วันพฤหัสบดีที่ 18 มิถุนายน พ.ศ. 2558

ปางมะโอ แบรนด์ลำปาง บุกตลาดกาแฟอาเซียน

       
กาแฟปางมะโอเริ่มขยับ รีแบนด์รุกตลาดจีน-อาเซียน ขายครบวงจรเจาะกลุ่มผู้ประกอบการร้านกาแฟรายย่อย ขณะเดียวกันพัฒนาสูตรเฉพาะสร้างจุดเด่นรับมือแข่งขันสูง
           
พันศักดิ์ ศรีวงษ์ ผู้บริหารไร่กาแฟปางมะโอ อ.แม่ทะ จ.ลำปางและกลุ่มผลิตภัณฑ์โอทอปกาแฟปางมะโอ เปิดเผยว่า หลังจากไร่กาแฟปางมะโอเติบโตมานานกว่า 15 ปี โดยก่อนหน้านั้นทำตลาดผลิตภัณฑ์กาแฟบดคั่ว ออกสู่ตลาดภายใต้ชื่อ มิสเตอร์คอฟฟี่ และ กาแฟสดเขลางค์ และพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์ โอทอปห้าดาวของจังหวัดลำปาง จนเป็นที่รู้จักกว้างขวางกลุ่มตลาดในประเทศ  ในขณะเดียวกันการบริโภคกาแฟสดของคนไทยได้เติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว และธุรกิจกาแฟสดเกิดขึ้นในระบบมากขึ้นมีการแข่งขันสูง ทำให้ต้องปรับตัวและพัฒนารูปแบบการตลาดอยู่เสมอทำให้สามารถแข่งขันได้
           
กาแฟปางมะโอถือว่าเป็นกาแฟที่มีแหล่งกำเนิดที่จังหวัดลำปาง แต่ด้วยการออกแบบชื่อและตราสัญลักษณ์สินค้าเดิม ภายใต้ชื่อกาแฟสดเขลางค์ มีอุปสรรคในการจดลิขสิทธิ์ชื่อทางการค้า เนื่องจากเขลางค์เป็นชื่อเฉพาะของจังหวัดลำปาง ที่ซ้ำซ้อนการจดลิขสิทธิ์อื่นๆ จึงได้ใช้ชื่อ กาแฟปางมะโอ ตามแหล่งเพาะปลูกและที่ตั้งของไร่ที่หมู่บ้านปางมะโอ มาเป็นชื่อสัญลักษณ์สินค้า และออกแบบรูปแบบสัญลักษณ์(โลโก)ให้มีความทันสมัย พร้อมจะออกสู่ตลาดสากล โดยเฉพาะเป้าหมายตลาดในกลุ่มอาเซียน
           
“เดิมการตลาดของไร่กาแฟปางมะโอก็อาศัยช่องทางการตลาดสินค้าโอทอป ในรูปแบบของการออกบูธร้านกาแฟสดในงานแสดงสินค้าต่างๆ  ขายปลีกพร้อมกับทำตลาดขายส่งเมล็ดแปรรูปบดคั่วไปด้วย ซึ่งการทำตลาดแนวนี้จะค่อนข้างมีรายละเอียดมากในการออกตลาดขายปลีกเพื่อนำทางตลาดขายส่ง แต่ก็เป็นแนวทางการตลาดที่มีผลต่อการขยายฐานตลาดเมล็ดกาแฟ ขณะนี้เราเข้าไปเปิดตลาดในกลุ่มประเทศ จีนตอนใต้ เช่น หนานหนิง สิบสองปันนา คุณหมิง เนื่องจากคนจีนหันมาสนใจดื่มกาแฟสดกันมาขึ้น วัดจากผลของการไปออกร้านจำหน่ายกาแฟสดตามงานแฟร์ได้รับความสนใจในการขายปลีกคึกคักมาก และเริ่มมีนักธุรกิจท้องถิ่นในจีนสนใจทำธุรกิจร้านกาแฟสดมาติดต่อซื้อขายกับเราในรูปแบบของตัวแทนจำหน่ายหลายราย”
           
พันธ์ศักดิ์ บอกว่า การเปิดตลาดไปยังจีนเป็นจุดเริ่มต้นของการแตะพื้นที่เข้าไปในกลุ่มประเทศเพื่อนบ้านแถบอาเซียน เพราะคุณภาพกาแฟของไทยดีกว่า โดยเฉพาะกาแฟจากปางมะโอที่เป็นทั้งผู้ปลูก ผู้ผลิตกาแฟแปรรูป ไปจนถึงขายอุปกรณ์การทำธุรกิจร้านกาแฟครบวงจร ทำให้ง่ายต่อการขยายตลาด โดยคู่ค้ารายใหม่ๆ จะลงทุนเริ่มต้นรายละประมาณ 1 แสนบาท และมียอดสั่งซื้อเมล็ดกาแฟต่อเนื่อง โดยไม่จำกัดว่าลูกค้าจะใช้ชื่อร้าน ปางมะโอ หรือใช้ชื่อร้านของตนเองก็ได้ แต่ก็จะการันตีว่าใช้เมล็ดกาแฟจากปางมะโอ ซึ่งรูปแบบนี้ถือว่าเป็นการทำตลาดครบวงจรและมีแนวโน้มความยั่งยืนในการติดต่อซื้อขายกันระยาว 
           
สำหรับตลาดในประเทศนั้น กาแฟปางมะโอ เริ่มรุกตลาดด้วยการออกร้านเพื่อให้ ผู้บริโภคทั่วไปได้สัมผัสรสชาติกาแฟและจดจำแบรนด์ของสินค้า โดยสูตรของคั่วกาแฟบางมะโอจะมีความหอมเฉพาะตัว ประกอบกับการการชงกาแฟ และเครื่องดื่มอื่นๆที่เป็นเอกลักษณ์และมีสูตรเฉพาะมาตรฐานเดียวกัน เพื่อสนับสนุนแนวทางตลาดที่พุ่งเป้าหมายไปยังกลุ่มผู้ประกอบการร้านกาแฟขนาดเล็ก ที่ต้องการเปิดร้านกาแฟคุณภาพ เช่น กาแฟเย็นไม่ใส่นมที่มีความหอมนุ่ม และชาเขียวที่ใช้ชาอู่หลงเป็นวัตถุดิบหลัก สำหรับลูกค้าคนไทยที่นิยมดื่มชา แต่ชาเขียวจากปางมะโอจะมีความแตกต่างคือเป็นชาเขียวมะนาวไม่ใส่นม เป็นต้น อย่างไรก็ตามผู้จัดการไร่กาแฟปางมะโอกล่าวว่า จะนำพากาแฟปางมะโอขึ้นไปติดอันดับกาแฟที่อร่อยและเป็นที่รู้จักทั้งในและต่างประเทศในอันดับต้นๆของกาแฟไทยอย่างแน่นอน

 (หนังสือพิมพ์ลานนาโพสต์ ฉบับที่ 1032 วันที่  12 - 18 มิถุนายน 2558) 
Share:

18 ปี ลานนาโพสต์

โครงการปั้นดาว

โครงการปั้นดาว
ขับเคลื่อนโดย Blogger.

จำนวนการดูหน้าเว็บรวม

สถิติการเข้าชมเว็บไซต์