วันศุกร์ที่ 9 ธันวาคม พ.ศ. 2559

สุดยอดเครื่องยนต์ 2016 (ตอนแรก)

จำนวนผู้เข้าชม Must See Places In Paris

ถ้าพูดถึงสมรรถนะของรถยนต์ สิ่งที่เป็นหัวใจหลักของการขับเคลื่อน คือ เครื่องยนต์ แม้ในช่วงที่กำลังเปลี่ยนผ่านไปสู่ยุคของมอเตอร์ไฟฟ้า แต่เทคโนโลยีสันดาปภายในก็ไม่ได้หยุดนิ่งอยู่กับที่ ตรงกันข้ามเทคโนโลยีกลับก้าวล้ำไปอย่างน่าทึ่ง โดยปีที่ผ่านมาเราได้เห็นเทรนด์ลดขนาดเครื่องยนต์ เพื่อให้บริโภคเชื้อเพลิงและปล่อยมลพิษให้น้อยลง ทำให้มีเครื่องยนต์เทอร์โบสมัยใหม่หลั่งไหลเข้าสู่ตลาดรถยนต์อย่างต่อเนื่อง  
           
ปีนี้มีการประกาศรางวัลเครื่องยนต์ยอดเยี่ยมแห่งปี 2016 หรือรางวัล (INTERNATIONAL ENGINE OF THE YEAR 2016) ที่จัดโดยวารสาร ENGINE TECHNOLOGY INTERNATIONAL แห่งอังกฤษ ซึ่งตัดสินจากความเห็นของสื่อสารมวลชนด้านยานยนต์จำนวน 62 คน จาก 31 ประเทศ และลงความเห็นว่า เครื่องยนต์ตัวใดมีความโดดเด่น โดยปีนี้นับเป็นปีที่ 18 ของการมอบรางวัล  
           
หลายปีที่ผ่านมาเราได้เห็นเทรนด์ เครื่องยนต์ขนาดเล็ก 4 สูบ หรือเล็กกว่านั้นที่มาพร้อมเทอร์โบ เข้ามาสร้างความฮือฮาอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่ โฟล์คสวาเกน ที่คว้าชัยชนะจากเครื่องยนต์ TSI TWINCHARGER ขนาด 1.4 ลิตร ระบบไดเรคท์อินเจคชัน ฉีดเชื้อเพลิงแรงดันสูงเข้าห้องเผาไหม้โดยตรง และเสริมการตอบสนองที่รอบต่ำด้วยการใช้ซูเปอร์ชาร์จ ก่อนจะส่งต่อการอัดอากาศที่รอบสูงให้กับเทอร์โบชาร์จต่อไป แม้จะซับซ้อนแต่ผลที่ได้นั้นคุ้มค่า ทั้งประหยัด และให้สมรรถนะการขับทัดเทียมเครื่องยนต์ขนาดใหญ่ จึงทำให้เครื่องยนต์ทวินชาร์เจอร์ของ โฟล์คสวาเกน คว้ารางวัลมาครองในปี 2008   นับแต่นั้นมา เครื่องยนต์ขนาดใหญ่ก็ไม่สามารถแย่งชิงบัลลังก์กลับมาได้เลย ผู้ชนะล้วนแล้วแต่ลดขนาดลงเรื่อยๆ
           
แต่ในปีนี้เรื่องราวแตกต่างกันออกไป เครื่องยนต์แบบ วี 8 สูบ ขนาด 3,902 ซีซี รหัส F154CB ของ เฟอร์รารี 488 จีทีบี ได้รับรางวัลเครื่องยนต์ยอดเยี่ยมประจำปี 2016 เป็นเครื่องยนต์ใหญ่ที่ได้รางวัลครั้งแรกในรอบทศวรรษ นับตั้งแต่เครื่องยนต์แบบ วี 10 สูบ ของ บีเอมดับเบิลยู เอ็ม 5 ได้รางวัลในปี 2005 และ 2006 จากนั้นก็ไม่มีเครื่องยนต์มากกว่า 6 สูบ ได้รางวัลอีกเลย แต่จะว่าไปแล้วก็นับเป็นเครื่องยนต์ที่อยู่ในกระแสธารของการลดขนาดด้วยเช่นกัน เพราะนี่คือ การปรับปรุงจากเครื่องยนต์ความจุ 4,499 ซีซี ของ เฟอร์รารี 458 นั่นเอง   เครื่องยนต์แบบ F154CB นี้พัฒนาขึ้นในปี 2013 อยู่ในตระกูล F154 หรือตระกูล วี 8 สูบ ทวินเทอร์โบ ฉีดเชื้อเพลิงเข้าห้องเผาไหม้โดยตรง ซึ่งเข้ามาแทนที่เครื่องตระกูล F136 (เครื่องยนต์ของรุ่น 458) และนับว่าเป็นเครื่องยนต์ เฟอร์รารี ที่ติดตั้งเทอร์โบครั้งแรกในรอบเกือบ 30 ปี (ครั้งสุดท้ายตั้งแต่ปี 1987 กับเครืองยนต์ตระกูล F120A ที่ประจำการใน เฟอร์รารี เอฟ 40)   เครื่อง F154 มีความคล้ายคลึงกับ F136 อยู่หลายประการในด้านโครงสร้าง นั่นคือ เป็นเครื่องยนต์แบบ วี 8 สูบ ดับเบิลโอเวอร์เฮดแคมชาฟท์ 32 วาล์ว วางทำมุม 90 องศา มีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางกระบอกสูบอยู่ที่ 86.5 มม. (ช่วงชักของ F154CB ของ 488 อยู่ที่ 83 มม. ในขณะที่ F154BB ของ แคลิฟอร์เนีย ที อยู่ที่ 82 มม. ส่วน F154A ของ มาเซราตี กวัตโตรโปร์เต จีทีเอส มีช่วงชักสั้นเพียง 80.8 มม.) โดยมีโครงสร้างรวมเป็นอลูมิเนียม ใช้เพลาข้อเหวี่ยงแบน หรือ ฟแลทพเลน (FLATPLANE)   มีข้อพิเศษอยู่บ้างตรงที่ เครื่องยนต์ทั้ง 2 บลอค รุ่น F154CB และ F154BB เลือกใช้เพลาข้อเหวี่ยงแฟลทเพลน พร้อมอ่างน้ำมันเครื่องแบบอ่างแห้ง (DRY SUMP) ขณะที่เครื่อง F154A ขนาด 3.8 ลิตร ของ มาเซราตี นั้นกลับเลือกใช้เพลาข้อเหวี่ยง ครอสส์เพลน (CROSSPLANE) กับอ่างน้ำมันเครื่องแบบปกติ   (ติดตามอ่านตอนจบในฉบับหน้า)

(หนังสือพิมพ์ลานนาโพสต์  ฉบับที่ 1108 วันที่  9 - 15  ธันวาคม 2559)
Share:

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

18 ปี ลานนาโพสต์

โครงการปั้นดาว

โครงการปั้นดาว
ขับเคลื่อนโดย Blogger.

จำนวนการดูหน้าเว็บรวม

สถิติการเข้าชมเว็บไซต์