วันอาทิตย์ที่ 28 มิถุนายน พ.ศ. 2558

ข่าวตั๊ก บงกช ในโลกไร้สาระ

           
มื่อปลายนิ้วของคนทุกคน ไม่แยกแบ่งว่าเป็นสื่อมวลชนอาชีพหรือไม่ สามารถหัวเราะง่ายๆ ร้องไห้ง่ายๆ เยาะเย้ยถากถาง ดูหมิ่นดูแคลนคนอื่นง่ายๆ วิพากษ์วิจารณ์ง่ายๆ เพียงอ่านผ่าน มองภาพเพียงไม่กี่วินาที แล้วประมวลข้อมูลบวกกับทัศนคติ อคติส่วนตัว กลายเป็นความจริงเสมือนในโลกเทคโนโลยีสมัยใหม่ที่ไร้สาระ ท่วมท้นไปด้วยขยะ
           
เทคโนโลยีการสื่อสารถูกพัฒนาไปมากจนสามารถส่งข้อมูลข่าวสารได้อย่างรวดเร็วเพียงแค่ปลายนิ้วสัมผัส  การทำหน้าที่ของสื่อมวลชนก็เปลี่ยนไปเช่นเดียวกัน การแข่งขันตลาดอุตสาหกรรมข่าวทำให้ต้องส่งข้อมูลที่รวดเร็ว แต่หลายครั้งที่การนำเสนอข่าวหรือการทำหน้าที่สื่อมวลชน ไปละเมิดสิทธิส่วนบุคคลโดยไม่รู้ตัว
           
รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2540 ได้บัญญัติเกี่ยวกับสิทธิส่วนบุคคลไว้ ในมาตรา 34 มีใจความว่า มาตรา 34 สิทธิของบุคคลในครอบครัว เกียรติยศ ชื่อเสียง หรือความเป็นอยู่ส่วนตัว ย่อมได้รับความคุ้มครอง การกล่าวหรือไขข่าวแพร่หลาย ซึ่งข้อความหรือภาพไม่ว่าด้วยวิธีใดไปยังสาธารณชน อันเป็นการละเมิดหรือกระทบถึงสิทธิของบุคคลในครอบครัว เกียรติยศ ชื่อเสียง หรือความเป็นอยู่ส่วนตัว จะกระทำมิได้ เว้นแต่กรณีที่เป็นประโยชน์ต่อสาธารณชน
           
จะเห็นว่า แม้รัฐธรรมนูญจะรับรองการมีอยู่ของสิทธิส่วนบุคคล แต่ก็มีความในตอนท้ายของวรรค ที่ว่า เว้นแต่กรณีที่เป็นประโยชน์ต่อสาธารณชน หมายความว่ารัฐธรรมนูญจะคุ้มครองสิทธิส่วนบุคคล เว้นแต่เมื่อสิทธิส่วนบุคคลนั้นจะเป็นประโยชน์ต่อสาธารณะ สิทธิส่วนบุคคลดังกล่าวย่อมถูกแทนที่ด้วยสิทธิที่จะรู้ของประชาชน หาก แต่สื่อมวลชนที่เป็นผู้เผยแพร่ข้อมูลข่าวสารก็ยังเสี่ยงต่อการละเมิดสิทธิส่วนบุคคลของผู้อื่นอย่างมาก
           
แต่เมื่อดารา นักแสดง นักร้อง นักการเมือง กลายเป็นบุคคลสาธารณะ (Public Figure) สิทธิส่วนบุคคลจะลดน้อยถอยลง สิทธิที่จะรู้ของประชาชนจะเข้ามาแทนที่ ดาราภาพยนตร์หรือโทรทัศน์ต้องการให้ชื่อของตนติดปากคนดู ก็เท่ากับเป็นการยินยอมพร้อมใจในการสูญเสียสิทธิส่วนบุคคลอยู่แล้ว
           
แต่นั้นไม่ได้หมายถึงการที่จะกลายเป็นเป้านิ่งให้สามารถกระทำการดูหมิ่น เหยียดหยาม ไร้ซึ่งการให้เกียรติอย่างเช่นที่มนุษย์คนหนึ่งควรได้รับ
           
เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา ผู้บริโภคข่าวสารสายบันเทิงคงจะได้ยินข่าว คุณแม่ยังสาว ตั๊ก บงกช ฉะแหลก กับบริษัทที่ให้บริการเช่าเหมาลำเรือยอชต์  มหากาพย์แห่งการตอบโต้จากกรณีภาพตั๊ก บงกช ในชุดว่ายน้ำวันพีช ในลีลาการโพสต์ท่าที่เธอมั่นใจตามแบบฉบับของเธอ โดยมีเจ้าสัวบุญชัย สามีเป็นผู้ถ่ายภาพ ซึ่งเรื่องราวก็ไม่ควรจะมีอะไรผิดปกติ เพราะเป็นถือเป็นช่วงเวลาพักผ่อน ช่วงเวลาครอบครัว ไม่น่าจะมีอะไรมากกว่านั้น
           
