ครูลำปางฮือ รุกสหกรณ์ฯ ฟันคนทุจริต ซื้อที่สูงเกินจริง สามปีเรื่องเงียบ

จำนวนผู้เข้าชม

ชมรมพิทักษ์ครูลำปาง สมาชิกกว่า 800 คน เตรียมยื่นข้อเสนอเรียกร้องให้สหกรณ์ออมทรัพย์ครูลำปาง ดำเนินการเรื่องการจัดซื้อที่ดินสร้างสำนักงานราคาสูงเกินจริง หลังผ่านมา 3 ปีเรื่องยังไม่คืบหน้า รวมทั้งเรื่องเรียกคืนเงินประกันและลดดอกเบี้ยเงินกู้  ขณะที่ ผจก.สหกรณ์ฯเผย ไม่ได้นิ่งเฉย ยื่นฟ้องดำเนินคดีทางแพ่งกับคณะกรรมการชุดจัดซื้อที่ดิน และเรียกคืนเงินประกันแล้ว

           

เมื่อวันที่ 18 ธ.ค.59 ที่ผ่านมา ที่ห้องประชุม สำนักงานเขตพื้นที่ประถมศึกษาลำปาง เขต 2 อ.เกาะคา จ.ลำปาง  ชมรมพิทักษ์ครูลำปาง นำโดยนายเชิดศักดิ์ เสริมสุข ประธานชมรมฯ  นายเดชวิทย์ หล้าปาวงศ์  ผอ.โรงเรียนชุมชนบ้านฟ่อน  นายบุญลือ ฤาชัย   พร้อมด้วยสมาชิกได้เข้าประชุมเพื่อร่วมกันพิจารณาแนวทางการดำเนินงานใน 4 ประเด็น คือ การจัดซื้อที่ดินของสหกรณ์ออมทรัพย์ครูลำปาง  การลดดอกเบี้ยเงินกู้  สัญญาประกันภัย และการแก้ไขระเบียบ การลดค่าใช้จ่ายงบประมาณของสหกรณ์ฯ  เพื่อนำเสนอเข้าที่ประชุมใหญ่ สหกรณ์ออมทรัพย์ครูลำปาง วันที่ 22 ธ.ค.59  ที่มหาวิทยาลัยราชภัฎลำปาง

นายเชิดศักดิ์ เสริมสุข ประธานชมรมพิทักษ์ครูลำปาง  กล่าวว่า ชมรมพิทักษ์ครูลำปาง ได้เริ่มขึ้นจากการรวมตัวของสมาชิกครูที่ต้องการเสนอความคิดเห็นและตรวจสอบการดำเนินงานของสหกรณ์ออมทรัพย์ครูลำปาง หลังจากพบว่าปัญหาที่ครูได้รับความเดือดร้อนเรื่องของสหกรณ์ออมทรัพย์ครูลำปางมีอยู่หลายเรื่อง โดยเฉพาะเรื่องการจัดซื้อที่ดินที่กรรมการชุดที่ 56 ของสหกรณ์ออมทรัพย์ครูลำปาง จึงได้เริ่มก่อตัวขึ้นเมื่อวันที่ 2 ธ.ค. 59 ที่ผ่านมา เนื่องจากเห็นว่าการดำเนินการต่างๆของสหกรณ์ฯ เป็นไปด้วยความล่าช้า   การจัดซื้อที่ดินในราคา 252 ล้านบาท ไม่เป็นไปตามมติที่ประชุมใหญ่สามัญประจำปี เมื่อวันที่ 28 ก.ค.55  ซึ่งมติในที่ประชุมกำหนดให้ซื้อที่ดินแปลงเดียวโฉนดเดียวไม่น้อยกว่า 15 ไร่  แต่กรรมการชุดนี้ได้ซื้อที่ดิน 2 แปลง และรวมพื้นที่ได้ 14.3 ไร่ ไม่มีการตรวจสอบแนวเขตชี้วัด พอทำสัญญาแล้วปรากฏว่าที่ดินแปลงนี้หายไป 50 ตารางวา   ขณะที่ที่ดินของห้างแม็คโคร ซื้อเมื่อเดือน มี.ค.54 เฉลี่ยไร่ละ 5.3 ล้านบาทเศษ  ที่ดินของโตโยต้า ซื้อเมื่อเดือน ส.ค.54  เฉลี่ยไร่ละ 5.5 ล้านบาทเศษ  แต่ที่ดินของสหกรณ์ออมทรัพย์ครู ซื้อหลังเพียง 1 ปี เมื่อเดือน พ.ย.55  ราคาพุ่งสูงถึงไร่ละ 16.8 ล้านบาท และยังเป็นที่ดิน 2 แปลงมีลำเหมืองตัดผ่านกลางอีกด้วย  อีกทั้งยังไม่ได้ปฏิบัติตามระเบียบพัสดุของสหกรณ์ออมทรัพย์ครูลำปาง พ.ศ. 2549   สมาชิกครูได้ติดตามมาหลายปีแต่ก็ไม่ได้รับคำตอบจากคณะกรรมการแต่ละชุด  พวกเราจะติดตามดูว่าทางสหกรณ์ฯจะดำเนินการฟ้องร้องกับกรรมการชุดที่ 56 หรือไม่ หากไม่ฟ้องทางเราจะดำเนินการฟ้องเอง

