วันพฤหัสบดีที่ 22 ธันวาคม พ.ศ. 2559

ฮือฮา ปี 59 รวมข่าวเด่นลานนาโพสต์

จำนวนผู้เข้าชม good hits

รอบปี 2559 ที่ผ่านมา ใน จ.ลำปาง มีข่าวน่าสนใจมากมายให้ได้ติดตามกันตั้งแต่ต้นปีถึงท้ายปี ลานนาโพสต์จึงได้สรุปข่าวเด่นรอบปีที่มีการนำเสนอผ่านหน้าหนังสือพิมพ์ ซึ่งหลายข่าวเป็นที่โด่งดังไปถึงระดับประเทศกันเลยก็ว่าได้

เริ่มเปิดตัวตั้งแต่ต้นปี คงไม่พ้นข่าว “ดาชัยคืนถิ่น”  หลังจากหายหน้าหายตาไปจาก จ.ลำปาง นานร่วม 1 ปี เดือน
กระทั่งได้กลับมาเปิดใจกับลานนาโพสต์ว่า ตนเองเข้าไปอยู่ในเรือนจำกลางจังหวัดนครราชสีมาจริง ด้วยข้อหาร่วมขบวนการโกงสอบตำรวจ และไม่ได้รับการประกันตัว กระทั่งศาลตัดสินยกฟ้อง ยืนยันหนักแน่นกว่าไม่เกี่ยวข้องแม้แต่เปอร์เซ็นต์เดียว         
ตามด้วยเรื่องฮอตไม่จบ “ปิดคดีแม่เมาะ กฟผ.ลอยตัว”  ศาลปกครองเชียงใหม่ได้สั่งยุติคดี กฟผ.แม่เมาะ โดยให้เหตุผลว่า  กฟผ. ได้ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันและแก้ไขผลกระทบสิ่งแวดล้อม โดยได้รับอนุญาตเป็นหนังสือจากอธิบดีกรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ (กพร.) จึงมีผลใช้บังคับโดยสมบูรณ์ถือว่า ได้ปฏิบัติตามคำพิพากษาของศาลแล้ว  ด้านนางมะลิวรรณ นาควิโรจน์ ประธานเครือข่ายสิทธิผู้ป่วยแม่เมาะ ถึงกับครวญว่า การที่สู้ที่ผ่านมาของพวกเราเหมือนเป็นศูนย์ แต่ทำอะไรไม่ได้แล้ว  อย่างไรก็ตาม ยังมีอีกหลายคดีที่ยังรอศาลตัดสิน
อีกข่าวหนึ่ง ที่ลานนาโพสต์ได้นำเสนออยู่ตลอดมา คือ “รุกป่าปลูกข้าวโพด” ซึ่งมีบริษัทจากต่างถิ่นเข้ามาขายเมล็ดพันธุ์ให้กับชาวบ้าน และรับซื้อผลผลิต  โดยเฉพาะพื้นที่ อ.งาว และ อ.แจ้ห่ม ที่ใช้เป็นแหล่งผลิตเมล็ดพันธุ์  ขณะเดียวกันนักวิชาการรายหนึ่งระบุว่า จ.ลำปางมีการรุกป่ามากกว่า 70 เปอร์เซ็นต์ ขณะที่พื้นที่มีการปลูกถูกต้องเพียง 30 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น  ซึ่งเรื่องนี้ลานนาโพสต์ยังคงติดตามอย่างต่อเนื่อง
           
ดังระดับประเทศ ร้อนไปถึงโฆษกศาลยุติธรรม ต้องออกมาแถลงข่าว กรณีเรื่องราวที่นายสัจพันธุ์ จารณา อดีตพลทหารชายแดนภาคใต้ มาบอกเล่าเพื่อขอความช่วยเหลือจากสมาชิกในกลุ่มลำปางซิตี้  เนื่องจากนายสัจพันธุ์ ได้ถูกศาลตัดสินคดีลักทรัพย์ โดยพบของกลางเป็นไม้สัก 1 แผ่น ให้จำคุก 16 ปี  ไม่รอลงอาญา  เป็นเหตุให้ผู้ใช้สื่อโซเชียลมีเดียออกมาวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักว่า เป็นการตัดสินที่รุนแรงเกินไป  เป็นเหตุให้ โฆษกศาลยุติธรรมต้องออกมาชี้แจงแถลงไข ว่าเป็นการเข้าใจผิด เนื่องจากศาลได้ตัดสินว่าจำเลยร่วมกับพวกลักทรัพย์ รายการ รวมมูลค่ากว่า 1.8 แสนบาท  ไม่ใช่ไม้สักแค่แผ่นเดียวตามที่ลงข่าวแต่อย่างใด  จนมากลายเป็นข่าว “โฆษกศาลยันพลทหารผิด ดราม่าไม้แผ่นเดียว”
           
