รถตู้ขับพาคณะตำรวจจากภาค
5 เชียงใหม่ เดินทางไปรับลูกทีมที่ค่ายนเรศวร จ.เพชรบุรี เจอรถ
จยย.ขับย้อนศรมาเลนขวา 2 คัน ประสานงาอย่างจัง เสียชีวิต 3
ศพ
เมื่อเวลา
22.00 น. วันที่ 24 ก.ย.57 พ.ต.ต.กมล คิดอ่าน พนักงานสอบสวนเวร
สภ.เมืองลำปาง ได้รับแจ้งว่า เกิดอุบัติเหตุรถตู้ชนกับรถจักรยานยนต์รวม 3 คัน มีผู้บาดเจ็บ และผู้เสียชีวิตจำนวน 3 ราย เหตุเกิดบริเวณตรงข้ามโกลบอลเฮ้าส์
เขตบ้านสบตุ๋ย ถ.ลำปาง-เชียงใหม่ ต.สบตุ๋ย อ.เมือง จ.ลำปาง หลังรับแจ้งจึงรีบประสานแพทย์เวรโรงพยาบาลลำปาง
และเจ้าหน้าที่สมาคมกู้ภัยร่วมให้การช่วยเหลือ และชันสูตรพลิกศพ
ที่เกิดเหตุพบรถตู้สีขาว
หมายเลขทะเบียน ฮภ 3120
กรุงเทพฯ สภาพรถด้านหน้าฝั่งซ้ายยุบ ไฟหน้าแตก กระจกแตก
ท้ายรถตู้พบรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อซูซูกิ คริสตัน สีดำ หมายเลขทะเบียน ร 6082 ลำปาง ล้มอยู่ และพบศพชายสวมเสื้อสีฟ้า กางเกงยีนส์ขายาว
นอนเสียชีวิตอยู่ในพงหญ้าข้างถนน โดยขาห้อยลงไปในร่องน้ำ ห่างจากศพแรกไปประมาณ 3
เมตร พบศพชายคนที่สองสวมเสื้อเชิ้ตสีฟ้า กางเกงยีนส์ขายาวสีดำ
นอนหงายเสียชีวิตอยู่ ส่วนศพที่ 3 เป็นชายสวมเสื้อยืดสีเขียวน้ำตาล กางเกงยีนส์ขายาว โดนรถจักรยานยนต์
ยี่ห้อยามาฮ่า เบล100 ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน ทับอยู่บนร่าง
จากการตรวจสอบหลักฐานในศพเบื้องต้น พบเพียงบัตรประจำตัวต่างด้าว
โดยภาษาเขียนในบัตรคล้ายกับภาษาพม่า จึงยังไม่ทราบชื่อผู้เสียชีวิตทั้ง 3 คน นอกจากนั้นยังพบผู้บาดเจ็บอีก
3 คน เป็นชาวพม่า 1 คน ทราบชื่อ นายรวง
อายุ 25 ปี ได้รับบาดเจ็บสาหัส
และเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เดินทางมากับรถตู้ 2 คน คือ ส.ต.ต.สุพรรณ อรุณจันทร์ฉาย อายุ 35 ปี บ้านเลขที่ 89 หมู่ 9 ต.หมอกจำแป อ.เมือง จ.แม่ฮ่องสอน และ ส.ต.ต.พิทักษ์พงษ์ ใจมา อายุ 29 ปี บ้านเลขที่ 118 หมู่ 1 ต.ป่าหุ่ง
อ.พาน จ.เชียงราย ซึ่งเป็นคนขับรถตู้คันดังกล่าว บาดเจ็บที่ขาเล็กน้อย
สอบถามเบื้องต้นทราบว่า
ผู้ที่โดยสารมากับรถตู้ เป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจหน่วยปฏิบัติการพิเศษ ภาค 5
เดินทางมาจาก จ.เชียงใหม่ ด้วยกัน 6 นาย
มีตำรวจระดับสารวัตรมาด้วย 1 นาย แต่ไม่ขอเปิดเผยชื่อ
ซึ่งทั้งหมดจะเดินทางไปรับลูกทีมที่ไปฝึกอยู่ที่ค่ายนเรศวร จ.เพชรบุรี โดยมี
ส.ต.ต.พิทักษ์พงษ์ ใจมา ผบ.หมู่ บก.สส.ภาค 5 เป็นคนขับ ซึ่งขับมาทางเลนขวามาตลอด
เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุ ก็เจอรถจักรยานยนต์ 2 คัน ซ้อนมาคันละ
2 คน ขี่ย้อนศรมาทางเลนขวาชิดกับเกาะกลางถนน
เพื่อจะไปยูเทิร์นรถด้านหน้า เมื่อเห็นจึงหักหลบเข้าเลนซ้ายอย่างรวดเร็ว
แต่ปรากฏว่ารถจักรยานยนต์ได้หักหลบรถตู้ออกมาทางเลนซ้ายเช่นกันจึงชนเข้าอย่างจังทั้งสองคัน
เป็นเหตุให้คนขับและคนซ้อนกระเด็นตกจากรถกระแทกพื้นไปคนละทิศทาง
เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ 3 ราย ส่วนเพื่อนอีกคนหนึ่งได้รับบาดเจ็บสาหัสนำส่งรักษาที่โรงพยาบาลลำปาง
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจสันนิษฐานว่า
ชาวพม่าที่เสียชีวิตคงเข้าใจว่าเป็นถนนให้รถวิ่งสวนทางกันได้จึงขับเลนนอกมาตลอดทาง
จึงทำให้เกิดอุบัติเหตุดังกล่าว ซึ่งทางเจ้าหน้าที่จะพยายามติดต่อหาเพื่อนชาวพม่า
ให้ติดต่อญาติผู้เสียชีวิต
เนื่องจากไม่มีใครทราบชื่อเพราะบัตรประจำตัวเป็นภาษาพม่าทั้งหมด
และผู้บาดเจ็บก็ยังไม่ได้สติไม่สามารถให้การได้
(หนังสือพิมพ์ลานนาโพสต์ฉบับที่ 997 ประจำวันที่ 26 กันยายน - 2 ตุลาคม 2557)