ประธานชมรมฯ กล่าวว่า  อีกเรื่องคือดอกเบี้ย เมื่อมองในภาพรวมแล้วสมาชิกมีปัญหาในการส่งหนี้กับสหกรณ์ คิดดอกเบี้ยร้อยละ 6.65  สูงกว่าสหกรณ์อื่นๆใกล้เคียง จึงต้องการให้คณะกรรมการบริหารเห็นใจสมาชิก โดยการลดดอกเบี้ยลงให้เหลือร้อยละ 6     รวมทั้งเรื่องสัญญาประกันภัย ที่สหกรณ์ฯได้ทำประกันไว้กับบริษัทสัญญาประกันภัย แต่บริษัทสัญญาได้ล้มเลิกกิจการไป และเทคโอเวอร์ให้อีกบริษัทหนึ่ง ทราบว่าบริษัทนี้ได้ถูกพิทักษ์ทรัพย์ ทางสหกรณ์ฯได้เงินคืนมา 8 ล้านบาท จากยอดทั้งหมด 15 ล้าน ซึ่งผ่านมา 3 ปีแล้วก็ยังได้เงินไม่ครบ  และเรื่องการแก้ไขระเบียบที่มาของกรรมการดำเนินการสหกรณ์ถูกล็อค  ต้องการให้มีการแก้ไขระเบียบการได้มาของคณะกรรมการสหกรณ์ในปีต่อไป

ด้านสหกรณ์ออมทรัพย์ครูลำปาง ได้ชี้แจงถึงกรณีที่ทางชมรมพิทักษ์ครูลำปางข้องใจ โดยมีนายสมศักดิ์ สลีวงศ์ ผู้จัดการสหกรณ์ออมทรัพย์ครูลำปาง  และนายสุวัช ศรีสด กรรมการบริหาร สหกรณ์ออมทรัพย์ครูลำปาง ร่วมกันให้รายละเอียดในประเด็นต่างๆ

นายสมศักดิ์ สลีวงศ์ ผู้จัดการสหกรณ์ออมทรัพย์ครูลำปาง   เปิดเผยว่า  การจัดซื้อที่ดินเป็นเรื่องที่ได้ดำเนินการมาตั้งแต่ปี 2555  ได้ซื้อเมื่อวันที่ 28 ธ.ค.55 กรณีที่สมาชิกสงสัยหรือข้องใจ เรื่องการจัดซื้อที่ดินตนเคยแจ้งสมาชิกในที่ประชุมสามัญประจำปีแล้วว่า ถ้าสมาชิกข้องใจให้สอบถามร้องทุกข์กับสหกรณ์ได้ ปรากฏว่าไม่มีสมาชิกท่านใดไปกล่าวโทษร้องทุกข์  จนมาถึงวันที่ 12 เม.ย.59 ทางสหกรณ์จังหวัด ในฐานะรองนายทะเบียนสหกรณ์  มีหนังสือถึงสหกรณ์ออมทรัพย์ครูลำปาง ให้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงกรณีการจัดซื้อที่ดิน ทางสหกรณ์ฯ นำโดยนายศรายุทธ พิจอมบุตร ประธานดำเนินการฯ ได้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนขึ้น  ซึ่งเรื่องนี้เกิดขึ้นนานแล้ว มีการกระทบต่อบุคคล และกระทบต่อกฎหมายจึงต้องใช้เวลา และใช้ความรอบคอบ  ผู้แทนสมาชิกที่ไปร้องเรียนอาจจะมองว่าเป็นการทำงานล่าช้า แต่ขณะนี้ทางสหกรณ์ฯ ได้มีการยื่นฟ้องแล้ว เมื่อวันที่ 13 ธ.ค.59  ดำเนินการในเรื่องของคดีแพ่ง  นอกจากนั้นได้หารือกับอัยการจังหวัดว่า จะดำเนินการทางอาญาอย่างไรกับกลุ่มคณะกรรมการที่ดำเนินการจัดซื้อที่ดิน ปัจจุบันที่ดินตรงนั้นก็ไม่ได้เข้าไปดำเนินการใดๆ เนื่องจากมีคำสั่งการจากสหกรณ์จังหวัดว่าไม่ให้ดำเนินการในที่ดินบริเวณดังกล่าว