บุคคลดังระดับโลก “เกรียงไกร เตชะโม่ง” เจ้าของคดีเพชรซาอุ เข้าสู่ร่มกาสาวพัฒน์ โดยมีนายชลอ เกิดเทศ  หรือ พล.ต.ท.ชลอ เกิดเทศ  อดีตผู้บัญชาการประจำกรมตำรวจ ซึ่งเคยทำคดีเพชรซาอุ และถูกตัดสินว่ามีความผิดฐานออกคำสั่งฆ่าสองแม่ลูกตระกูลศรีธนะขัณฑ์ ในปี พ.ศ. 2538  ต่อมาวันที่ 25 ต.ค. 58 ได้รับอนุญาตพักการลงโทษ   ซึ่งเดินทางมาร่วมงานที่วัดท่ามะเกว๋น อ.เถิน จ.ลำปาง  พร้อมกับร่วมอนุโมทนากับพระเกียงไกรว่า “ขอให้สงบสุขเสียที”  เป็นอีกข่าวหนึ่งที่คนทั่วประเทศจับตามอง
           
เหตุการณ์หนึ่งที่ทำให้ผู้ใช้บริการภายในสถานีขนส่งจังหวัดลำปาง ต้องวิ่งหนีกันกระเจิดกระเจิง เมื่อเกิดเหตุการณ์ “ระทึกรถทัวร์โดยสารพุ่งเข้าไปด้านในที่นั่งพักผู้โดยสาร” ระหว่างชานชาลาที่ 3 และ 4 ชนเสา และป้ายล้มระเนระนาด เศษกระจกแตกกระจายเกลื่อน ขณะที่มีผู้โดยสารนั่งรอขึ้นรถอยู่จำนวนมาก  ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 5 ราย  โดยคนขับยอมรับว่าเกิดจากการเข้าเกียร์ผิด ถือว่าโชคดีที่เหตุการณ์นี้ไม่มีใครได้รับอันตรายถึงแก่ชีวิต

“เถินร้อนระอุติดอันดับ 12 ของโลก”  นับเป็นเรื่องน่าสนใจอีกเรื่องหนึ่งของปี 59  เมื่อทางเว็บไซด์ eldoradocountyweather.com ได้ทำการรวบรวมข้อมูลอุณหภูมิจากเมืองต่างๆ ในโลกเมื่อวันที่ 12 เม.ย. 59  ที่ผ่านมา ซึ่ง อ.เถิน จ.ลำปาง ติดอยู่ในอันดับ 12  อุณหภูมิ 43.8 องศา    นายทิวา พันธุ์ไม้สี อุตุนิยมวิทยาลำปาง ถึงกับบอกว่า ประวัติศาสตร์ที่ผ่านมา จ.ลำปาง เคยร้อน 43.5 องศาเซลเซียสเมื่อปี 2526  และในปีนี้ก็ร้อนเท่ากัน ถือว่าเป็นรอบ 33 ปี ที่ลำปางอุณหภูมิสูงที่สุด  และอาจจะมีเป็นปีที่มีอุณหภูมิเกิน 40 องศาเซลเซียสติดต่อกันมากที่สุดเท่าที่เคยเกิดขึ้น


กระหึ่มโซเชียลมีเดีย เมื่อภาพชาวบ้านจำนวนมากนั่งเก็บเห็ดถอบอยู่บริเวณร่องกลางถนน สายลำปาง-ห้างฉัตร เขต ต.เวียงตาล อ.ห้างฉัตร  หลังจากเกิดเหตุการณ์รถเห็ดถอบคว่ำ จนเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์เป็นวงกว้างว่า ชาวบ้านไม่ช่วยเหลือผู้ประสบเหตุมัวแต่แย่งกันเก็บเห็ด  ทางด้านเจ้าของเห็ดถอบได้ออกมาเปิดเผยว่า เห็ดถอบหายไปกว่า 700 กิโลกรัม  ขณะที่ชาวบ้านละแวกนั้นยืนยันว่า ไปช่วยเก็บจริง แต่มีคนผ่านไปมาที่มายกถุงไป พวกตนก็ทำอะไรไม่ได้  เป็นเหตุให้นายอำเภอห้างฉัตร ต้องนัดทุกฝ่ายมาพูดคุยทำความเข้าใจร่วมกัน เรื่องจึงจบลงไปด้วยดี เรื่องนี้จึงเป็นที่มาของข่าว “มายาเห็ดถอบ คิดก่อนแชร์”

