กระบะหลุดโค้งพุ่งข้ามเลน ชนรถผู้ใหญ่บ้าน ติดในรถสาหัส ขาหักทั้งคู่

จำนวนผู้เข้าชม

เมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 26 ม.ค.62  พ.ต.ท.อภิชาติ แรงสิงห์ สว.(สอบสวน) สภ.บ้านเอื้อม อ.เมืองลำปาง ได้รับแจ้งว่า เกิดอุบัติเหตุรถชนกันหลายคัน มีผู้ได้รับบาดเจ็บ บริเวณถนนสายลำปาง-เมืองปาน ก่อนถึงตู้ยามบ้านเอื้อมประมาณ 500 เมตร เขตบ้านผึ้ง หมู่ 9 ต.บ้านเอื้อม อ.เมืองลำปาง หลังรับแจ้งจึงประสานเจ้าหน้าที่กู้ชีพ และสมาคมกู้ภัย ให้การช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ และไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ

ในที่เกิดเหตุ พบว่ามีรถชนกันจำนวน 3 คัน สภาพรถพังยับเยิน คันแรกเป็นรถยนต์กระบะชน โตโยต้าสีขาวหมายเลขทะเบียน บข 2325 ลำพูน มีชายคนขับอายุประมาณ 50 ปี ติดอยู่ภายในรถ ไม่สามารถให้การได้ ชนกับรถยนต์แวน ยี่ห้ออิซูซุ สีเทาหมายเลขทะเบียน กบ 435 ลำปาง คนขับเป็นชายติดภายในรถเช่นกัน ทราบชื่อคือ นายอเนก วงค์หอคำ อายุ 56 ปี เป็นผู้ใหญ่บ้านทุ่งฝาง ต.บ้านค่า อ.เมืองลำปาง  เจ้าหน้าที่สมาคมกู้ภัยจึงได้ใช้เครื่องตัดถ่างช่วยทั้งสองคนออกมาได้อย่างปลอดภัย แต่อยู่ในสภาพขาหักทั้งสองคน โดยเจ้าหน้าที่กู้ชีพโรงพยาบาลลำปาง เข้าช่วยเหลือในการปฐมพยาบาลผู้บาดเจ็บ ทั้ง 2 คน เร่งนำตัวส่งไปรักษาที่โรงพยาบาลลำปางทันที

 ส่วนรถอีกคัน เป็นรถยนต์เก๋ง ฮอนด้า ซิตี้ สีเทา หมายเลขทะเบียน กต 7566 ลำปาง คนขับคือนายชนที อายุ 27 ปี ชาวบ้าน ต.บ้านเอื้อม ไม่ได้รับอันตรายแต่อย่างใด แต่บริเวณด้านหน้ารถเก๋งพังเสียหายทั้งแถบ  ได้เล่าเหตุการณ์ว่า ตนเองขับรถกำลังจะกลับบ้านในพื้นที่ ต.บ้านเอื้อม ได้ขับตามหลังกันมาหลายคัน จู่ๆรถคันข้างหน้าได้เกิดอุบัติเหตุชนกันอย่างจัง และรถได้พุ่งขวางข้ามเลนมา ตนเองเบรคไม่ทัน จึงพุ่งชนอัดเต็มแรง โชคดีไม่ไดรับอันตราย แต่รถพังเสียหาย

นายเสาร์คำ อุ่นใจ ชาวบ้าน ต.บ้านเอื้อม ผู้เห็นเหตุการณ์ได้เล่าว่า ตนเองได้ขับรถนำหน้ารถแวนของผู้ใหญ่บ้านมาก่อน เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุเป็นทางโค้ง สังเกตเห็นรถยนต์กระบะโตโยต้าสีขาว หมายเลขทะเบียน บข 2325 ลำพูน ขับมาแล้วหลุดโค้งพุ่งข้ามเลน มาหาของรถตนเอง แต่ตนได้หักหลบหนีไปได้อย่างหวุดหวิด ทำให้รถกระบะพุ่งไปชนกับรถของผู้ใหญ่บ้านทุ่งฝางที่ขับตามกันมาอย่างจัง  และมีรถเก๋งมาชนซ้ำอีกคัน ตนเองจึงรีบจอดรถ และเข้าไปให้การช่วยเหลือ และรีบแจ้งเจ้าหน้าที่รุดเข้ามาช่วยเหลือ ทั้งนี้  เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เขามาตรวจสอบที่เกิดเหตุ และทำการสอบสวนคู่กรณีทั้งหมดอย่างละเอียด เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

(หนังสือพิมพ์ลานนาโพสต์ฉบับที่ 1215 วันที่ 1 - 7 กุมภาพันธ์ 2562)