สหกรณ์เป็นองค์กรทางธุรกิจ ไม่สามารถระบุได้แน่ชัดว่านำเงินส่วนไหนไปจ่ายดอกเบี้ยค่าจัดซื้อที่ดิน แต่บอกได้ว่าเป็นรายได้จากการธุรกิจการดำเนินการ ซึ่งไม่เกี่ยวกับเงินดอกเบี้ยที่เก็บจากสมาชิกแน่นอน  ทุกปีต้องจ่ายดอกเบี้ยปีละประมาณ 12 ล้านบาท

นายสมศักดิ์  กล่าวต่อไปว่า  กรณีการประกันภัย ในวันที่ได้ทำสัญญาประกันภัยนั้น ได้มีขั้นตอนถูกต้อง แต่เมื่อมีสมาชิกเสียชีวิตได้เกิดปัญหาเรื่องสัญญาไม่ถูกต้อง จึงได้ยกเลิกสัญญาและเรียกเงินประกันคืน จำนวน 15 ล้านบาท  วันแรกทางบริษัทได้นำมาชดเชยให้ 9.9 ล้านบาท  ที่เหลือขอผ่อนส่ง  ก็ประสบปัญหาอีก สหกรณ์ฯจึงทำการฟ้อง ทางบริษัทประกันก็ขอทำสัญญาประนีประนอมขอผ่อนส่งเดือนละ1 แสนบาท  ผ่อนมาได้ 8 เดือน บริษัทล้มละลาย  ทางสหกรณ์ฯก็ไมได้นิ่งเฉย ขอรับชำระหนี้ลูกหนี้ล้มละลายไปแล้ว รอการจัดสรรจากบังคับคดี ตอนนี้คดียังไม่ถึงที่สุด

นายสุวัช ศรีสด กรรมการบริหารฯ  กล่าวเพิ่มเติมเรื่องดอกเบี้ยว่า  การลดดอกเบี้ยสามารถลดลงได้ แต่สมาชิกต้องยอมรับในตัวผันแปรว่า เงินปันผลและเงินเฉลี่ยคืนต้องลดลงให้สอดคล้องกัน   กรรมการชุดนี้พยายามทำให้ทุกอย่างดีขึ้น ในปีนี้เราสรุปตัวเลขได้กำไรถึง 350 ล้านบาท กำไรไปตกกับสมาชิกกว่า 96 เปอร์เซ็นต์ คิดเป็นเงินถึง 337 ล้านบาท  สหกรณ์ฯพยายามดูแลความเป็นอยู่ของสมาชิกให้ทั่วถึง ไม่ได้นิ่งนอนใจเรื่องดอกเบี้ย ได้ดูของสหกรณ์อื่นว่ามีดอกเบี้ยเท่าไร และเสนอคณะกรรมการอำนวยการ ทุกสิ่งที่เกิดขึ้นเกิดเมื่ออดีต แต่จะทำยังไงให้สหกรณ์เข้มแข็ง ยอมรับว่าขาดช่วงในการประชาสัมพันธ์  เมื่อสมาชิกได้ร่วมประชุมใหญ่จะมีความเข้าใจที่ชัดเจนขึ้น อย่างไรก็ตามทุกสิ่งต้องทำตามระเบียบ อาจเห็นว่าล่าช้า แต่เราต้องระมัดระวังไม่ให้ผิดพลาดอีก ให้สหกรณ์ฯดำรงอยู่ต่อไปเป็นที่พึ่งของสมาชิกที่มีอยู่ทั้งหมด 8,000 คน 

           

สำหรับการยื่นฟ้องแพ่ง สหกรณ์ออมทรัพย์ครูลำปาง ได้ยื่นฟ้องคณะกรรมการบริหาร สหกรณ์ออมทรัพย์ครูลำปาง ชุดที่ 56 รวม 15 คน ซึ่งมีนายชาญ สัตตรัตนขจร เป็นประธานดำเนินการฯในสมัยนั้น   พร้อมส่งหนังสือเรียกให้ชำระเงินค่าเสียหาย กรณีค่าใช้จ่ายในการแก้ไขแบบแปลนอาคารที่ทำการฯ เพิ่มเติม 400,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปีของเงินต้น นับตั้งแต่วันที่ 28 ก.พ.58  ภายใน 20 วันนับแต่วันที่ได้รับหนังสือ หากพ้นกำหนดจะดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