“ซัดกรีนพีช แต่งชุดดำ บิดเบือนข้อมูล”  ช่วงเดือน ส.ค. ของทุกปี กฟผ.แม่เมาะ ได้งานเดินวิ่งแม่เมาะฮาล์ฟมาราธอน เฉลิมพระเกียรติ์ สมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนารถ ในปีนี้จัดเมื่อวันที่ 14 ส.ค.59 ที่ผ่านมา แต่ได้เกิดเหตุการณ์ร้อนระอุบนสื่อสังคมออนไลน์ เมื่อกลุ่มกรีนพีซ จำนวน  4 คน ได้แต่งกายชุดสีดำ พร้อมกับสวมหน้ากากป้องกันฝุ่น และชูป้ายข้อความขออากาศดีคืนมา เข้าร่วมงานเดินวิ่ง แม่เมาะฮาล์ฟมาราธอน  ได้มีการถ่ายรูปภายในงาน และมีภาพฉากหลังเป็นภาพของโรงไฟฟ้าแม่เมาะ นำไปโพสต์ลงในเพจของ Greenpeach Thailand  ทำให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์และเกิดความไม่พอใจอย่างมากต่อชาวอำเภอแม่เมาะผู้ที่ใช้เฟสบุ๊ก จึงได้มีการโพสต์ข้อความตำหนิถึงการกระทำดังกล่าว ของกลุ่มกรีนพีซ ผ่านทางเฟสบุ๊ก Greenpeach Thailand  อย่างต่อเนื่อง  ด้านผู้บริหาร กฟผ.แม่เมาะ ก็ออกมาย้ำชัดว่า อากาศที่แม่เมาะดี มั่นใจว่าการดำเนินการของโรงไฟฟ้าแม่เมาะ มีค่ามาตรฐานไม่เกินที่กำหมายกำหนดแน่นอน   แต่พอสักพักกระแสของเรื่องนี้ก็ได้เงียบไป

สำหรับข่าวที่สร้างความสลดหดหูใจให้กับคนรักสัตว์เป็นอย่างมาก คือ “สลด ทัวร์ชนช้าง ตามหางา ส่งคืนมูลนิธิฯ” เหตุเกิดคืนวันที่ 30 ก.ย. 59  รถทัวร์ของบริษัท 999 จำกัด สายกรุงเทพฯ-เชียงใหม่ ประสบอุบัติเหตุชนกับช้างเพศผู้ ชื่อพลายอุดม อายุ 8 ปี  ซึ่งเป็นช้างตามโครงการปล่อยช้างคืนสู่ป่าของมูลนิธิปล่อยช้างคืนสู่ธรรมชาติ เสียชีวิต ส่วนคนขับรถทัวร์ คือนายนริศ จิตตรง อายุ 45 ปี อยู่บ้านเลขที่ 33  บ้านขามแดง ต.ห้างฉัตร อ.ห้างฉัตร จ.ลำปาง  ได้รับบาดเจ็บสาหัสนำตัวส่งรักษาที่ รพ.ลำปาง    ส่วนผู้โดยสารที่เดินทางมากับรถทัวร์คันดังกล่าว จำนวน 25 คน ไม่ได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด หลังเกิดเหตุทางมูลนิธิคืนช้างสู่ป่า ได้มอบซากช้างพลายอุดรให้ศูนย์วิจัยฯ โรงพยาบาลช้างศูนย์อนุรักษ์ช้างไทย ผ่าชันสูตร และทำพิธีเผาซากเป็นที่เรียบร้อยแล้ว


ปิดท้ายข่าวเด่นประจำปี 59  “เล็งปิดทางถนนเถื่อน รุกป่า 45 ไร่” ที่ได้ขึ้นหน้า 1 ทั้งหนังสือพิมพ์ส่วนกลาง และหนังสือพิมพ์ท้องถิ่น    เมื่อแขวงทางหลวงชนบทลำปาง ทำการตัดถนนสาย ลป.4041 เชื่อมต่อระหว่างบ้านปงแพ่ง หมู่ 2 ต.เสริมขวา ถึงบ้านแม่กึ๊ด หมู่ 1 ต.ทุ่งงาม อ.เสริมงาม  ผ่านป่าสงวนแห่งชาติป่าแม่เรียง โดยไม่มีการขออนุญาตกรมป่าไม้ก่อน  รองอธิบดีกรมทางหลวงชนบทต้องลงพื้นที่ตรวจสอบด้วยตัวเอง ลั่นหากผิดจริงต้องปิดเส้นทาง  ปัจจุบันพนักงานสอบสวนได้ส่งเรื่องไปยัง ป.ป.ช.แล้ว อยู่ระหว่างรอผลการพิจารณา  ขณะที่ทาง สอบสวนพิเศษภาค 9 สำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน จะดำเนินการเข้าตรวจสอบอีกทางหนึ่ง  ซึ่งยังเป็นเรื่องที่ลานนาโพสต์จะติดตามมารายงานให้ทราบต่อไป

(หนังสือพิมพ์ลานนาโพสต์  ฉบับที่ 1110 วันที่  23 ธันวาคม 2559 - 5 มกราคม 2560 )
Share:

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

18 ปี ลานนาโพสต์

โครงการปั้นดาว

โครงการปั้นดาว
ขับเคลื่อนโดย Blogger.

จำนวนการดูหน้าเว็บรวม

สถิติการเข้าชมเว็บไซต์