วันศุกร์ที่ 3 มีนาคม พ.ศ. 2560

อินทรีย์ผยอง

จำนวนผู้เข้าชม

จะว่าไปแล้ว เชียงใหม่เป็นเมืองเพื่อนบ้านของคนลำปางอย่างแท้จริง วันหยุดสุดสัปดาห์หลายครอบครัวพากันไปเที่ยว เพราะใคร ๆ ก็รู้ว่า เชียงใหม่มีทั้งความบันเทิงและธรรมชาติแบบครบรส ไปกินดื่มในเมืองที่เต็มแน่นไปด้วยร้านกาแฟเก๋ ๆ ร้านอาหารดี ๆ แทบจะทุกตรอกซอกซอยด้านเวิร์กช็อปสนุก ๆ นั้นเล่า ก็จัดกันแทบทุกอาทิตย์ มีอะไรใหม่ให้ตื่นเต้นได้ตลอด ขณะที่ขับรถออกไปนอกเมืองไม่ไกลก็เจอกับปลายสุดของหิมาลัยอย่างดอยอินทนนท์แหล่งดูนก ดูพรรณไม้ ดูกวางผา

ความครบเครื่องดังกล่าวส่งผลให้เชียงใหม่วันนี้กลายเป็นแดนสวรรค์ของนักท่องเที่ยว แต่คนเชียงใหม่จริง ๆ กลับส่ายหน้าอย่างเซ็ง ๆ ให้กับฝูงชนและขบวนรถที่หลั่งไหลมาเต็มเมือง
แม้ต้องเผชิญปัญหารถติดมาก (ก ไก่ล้านตัว) ปัญหานักท่องเที่ยวป่วน อย่างไรก็ตาม คนเชียงใหม่ยังมีชีวิตดี๊ดีอีกด้านนะรู้ไหม      

เมืองเชียงใหม่นั้น มีวัตถุดิบด้านอาหารชั้นเลิศอยู่ทุกมุมเมือง ข้าวปลา พืชผักผลไม้ ขนมนมเนย มิใช่แค่เพียงเหลือเฟือ แต่ยังปลอดภัยกับสุขภาพและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เพราะที่นี่มีชุมชนอินทรีย์ (Organic Community) ลักษณะเป็นร้านค้าที่เป็นจุดรวมสินค้าเกษตรอินทรีย์ สินค้าปลอดสารพิษ จากเครือข่ายพี่น้องเกษตรกรโดยตรง ที่สำคัญ ดำเนินงานโดยองค์กรไม่แสวงหาผลกำไรที่ทำงานด้านสิ่งแวดล้อมในเชียงใหม่ ผลกำไรจะคืนสู่การทำงานดูแลรักษาสิ่งแวดล้อมเมืองที่รักของพวกเขา
สำหรับสินค้าอินทรีย์ที่วางจำหน่ายในร้านเล็ก ๆ มีตั้งแต่ผักผลไม้ตามฤดูกาล น้ำสมุนไพร น้ำเต้าหู้ น้ำมันงา เต้าเจี้ยว ซีอิ๊วขาว น้ำผึ้ง แยม ข้าวกล้องไม่ขัดสี ข้าวเหนียวดอย สบู่ แชมพู เนื้อหมูปลอดสารพิษ ไก่พื้นเมืองอินทรีย์ ไข่ไก่-ไข่เป็ดอินทรีย์ และอาหารทะเลปลอดฟอร์มาลีนจากกลุ่มประมงพื้นบ้านภาคใต้...เจ๋งอะ นี่เป็นสิ่งที่พวกเราชาวเหนือชอบใจที่สุด

ทั้งหมดนี้ส่งตรงถึงผู้รักสุขภาพในเมืองเชียงใหม่โดยไม่ผ่านพ่อค้าคนกลาง เกษตรกรบางรายลงจากดอยมาพร้อมผลิตผลในมือเพื่อมาส่งให้ร้านค้าเครือข่าย ขณะที่ทุกวันเสาร์-อาทิตย์เชียงใหม่ก็มีตลาดเฉพาะกิจตรงโน้นบ้าง ตรงนี้บ้าง เพื่อกระจายผลิตผลอินทรีย์จากคนปลูกสู่คนกินโดยตรง ปะหน้าค่าตากันก็เกิดโมงยามแห่งความเป็นมิตรเพราะหลายครั้งเราไม่รู้เลยว่า อาหารที่เรากินเข้าไปนั้นมาจากไหน และเงินที่เราจ่ายไปจะถึงมือคนปลูกอย่างยุติธรรมหรือเปล่า แต่เมืองเชียงใหม่ทำให้เรารู้

พืชผักผลไม้อินทรีย์บางอย่างไม่ใช่ของที่ปลูกทั้งปี จึงมีการหมุนเวียนเปลี่ยนไปเรื่อย ๆ เรียกได้ว่าหมดแล้วหมดเลย แต่หมดก็มีสินค้าอื่นมาทดแทน เราจึงได้กินของสดใหม่ไม่ซ้ำกันตลอด และทางร้านไม่ได้ขายแค่สินค้าอินทรีย์ที่มีตรารับรอง เพียงแต่อาศัยความไว้ใจ เพราะบางทีคนปลูกคือชาวบ้าน ชาวไทยภูเขาบนดอยสูง ที่อาจไม่สะดวกในการไปขอมาตรฐานรับรอง

บางวาระชุมชนอินทรีย์ก็จัด Farm Visit ไปเที่ยวไร่เที่ยวสวนต่างอำเภอของพี่น้องเกษตรกรที่ส่งผลผลิตมาขายในร้าน ทำเวิร์กช็อปเก๋ ๆ อย่างปลูกผักในตะกร้าใบเก่า สอนทำอาหารเพื่อสุขภาพโดยเชฟฝีมือเยี่ยม
นอกจากชุมชนอินทรีย์อย่างฮักเวียงช็อป ชุมชนอินทรีย์มีโชค ก็ยังมีแหล่งซื้อสินค้าอินทรีย์อีกหลายแหล่ง ไม่ว่าจะเป็นร้านค้าของคณะเกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ซึ่งอยู่ติดกับโครงการหลวง จึงเห็นผู้คนมาจับจ่ายกันอย่างคึกคัก แล้วยังมี Farmer’ s Market กาดชุมชนเชียงใหม่อาหารปลอดภัยที่จริงใจมาร์เก็ตทุกวันเสาร์-อาทิตย์ ฯลฯ

รู้สึกยินดีกับเมืองเชียงใหม่ ที่มีพื้นที่สีเขียวอยู่แทบทุกมุมเมืองให้อินทรีย์สยายปีก

(หนังสือพิมพ์ลานนาโพสต์  ฉบับที่ 1119 วันที่ 3 - 9 มีนาคม 2560 )
Share:

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

18 ปี ลานนาโพสต์

โครงการปั้นดาว

โครงการปั้นดาว
ขับเคลื่อนโดย Blogger.

จำนวนการดูหน้าเว็บรวม

สถิติการเข้าชมเว็บไซต์