพื้นที่
กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง
ส่วนมากบริเวณ จังหวัดนครราชสีมา บุรีรัมย์
และสุรินทร์
อุณหภูมิต่ำสุด 25-29 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 40-43 องศาเซลเซียส
ลมใต้ ความเร็ว 10-20 กม./ชม.
ภาคกลาง
อากาศร้อนถึงร้อนจัดโดยทั่วไป
กับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน
โดยมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 10 ของพื้นที่
กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง
ส่วนมากบริเวณ จังหวัดนครสวรรค์ อุทัยธานี
กาญจนบุรี สุพรรณบุรี และราชบุรี
อุณหภูมิต่ำสุด 26-29 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 38-42 องศาเซลเซียส
ลมใต้ ความเร็ว 10-20 กม./ชม.
ภาคตะวันออก
อากาศร้อนโดยทั่วไป กับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน
และมีอากาศร้อนจัดบางแห่ง
โดยมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 10 ของพื้นที่
กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง
ส่วนมากบริเวณ จังหวัดนครนายก ปราจีนบุรี ชลบุรี
ระยอง จันทบุรี และตราด
อุณหภูมิต่ำสุด 27-29 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 35-42 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.
ทะเลมีคลื่นต่ำกว่า 1 เมตร
บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 1 เมตร
ภาคใต้(ฝั่งตะวันออก)
อากาศร้อนโดยทั่วไป และมีอากาศร้อนจัดบางแห่ง
โดยมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 10 ของพื้นที่
ส่วนมากบริเวณ จังหวัดสุราษฎร์ธานี
นครศรีธรรมราช สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส
อุณหภูมิต่ำสุด 24-28 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 35-40 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.
ทะเลมีคลื่นต่ำกว่า 1 เมตร
บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 1 เมตร
ภาคใต้(ฝั่งตะวันตก)
อากาศร้อนโดยทั่วไป โดยมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 20
ของพื้นที่
ส่วนมากบริเวณ จังหวัดพังงา กระบี่ ตรัง และสตูล
อุณหภูมิต่ำสุด 26-27 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 36-38 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.
ทะเลมีคลื่นต่ำกว่า 1 เมตร
บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 1 เมตร
กรุงเทพและปริมณฑล
อากาศร้อนโดยทั่วไป กับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน
และมีอากาศร้อนจัดบางแห่ง
โดยมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 10 ของพื้นที่
อุณหภูมิต่ำสุด 28-29 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 37-41 องศาเซลเซียส
ลมใต้ ความเร็ว 10-25 กม./ชม
ที่มา : ข่าวสด
หนุ่มลักลอบขนยาบ้า 4 แสนเม็ด ซุกยางอะไหล่ใต้แม็กไลเนอร์ สารภาพซื้อจากชาวลาว 5 แสนบาทจะไปส่งขายเมืองตาก
วันที่
26 เม.ย. 67 นายชัชวาลย์ ฉายะบุตร
ผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง พล.ต.ต.ภูมิปัญญ์ญา นวตระกูลพิสุทธิ์ ผบก.ภ.จว.ลำปาง พร้อมเจ้าหน้าที่ฝ่ายทหาร และเจ้าหน้าที่ ป.ป.ส.ภาค 5 ร่วมกันแถลงข่าวการจับกุมยาเสพติด ยาบ้า 4 แสนเม็ด
ผู้ต้องหา 1 คน
และรถยนต์กระบะ 1 คัน พื้นที่ สภ.สบปราบ จ.ลำปาง
โดยเหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 25 เม.ย. 67 เวลาประมาณ 00.01 น. เจ้าหน้าตำรวจ สภ.สบปราบ
ตั้งด่านตรวจค้นยาเสพติดสบปราบ เนื่องจากได้สืบทราบว่าจะมีการลักลอบขนยาเสพติดเข้าสู่พื้นที่ตอนในของประเทศ
จนกระทั่งเวลา 03.30
น. ได้มีรถยนต์กระบะ ยี่ห้ออีซูซุ สีเทา หมายเลขทะเบียน ผค 2417 พิษณุโลก ขับเข้ามายังด่านตรวจฯ โดยมี
นายนิรันดร์ อายุ 28 ปี ชาว จ.ตาก เป็นผู้ขับรถยนต์คันดังกล่าว สังเกตท่าทางมีพิรุธ มือสั่น
มีอาการลุกลี้ลุกลน หลบสายตาอยู่ตลอด จึงได้ให้ขับรถชิดขอบทางด้านซ้าย
เพื่อทำการตรวจค้น
และเมื่อจับบริเวณหน้าอกด้านซ้ายของ
นายนิรันดร์ พบว่า
มีการเต้นของหัวใจแรงผิดปกติ และพูดจาวกวน แต่เมื่อทำการตรวจค้นร่างกายนายนิรันดร์
ไม่พบสิ่งของผิดกฎหมาย จึงได้ขอตรวจปัสสาวะเพื่อตรวจหาสารเสพติดในร่างกาย
ผลการตรวจเบื้องต้น พบมีสารเสพติดในปัสสาวะ จากนั้นจึงได้ทำการตรวจค้นรถยนต์กระบะ อย่างละเอียด จึงพบยาบ้าซุกซ่อนมาในตัวรถ จำนวน 3 จุด คือ ห้องเครื่องรถ
ใต้แม็กไลน์เนอร์ และยางอะไหล่ รวมยาบ้าประมาณ
4 แสนเม็ด
จากการสอบถาม นายนิรันดร์ฯ ให้การว่า เมื่อวันที่ 22 เม.ย. ได้เดินทางจาก จ.ตาก ไปที่ อ.เวียงแก่น จ.เชียงราย เพื่อไปรอรับยาบ้า โดยได้ติดต่อกับนายเจ (ไม่ทราบชื่อ-สกุล จริง) เป็นบุคคลสัญชาติลาว ซึ่งได้รู้จักเมื่อครั้งไปเที่ยวที่ อ.เทิง จ.เชียงราย จึงได้ติดต่อซื้อยาบ้า จากนายเจ จำนวน 200 มัด ประมาณ 4 แสนเม็ด ในราคา 5 แสนบาท โดยได้จ่ายค่ายา เป็นเงินสด 2 แสนบาท ส่วนที่เหลือจะจ่ายเมื่อนำยาบ้าไปส่งให้ผู้ที่รอรับปลายทางเสร็จเรียบร้อยแล้ว โดยนายเจ นำยาบ้ามาส่งมอบให้นายนิรันดร์ ที่ตลาดนัดบริเวณชายแดนไทย-ลาว อ.บ้านแก่น จ.เชียงราย และ นายนิรันดร์ฯ จะนำยาเสพติด (ยาบ้า) ไปส่งให้ผู้รับ ปลายทางที่ จ.ตาก จนกระทั่งถูกจับกุมตัวที่ด่านตรวจยาเสพติดสบปราบ สภ.สบปราบ