เรื่องเดิม เมื่อปี 2555  คณะกรรมการบริหารสหกรณ์ออมทรัพย์ครูลำปาง สมัยการบริหารงานของนายชาญ สัตตรัตนขจร  เป็นประธานดำเนินการฯ ได้ดำเนินการจัดซื้อที่ดินทำเลทอง  เนื้อที่ประมาณ 15  ไร่  ตั้งอยู่ติดกับห้างแมคโครลำปาง  ด้านทิศตะวันออก ถนนซุปเปอร์ไฮเวย์  กรุงเทพฯ-ลำปาง  ต.พระบาท อ.เมือง จ.ลำปาง  มูลค่า 252 ล้านบาท  เพื่อก่อสร้างอาคารสำนักงานใหม่และหอประชุมใหญ่ขนาดบรรจุ 1,500 คน   แต่เมื่อนายชาญ สัตตรัตนขจร ได้หมดวาระลง คณะกรรมการบริหารสหกรณ์ออมทรัพย์ครูลำปาง ชุดใหม่ ปี 2557-2559  นำโดยนายศรายุทธ พิจอมบุตร ประธานดำเนินการฯ ได้ชะลอก่อสร้างสำนักงานใหม่ โดยให้เหตุผลกรรมการชุดใหม่เพิ่งเข้ารับตำแหน่งขอศึกษารายละเอียดให้รอบคอบ อีกทั้งภาวะเศรษฐกิจที่ไม่แน่นอนอาจเกิดปัญหาสภาพคล่อง ต้องระมัดระวังเรื่องการใช้จ่ายเงิน  การที่จะลงทุนไปกับทรัพย์สินที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้อาจจะกระทบกับฐานะการเงินได้

           

ต่อมาปี 2558 ได้มีสมาชิกรายหนึ่ง ยื่นร้องเรียนเรื่องการจัดซื้อที่ดินดังกล่าวไปยัง ป.ป.ช. ว่าการจัดซื้อที่ดินดังกล่าวมีราคาสูงเกินจริง เมื่อเปรียบเทียบกับที่ดินด้านข้างที่เพิ่งซื้อก่อนเพียง 1 ปีเท่านั้น มีราคาเฉลี่ยไร่ละประมาณ 5 ล้านบาท ขณะที่ที่ดินของสหกรณ์ออมทรัพย์ครูลำปาง เฉลี่ยถึงไร่ละ 16.8 ล้านบาท เพิ่มขึ้นถึงเท่าตัว  ซึ่งขณะนี้เรื่องยังอยู่ระหว่างการพิจารณา

ขณะเดียวกันได้มีสมาชิกครูกว่า 800 คน รวมตัวกันตั้งชมรมพิทักษ์ครูลำปางขึ้น เมื่อต้นเดือน ธ.ค. 59 ที่ผ่านมา เพื่อตรวจสอบการดำเนินการงานต่างๆ และเสนอความคิดเห็นของกลุ่มครูให้กับสหกรณ์ออมทรัพย์ครูลำปางอีกทางหนึ่ง พร้อมกับยื่นแนวทางการดำเนินงานใน 4 ประเด็น คือ การจัดซื้อที่ดินของสหกรณ์ออมทรัพย์ครูลำปาง  การลดดอกเบี้ยเงินกู้  สัญญาประกันภัย และการแก้ไขระเบียบ การลดค่าใช้จ่ายงบประมาณของสหกรณ์ฯ เข้าที่ประชุมใหญ่ สหกรณ์ออมทรัพย์ครูลำปาง ในวันที่ 22 ธ.ค.59 

ทางด้านสหกรณ์ออมทรัพย์ครูลำปาง ได้มีการยื่นฟ้องแพ่งกับคณะกรรมการชุดที่ดำเนินการจัดซื้อที่ดินไปแล้วเมื่อวันที่ 13 ธ.ค.56 ที่ผ่านมา  และเตรียมจะฟ้องคดีทางอาญาด้วยอีกทางหนึ่ง

(หนังสือพิมพ์ลานนาโพสต์  ฉบับที่ 1110 วันที่  23 ธันวาคม 2559 - 5 มกราคม 2560 )