วันพุธที่ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2563

กระทรวงมหาดไทยออกคำสั่งคืนตำแหน่ง อดีตผู้ว่าฯ ดิเรก ก้อนกลีบ พร้อมคืนสิทธิ์ประโยชน์ตามกฎหมาย หลังศาลปกครองสูงสุดพิพากษาเพิกถอนคำสั่งกระทรวงมหาดไทย ระบุอดีตผู้ว่าฯ ไม่ได้กระทำผิดวินัยร้ายแรง

จำนวนผู้เข้าชม เว็บเคาน์เตอร์

 เมื่อวันที่ 17 มิถุนายน 2563  กระทรวงมหาดไทยได้ออกหนังสือคำสั่งกระทรวงมหาดไทยที่ 1500/2563 เรื่องยกเลิกคำสั่งลงโทษ  ลงนามโดย นายฉัตรชัย พรหมเลิศ ปลัดกระทรวงมหาดไทย  โดยหนังสือดังกล่าวได้ระบุว่า   ตามที่กระทรวงมหาดไทยมีคำสั่งที่ 372/2557 ลงวันที่ 9 กรกฎาคม 2557 สั่งลงโทษไล่นายดิเรก หรือวรเดช ก้อนกลีบ อดีต ผวจ.ลำพูน (ลาออกจากราชการตั้งแต่วันที่ 11 มีนาคม 2554) ออกจากราชการ กรณีคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.)  ชี้มูลความผิดวินัยอย่างร้ายแรง ในเรื่องที่นายดิเรก ก้อนกลีบ ครั้งดำรงตำแหน่ง ผวจ.ลำปาง ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2550 ถึงวันที่ 20 ตุลาคม 2551 มีหน้าที่จับกุมผู้กระทำความผิดตามกฎหมายป่าไม้ และในฐานะประธานกองทุนพัฒนาชุมชนพื้นที่รอบโรงไฟฟ้าจังหวัดลำปาง ได้พิจารณาอนุมัติก่อสร้างอ่างเก็บน้ำทั้ง 4 แห่ง ได้แก่ อ่างเก็บน้ำกิ่วข้าวหลาม อ่างเก็บน้ำปงชัย อย่างเก็บน้ำแม่ทู และอ่างเก็บน้ำแม่หลวง  เมื่อวันที่ 25 มีนาคม 2551 และวันที่ 24 เมษายน 2551 โดยยังไม่ได้รับอนุญาตจากรมป่าไม้  คณะกรรมการ ป.ป.ช.ได้มีมติว่าพฤติกรรมของนายดิเรก ก้อนกลีบ เป็นการกระทำผิดวินัยร้ายแรง ฐานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ราชการโดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายร้ายแรงแก่ผู้ใดผู้หนึ่ง หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ราชการโดยสุจริต และฐานะกระทำการอันได้ชื่อว่าเป็นผู้ประพฤติชั่วอย่างร้ายแรง   ต่อมานายดิเรกได้ยื่นอุทธรณ์คำสั่งลงโทษออกจากราชการต่อคณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรม(ก.พ.ค.)  แต่ ก.พ.ค.ได้มีคำวินิจฉัยให้ยกอุทธรณ์  นายดิเรก จึงได้ยื่นฟ้องคดีต่อศาลปกครองสูงสุด 


และเมื่อวันที่ 3 เมษายน 2563 ที่ผ่านมา ศาลปกครองสูงสุดได้มีคำพิพากษาเพิกถอนคำสั่งกระทรวงมหาดไทยที่ 372/2557 ลงวันที่ 9 กรกฎาคม 2557 ที่ลงโทษไล่ออกนายดิเรก ก้อนกลีบ ออกจากราชการ และคำวินิจฉัยของ ก.พ.ค. ที่วินิจฉัยยกอุทธรณ์ของนายดิเรก ก้อนกลีบ โดยให้มีผลย้อนหลังไปถึงวันที่มีคำสั่งและคำวินิจฉัยอุทธรณ์ดังกล่าว  พร้อมคืนสิทธิประโยชน์ให้แก่นายดิเรก ก้อนกลีบตามที่กฎหมายและระเบียบกำหนด

โดยให้เหตุผลว่า ข้อเท็จจริงได้ปรากฏตามรายงานการตรวจสอบข้อเท็จจริงของคณะอนุกรรมการธิการ ประสานภารกิจสภาปฏิรูปแห่งชาติ ด้านการปกครองท้องถิ่น ในคณะกรรมมาธิการปกครองส่วนท้องถิ่น สภานิติบัญญัติแห่งชาติ พบว่า การก่อสร้างอ่างเก็บน้ำทั้ง 4 แห่ง มีสภาพแข็งแรง สามารถรองรับและเก็บน้ำได้อย่างดี และหากมีการบริหารจัดการเพื่อนำน้ำในอ่างมาใช้ประโยชน์ จะสามารถแก้ปัญหาภัยแล้งในพื้นที่ อ.แม่เมาะ และทำให้ประชาชนมีน้ำใช้เพียงพอต่อการประกอบอาชีพ  ข้อเท็จจริงแสดงให้เห็นว่าการไม่ปฏิบัติตามระเบียบกรมป่าไม้ของนายดิเรก ก้อนกลีบ ไม่ได้ก่อให้เกิดความเสียหายต่อทางราชการ แต่กลับทำให้ประชาชนในพื้นที่ได้รับประโยชน์จากโครงการดังกล่าว  ไม่อาจถือได้ว่านายดิเรก กระทำการได้ชื่อว่าเป็นผู้ประพฤติชั่วอย่างร้ายแรง อันเป็นความผิดวินัยอย่างร้ายแรง  

อย่างไรก็ตาม นายดิเรก หรือ วรเดช ก้อนกลีบ ได้พ้นความผิดทางวินัยแล้ว แต่ในส่วนของคดีอาญายังคงอยู่ระหว่างการต่อสู้ในชั้นศาล โดยเมื่อวันที่ 5 ก.ค. 2561ที่ผ่านมา ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 5 จังหวัดเชียงใหม่ ได้มีคำพิพากษาตัดสินลงโทษจำคุก นายดิเรก ก้อนกลีบ อดีตผู้ว่าลำปาง และพวกรวม 14 ราย โดยไม่รอลงอาญา ในส่วนของ นายดิเรก และ นายเสริมศักดิ์ สีสันต์ อดีตนายอำเภอแม่เมาะ ถูกตัดสินลงโทษคนละ 4 กรรม ๆ และ 4 ปี รวมจำนวน 16 ปี ส่วนจำเลยอื่นถูกตัดสินโทษลดหลั่นกันลงมา เบื้องต้นจำเลยทั้งหมด ได้มีการยื่นหลักทรัพย์ขอประกันตัว เพื่อสู้คดีในชั้นอุทธรณ์และฏีกาต่อไป

Share:

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

18 ปี ลานนาโพสต์

โครงการปั้นดาว

โครงการปั้นดาว
ขับเคลื่อนโดย Blogger.

จำนวนการดูหน้าเว็บรวม

สถิติการเข้าชมเว็บไซต์