ยัดข้อหา ซ่าส์เต็มพิกัด ตร.ไทย ไม่มีใครเหมือน

จำนวนผู้เข้าชม

คนในเครื่องแบบที่ทั้งคนดีและคนร้ายต่างหวาดหวั่น ไม่อยากเฉียดใกล้ ไม่พ้นตำรวจ แม้ยังพอมีตำรวจดีๆให้พอชื่นใจบ้าง แต่ตำรวจร้ายกว่ายุงก็มีอยู่เต็มเมือง ทั้งเรื่องนี้ที่ชลบุรี และที่นี่ลำปาง เมืองที่ตำรวจตั้งด่านติดอันดับโลก

ที่ชลบุรี มีข่าวนี้

เด้งด่วนสารวัตรสืบภ.2 จับโอเกะยัดข้อหาค้าประเวณี!!!

           

อ่านพาดหัวข่าวนี้ของเดลินิวส์อาจจะยังไม่อึ้ง แต่เมื่ออ่านเนื้อหาข่าวนี้ รับรองคุณต้องอึ้ง!!

           

เรื่องของเรื่องก็คือ เมื่อเวลา 19.30 น.วันที่ 14 ก.ค.ที่ผ่านมา ขณะที่พนักงานเปิดแผ่น(ดีเจ)ร้านนางฟ้าคาราโอเกะกำลังนั่งเล่นภายในร้าน ได้มีชายคนหนึ่งเดินเข้ามาในร้าน สั่งเครื่อง พร้อมกับเดินเข้าไปในร้านบอกกับพนักงานเสิร์ฟว่ามานั่งรอเพื่อน พร้อมกับชวนคุยว่าหากรับว่าค้าประเวณีจะให้เงินจำนวน 2,000 บาท แต่ พนักงานเสิร์ฟปฏิเสธ พร้อมบอกว่าร้านนี้ไม่มีการค้าประเวณีแต่อย่างใด

ชายคนดังกล่าวจึงเดินเข้าไปหา พนักงานเปิดแผ่น พร้อมทั้งยื่นเงินใส่มือ 2,000 บาท โดยไม่บอกว่าเป็นค่าอะไร ทำให้พนักงานเปิดแผ่นเอะใจต้องมีเหตุการณ์ที่ไม่ดีเกิดขึ้นจึงเดินไปหา พนักงานเสิร์ฟ พร้อมพูดคุยกันว่าน่าจะมีเหตุการณ์ที่ไม่ดีขึ้นแน่ และทันใดนั้นเอง จู่ๆมีชายฉกรรจ์อีก 4 คน บุกจู่โจมเข้ามาประชิดตัว ซึ่ง ร.ต.ท.หนึ่งในทีมเจ้าหน้าที่ ใช้โทรศัพท์มือถือถ่ายรูปเงินที่พนักงานเปิดแผ่นกำไว้ในมือ พร้อมกับขู่บังคับให้อยู่ในอาการสงบ และบังคับให้โทรศัพท์หา น.ส.ปะระนิสา ไชยนาพาณิชย์กุล ซึ่งเป็นเจ้าของร้าน ให้เดินทางมาที่ร้าน ซึ่ง พ.ต.ท.นราวุธ แจ้งข้อหาว่าคุณถูกจับในข้อหาค้ามนุษย์ และค้าประเวณี ซึ่ง น.ส.ปะระนิสาสอบถามถึงหลักฐานว่าเงินล่อซื้ออยู่ที่ไหนกับใคร กลุ่มตำรวจก็ได้ชี้ไปที่ตัว พนักงานเปิดแผ่นทันที

           

ความสุดยอดของเรื่องนี้ไม่ได้อยู่ตรงที่เจ้าหน้าที่มีพฤติกรรมยัดข้อหาให้ประชาชน เรื่องราวจากนี้มันจริงเสียยิ่งกว่าจริง และสะท้อนถึงอะไรหลายๆอย่างในแวดวงสีกากีบ้าง

           

ซึ่งต่อมา น.ส.ปะระนิสา เจ้าของร้านโทรศัพท์ไปหา พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร.ว่าขณะนี้มีตำรวจใต้บังคับบัญชาซึ่งไม่ทราบว่าอยู่หน่วยไหนกลั่นแกล้งจับกุม ทาง ผบ.ตร.จึงขอสายคุยกับตำรวจชุดจับกุม แต่ พ.ต.ท.นราวุธ ไม่ยอมคุยด้วย แต่พูดว่า "ถ้าเป็น ผบ.ตร.จริง ให้โทรศัพท์ไปหา พล.ต.ต.อำพล บัวรับพร ผบก.ภ.จว.ชลบุรี....!!" และยังหาว่า น.ส.ปะระนิสา เป็นบ้าพูดโทรศัพท์อยู่คนเดียว พล.ต.อ.จักรทิพย์ จึงบอก “ให้เปิดโฟนเพื่อให้ได้ยินเสียง...” แต่สุดท้ายแล้วสารวัตรสังกัด บก.สส.ภ.2 ก็ยังไม่เชื่อว่าเป็น ผบ.ตร. ทั้งๆที่ได้ยินเสียงจากปลายสายแล้ว พร้อมกับสั่งให้ลูกน้องใส่กุญแจมือผู้ต้องหาทั้งหมดเอาตัวไปที่ สภ.เมืองพัทยา เพื่อแจ้งข้อกล่าวหา

