วันศุกร์ที่ 5 ตุลาคม พ.ศ. 2561

หนึ่งปีผู้ว่าฯ‘ทรงพล’ ของจริง-ของปลอม?



จำนวนผู้เข้าชม เว็บเคาน์เตอร์

ผู้ว่าฯทรงพล สวาสดิ์ธรรม ใช้ชีวิตที่ลำปางมาครบปีแล้ว เป็นครึ่งทางของเขา ก่อนจะเกษียณอายุราชการปีหน้าในตำแหน่งพ่อเมือง เมืองที่ถูกบันทึกไว้ว่า ผู้ว่าฯหลายคนมารอเกษียณที่นี่ และหายไปจากความทรงจำของผู้คนอย่างรวดเร็วคล้ายย่ำเท้าลงไปบนผืนทราย

อาจมีบางคนที่คนยังจำได้ เพราะเขาได้ไปต่อ ในบทบาทหน้าที่ที่น่ายินดี เช่น  นายธวัชชัย เทอดเผ่าไทย คณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.)  และมีบางคนที่ยังต้องเผชิญวิบากกรรม ระหว่างที่ปฏิบัติหน้าที่ที่นี่ ในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับเงินร้อน กองทุนไฟฟ้า

ชื่อทรงพล สวาสดิ์ธรรม ห่างไกลมากจากการรับรู้ของคนลำปางก่อนหน้านี้ เนื่องเพราะชีวิตราชการของเขา ล้วนวนเวียนอยู่ในพื้นที่ภาคใต้ ครั้งสุดท้ายคือผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ค่าที่เป็นคนพื้นเพอำเภอสะบ้าย้อย จังหวัดสงขลา และก็มีผู้ว่าฯจำนวนไม่น้อย ที่ได้รับการจัดวางในพื้นที่บ้านเกิด

แม้การแต่งตั้งโยกย้ายผู้ว่าราชการจังหวัด จะเป็นปลัดกระทรวงมหาดไทย โดยความเห็นชอบของคณะรัฐมนตรี แต่ความเป็นจริง ผู้ถูกย้ายก็ควรต้องยินดี หรือสามารถร้องขอพื้นที่ที่เหมาะสม และเจ้าตัวพึงพอใจได้ เช่น สหายคนหนึ่งของ “ม้าสีหมอก” ที่เคยขอเกษียณอายุราชการในตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย

นั่นแปลว่า ผู้ว่าฯทรงพล ก็ย่อมต้องยินดี ในการบินลัดฟ้า มาเป็นผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง และเกษียณอายุที่ตำแหน่งนี้ ซึ่งไม่ได้หมายถึงลำปาง อ่อนด้อย น้อยค่า แต่หากเทียบกับจังหวัดสงขลา เมืองหน้าด่านภาคใต้ ที่มีความสำคัญทั้งในเชิงยุทธศาสตร์ และการเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจ หรือจังหวัดอื่นๆที่ใหญ่กว่า สำคัญกว่า จึงน่าสนใจอย่างยิ่งที่เขาเลือกลำปาง ทั้งที่ไม่ได้เป็นเขยลำปาง

สิ่งใดที่ลำปาง เป็นเสมือนปลายทางฝันของเขา  “ม้าสีหมอก” มีโอกาสสนทนากับผู้ว่าฯทรงพล อีกครั้ง คงได้เจาะใจเอาความจริงมาให้ได้ เนื่องเพราะความเป็นลำปาง เมืองเล็กๆ ที่คนผ่านไป ผ่านมา และอีกคนลำปางแท้ๆอีกจำนวนไม่น้อย ที่อาจมองไม่เห็นของดีที่มีอยู่ เหมือนคนอยู่ในป่าไม่เห็นต้นไม้ แต่คนไกลกลับมองเห็น

แต่โฟกัสเฉพาะหนึ่งปีของผู้ว่าฯทรงพล เพื่อตอบคำถามว่า เขา เป็น “ของจริง” หรือ “ของปลอม” ก็ต้องบอกว่า คำตอบอาจไม่ได้สะท้อนความจริงทั้งหมด แต่ภาพที่เห็น เสียงที่ได้ยิน ตลอดระยะเวลาหนึ่งปีที่ผ่านมานั้น อาจกล่าวได้เต็มคำว่า นี่คือ “พ่อเมือง”ในอุดมคติ คือเป็นที่หวัง เป็นที่พึ่งพาได้ มิใช่เพียงข้าราชการคนหนึ่งที่อยู่และไปตามหน้าที่เท่านั้น

เฟสบุ๊ค Songpon  Savastham ไม่นานจากนี้  พูดเรื่อง “ลำปาง ปันสุข” ไว้ในเรื่องของการ ประกวด และแข่งขัน อย่างน่าสนใจ

“ถ้าเรานึกถึง สนใจแต่การ ประกวด แข่งขัน เรามักจะเลือกหมู่บ้าน/ชุมชน/กลุ่มเดิมๆ ที่มีศักยภาพ ความพร้อมสูง สะดวกในการเดินทางไป พัฒนา แต่งหน้า ทาปาก ต่อยอด ขยายผลเพื่อชัยชนะ  รางวัลและผลงาน จนบางครั้ง อาจลืมใครๆ ที่อยู่ไกลๆไว้ข้างหลัง”

นี่เอง อาจเป็นเหตุผลที่ ผู้ว่าฯทรงพล สวาสดิ์ธรรม ใช้เวลาของเขา ไม่เว้นแม้วันหยุดเสาร์-อาทิตย์ เดินทางไกล ไปยังต่างอำเภอ ต่างพื้นที่ ที่ที่การพัฒนาไม่เคยไปถึง การช่วยเหลือไม่เคยมี  วัตรปฏิบัติเช่นนี้ สม่ำเสมอทั้งปี ด้วยภาพของผู้ว่าฯที่อ่อนน้อมถ่อมตัว มิใช่ เจ้าขุนมูลนาย ไม่ใช่เจ้านายชาวบ้าน

ถึงวันนี้ ยังเชื่อได้ในความเป็น “ของจริง” ของทรงพล สวาสดิ์ธรรม ยังเหลือเวลาอีก 1 ปี ที่จะพิสูจน์ว่า ทองแท้ย่อมไม่แพ้ไฟจริงๆ


(หนังสือพิมพ์ลานนาโพสต์ ฉบับที่ 1199 วันที่ 5 - 11 ตุลาคม 2561 )
Share:

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

18 ปี ลานนาโพสต์

โครงการปั้นดาว

โครงการปั้นดาว
ขับเคลื่อนโดย Blogger.

จำนวนการดูหน้าเว็บรวม

สถิติการเข้าชมเว็บไซต์