สองเพื่อนเกลอ ชวนกันเข้าป่าล่าสัตว์ขากลับเอาปืนแก๊ปมัดติดกับรถจักรยานยนต์แล้วพากันนั่งซ้อนท้าย พอลงจากรถคนซ้อนก้าวข้ามไม่พ้นขาไปเกี่ยวกับไกปืน ลั่นโป่งเข้าต้นขาเพื่อนรีบหามส่งโรงพยาบาล แต่ไม่ทันการณ์เพราะกระสุนตัดเส้นเลือดใหญ่ตายคามือหมอ เพื่อนที่เป็นเจ้าของปืนโดนสามข้อหาหนัก
เมื่อเวลา 22.00น.วันที่ 3 มิ.ย.58 ร.ต.ท.พิเชษฐ์ ปานคำ ร้อยเวร สภ.งาว ได้รับแจ้งจากโรงพยาบาลงาว จ.ลำปาง ว่า ได้รับตัวผู้บาดเจ็บถูกยิงด้วยอาวุธปืนเข้าทำการรักษาหนึ่งราย แต่คนเจ็บทนพิษบาดแผลไม่ไหวเสียชีวิตลงในที่สุด จึงขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจไปทำการสอบสวนด้วย หลับรับแจ้งจึงร่วมกับเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.งาวไปยังดรงพยาบาลตามที่ได้รับแจ้ง พบผู้เสียชีวิตเป็นชาย ทราบต่อมาชื่อนายผัด เพียนไป อายุ 58 ปี บ้านอยู่เลขที่ 159 ม.2 ต.บ้านหวด อ.งาว จ.ลำปาง ที่ต้นขาขวามีบาดแผลถูกยิงด้วยกระสุนปืนลูกปลายจากอาวุธปืนแก๊ป 1 นัด ส่วนที่บริเวณหน้าห้องฉุกเฉินเจ้าหน้าที่ตำรวจพบเพื่อนของผู้ตาย ทราบชื่อนายอินปั๋น เครือคำ อายุ 58 ปี อยู่บ้านเลขที่ 156 ม.2 ตำบลเดียวกัน และเป็นคนนำนายผัดมาส่งโรงพยาบาลยืนรอให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ พร้อมกับให้การว่าผู้ตายทำอาวุธปืนลั่นใส่ตัวเองจนเสียชีวิตดังกล่าว เจ้าหน้าที่ฯจึงได้เชิญตัวอินปั๋นไปยัง สภ.งาว เพื่อทำการสอบสวนปากคำ
นายอินปั๋น ให้การว่า เมื่อช่วงบ่ายวันเดียวกัน ตนเองและนายผัดผู้ตาย ซึ่งเป็นเพื่อนและอาศัยอยู่ในหมู่บ้านเดียวกันได้ชักชวนกันเข้าป่าเพื่อล่าสัตว์หวังนำมาทำเป็นอาหารเย็น แต่รออยู่นานก็ไม่มีสัตว์ชนิดไหนหลงเข้ามาในทางปืนจึงชักชวนกันย้ายสถานที่มายังบริเวณป่าห้วยเหยี่ยน เขตบ้านใหม่ธานี ม.6 โดยตนเองได้ยื่นปืนแก๊ปให้นายผัดเป็นผู้ถือเอาไว้ ส่วนตนเองจะเป็นคนขับขี่รถจักรยานยนต์ นายผัดจึงใช้เชือดมัดอาวุธปืนติดกับตัวถังรถจักรยานยนต์โดยหันปากกระบอกปืนไปทางด้านท้ายรถจากนั้นก็ขึ้นนั่งซ้อนท้ายโดยการนั่งค่อมไปพร้อมกับปากกระบอกปืน กระทั้งมาถึงจุดที่หมายตาเอาไว้ ตนจึงจอดรถเพื่อให้นายผัดลงจากรถก่อน แต่ขณะที่นายผัดก้าวขาลงจากเบาะหลัง เท้าเกิดไปเกี่ยวเข้ากับกับช่วงไกปืน ซึ่งคาดว่าตนเองอาจจะลืมลดนกลงไว้ ปืนจึงลั่นขึ้นไปถูกเข้าที่ต้นขาขวาของนายผัดจนล้มลงนอนร้องครวญครางด้วยความเจ็บปวด เมื่อตนเองเห็นดังนั้นจึงรีบอุ้มเพื่อนขึ้นนั่งซ้อนท้ายรถแล้วพามาส่งโรงพยาบาลในทันที แต่หลังจากมาถึงมือหมอได้ไม่นานนายผัดก็ทนพิษบาดแผลไม่ไหวเสียชีวิตในเวลาต่อมา
หลังทำการสอบสวนแล้วเจ้าหน้าที่จึงได้ทำการตรวจยึดอาวุธปืนแก๊ปเอาไว้เป็นหลักฐานพร้อมกับคุมตัวนายอินปั๋น เจ้าของปืนไว้เป็นผู้ต้องหา และแจ้ง 3 ข้อหาหนักกับนายอินปั๋น คือ กระทำการโดยประมาททำให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และข้อหา พอพาอาวุธปืนเครื่องกระสุนปืนไปในหมู่บ้าน ทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร
(หนังสือพิมพ์ลานนาโพสต์ ฉบับที่ 1031 วันที่ 5 - 11 มิถุนายน 2558)