           

แต่ น.ส.ปะระนิสาไม่ยอม ทาง พ.ต.ท.นราวุธ จึงเงื้อมือทำท่าจะตบ น.ส.ปะระนิสา จึงรีบบอกว่าที่ร้านมีกล้องวงจรปิด พ.ต.ท.นราวุธ เลยไม่กล้าทำอะไร ก่อนที่จะควบคุมตัวทั้งหมดขึ้นรถปิกอัพ 4 ประตู ยี่ห้อเชฟโรเล็ต สีดำ ไม่ทราบหมายเลขทะเบียน

           

ระหว่างที่กำลังจะขึ้นรถ มีตำรวจคนหนึ่งพูดขึ้นมาว่า เรื่องนี้สามารถเคลียร์กันได้ แต่ต้องมีค่าใช้จ่ายข้อหาค้าประเวณีใช้เงินแค่ 2-3 หมื่นบาทก็จบแล้ว

           

ระหว่างนั้นมีสายโทรเข้ามาที่มือถือของ น.ส.ปะระนิสา พร้อมกับแนะนำตัวว่าคือ พล.ต.ต.อำพล บัวรับพร ผบก.ภ.จว.ชลบุรี ซึ่งได้รับคำสั่งให้มาดูแลเรื่องนี้ และขอให้เปิดโฟนพูดคุยกับหัวหน้าชุดจับกุม แต่ทางสารวัตรรายนี้กลับบอกว่า "ไม่ใช่เสียงของนายกู!!" ทาง ผบก.ภ.จว.ชลบุรี จึงวางสายไป ส่วนตำรวจที่ชื่อดาบหมูตะโกนขึ้นมาว่า "เดี๋ยวบอกว่าเป็นผู้การ... เดี๋ยวบอกว่าเป็น ผบ.ตร.โทรมา ถ้าเป็น ผบ.ตร.จะเอาชื่อลงบันทึกประจำวันด้วยว่า ผบ.ตร.ช่วยเหลือผู้กระทำผิด และจะเอา ผบ.ตร.ออกจากราชการด้วย...!!!"

           

ระหว่างนั้นมีสายโทรเข้าที่เครื่องมือถือของ พ.ต.ท.นราวุธ เจ้าตัวจึงรับสาย เลยทราบความจริงว่า คนที่โทรเข้าเครื่องของ น.ส.ปะระนิสานั้น เป็นผู้การฯชลบุรีตัวจริง จากนั้นจึงรีบสั่งให้ลูกน้องปล่อยตัวผู้ต้องหา พร้อมรีบไปขึ้นรถขับหลบหนีไปอย่างรวดเร็ว ทำให้ น.ส.ปะระนิสา เห็นว่าตัวเองไม่ได้รับความเป็นธรรม จึงเดินทางเข้าแจ้งความร้องทุกข์กับ พ.ต.ต.พิทักษ์ เนินแสง สารวัตร (สอบสวน) สภ.เมืองพัทยาดังกล่าว

           

แน่นอนว่าขณะนี้เรื่องนี้กำลังดำเนินการ โดย ผบ.ตร.ย้ำให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบเรื่องนี้อย่างตรงไปตรงมา เพื่อให้ความเป็นธรรมกับทั้งสองฝ่าย

           

พออ่านข่าวนี้จบ ความคิดที่แว๊บ...เข้ามาในหัวอิฉันคือ แล้วถ้าอิฉันไม่รู้จัก ผบ.ตร. ไม่รู้จักผู้หลักผู้ใหญ่ล่ะ อิฉันมิต้องติดคุกหัวโตจากการยัดข้อหา  หรือไม่อิฉันก็ต้องยอมจ่ายเงิน2-3 หมื่นบาท ให้กับเปรตสีกากีที่ยัดเยียดข้อหาให้  หากเปรตสีกากีกล้าทำตามที่ข่าวบอก นั่นก็หมายความก็อาจมีเหยื่อที่ยอมจ่ายไปแล้ว

           

ว่าแต่....ตำรวจลำปางเป็นเช่นนี้บ้างไหมหนอ

(หนังสือพิมพ์ลานนาโพสต์  ฉบับที่ 1088 วันที่ 22 - 28 กรกฎาคม  2559)