แต่เรื่องธรรมดากลับกลายเป็นเรื่องขึ้นมาได้ เมื่อมีภาพหลุดของตั๊ก บงกช ในชุดว่ายน้ำที่ไม่ได้โป๊หรือหวือหวาเกินไปกว่าชุดว่ายน้ำธรรมดาชุดหนึ่ง ได้หลุดเข้าไปในโลกโซเชียลผ่านแอ๊ปพลิเคชั่นไลน์ในช่วงเวลาอันสั้น จนเกิดเป็นกระแส ร้อนถึงสาวตั๊ก ออกมาปะ ฉะ ดะ เพราะภาพนี้ไม่ควรจะหลุดออกมาแต่อย่างใด
           
ฉากหน้าที่เราเห็นคือข่าวการตอบโต้ไปมาระหว่าง ตั๊ก บงกช กับ โรส ผู้ที่อ้างว่าเป็นตัวแทนบริษัทคู่กรณี ซึ่งถือได้ว่าเป็นมวยที่สูสีกันในเชิงฝีปาก แต่ความแรงและตรงไปตรงมาของตั๊ก บงกช ทำให้กลายเป็นข่าวดังอยู่หลายวัน จนกลายเป็นเรื่องหมิ่นประมาท จนจะฟ้องร้องเอาผิดกันตามกฎหมาย
           
ผิดก็ว่าไปตามผิด ว่ากันไปตามตัวบทกฎหมาย แต่เท่าที่แร็ค ลานนา เห็นกระแสเรื่องนี้ผ่านทางเฟสบุ๊คและไลน์ที่มีการส่งต่อกันมาเป็นทอดนั้น หลายความคิดเห็นส่วนใหญ่ด่าทอในรูปลักษณ์ของตั๊ก บงกช ที่เปลี่ยนไปหลังจากคลอดน้องข้าวหอม ซึ่งส่วนใหญ่คุณแม่ที่คลอดน้องและเลี้ยงดูให้นมลูกด้วยตัวเองนั้น รูปร่างก็จะเปลี่ยนไป อวบขึ้น อ้วนขึ้น ไม่เต่งตึงเหมือนสมัยยังสาว แต่ในกรณีตั๊กนี้ ดูเหมือนว่า สังคมออนไลน์จะคะนองปากกันเกินเหตุ โดยใช้ถ้อยคำรุนแรงเหมือนความอ้วนเป็นสิ่งที่ผิด ความหย่อนคล้อยของเต้านมที่ให้นมลูกในสายเลือด กลายเป็นความทุเรศในสายตาของคนที่มีจิตใจคับแคบ ที่วิพากษ์วิจารณ์รูปร่างตั๊กที่อยู่ในช่วงเวลาส่วนตัวจากการเช่าเหมาลำเรือยอชต์
           
หลายต่อหลายครั้งที่มีเรื่องทำนองนี้เกิดขึ้นในโลกโซเชียล แล้วกลายมาเป็นข่าว โดยที่ข่าวนั้นไม่ได้มีคุณค่าข่าวอะไรนอกจากสนองความสะใจของผู้เสพข่าว และหลายต่อหลายครั้งเช่นกัน ที่เรามักจะเห็นชาวเน็ตออกมาด่าไว้ก่อนที่ความจริงจะปรากฏ
           
และหลายต่อหลายครั้งที่ชาวเนตจะมีพฤติกรรมเหยียดผิด เหยียดรูปร่าง อย่างกรณีคู่รักชายไทยหน้าเหลี่ยมผิวเข้มจับมือกับแฟนฝรั่งผมทองตาน้ำข้าว จำได้ว่ารูปนั้นที่มนุษย์กล้องแอบถ่าย แล้วแอบอัพขึ้นเฟสบุ๊คและแพร่กระจายอย่างรวดเร็วนั้นมีหลายความคิดเห็นที่นอกจากจะอิจฉาที่ชายไทยได้แฟนเป็นหนุ่มหล่อ ทำให้สาวแท้สาวเทียมต่างออกมากร่นด่าทำนองว่า ดำ หน้าตาแย่ แต่ทำไมได้ _ผัวหล่อ และหลายครั้งรู้สึกว่า คนดำ คนอ้วน คนขี้เหร่ คนที่ภายนอกดูแย่ ทำอะไรก็ผิดเสมอ
           
โลกเปลี่ยน ยุคสมัยเปลี่ยน ทุกคนมีสื่ออยู่ในมือ ทุกคนเป็นนักข่าวได้ และทุกคนพร้อมที่จะแชร์เพื่อกระจายข้อมูลกัน แต่อยากให้ฉุกคิดก่อนกดแชร์ ก่อนแสดงความคิดเห็นกันบ้างว่าหากสิ่งนั้นเกิดขึ้นกับเรา เราจะทำยังไง ไม่ใช่สักแต่ว่าเอาความสะใจแต่อย่างเดียว
           
วันหนึ่งเมื่อตัวเองถูกกระทบจากโลกไร้สาระเช่นนี้ อาจจะรู้สึกขึ้นมาจริงๆก็ได้ 


(หนังสือพิมพ์ลานนาโพสต์  ฉบับที่ 1034 วันที่ 26 มิถุนายน - กรกฏาคม 2558)
Share:

18 ปี ลานนาโพสต์

โครงการปั้นดาว

โครงการปั้นดาว
ขับเคลื่อนโดย Blogger.

จำนวนการดูหน้าเว็บรวม

สถิติการเข้าชมเว็บไซต์