การเมืองแม่เมาะร้อน
ผู้สมัคร นายก อบต.สบป้าด ร้องให้ตรวจสอบคุณสมบัติ นายก อบต.หลังได้รับเลือกตั้ง อ้างต้องคำพิพากษา ด้านนิติกรจังหวัดเผยเป็นอำนาจนายอำเภอต้องเรียกตัวมาสอบสวนภายใน
30 วัน ขณะที่สนามเลือกตั้งเทศบาลตำบลแม่เมาะ มีกรีดทำลายป้ายหาเสียงในหลายพื้นที่
เมื่อวันที่
22 ต.ค.56 นายกริช ฟูชุม ผู้สมัครนายก อบต.สบป้าด
หมายเลข 4 ได้เข้ายื่นหนังสือร้องเรียนต่อนายอำเภอแม่เมาะ
โดยมีนายสมจิตร จุนเจริญ ปลัดฝ่ายความมั่นคงอำเภอ แม่เมาะ เป็นผู้รับเรื่องแทน
เพื่อเรียกร้อง ขอความเป็นธรรม ความยุติธรรม
ภายใต้กรอบกติกาของกฎหมาย และรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย โดยได้กล่าวหาว่า
นายสุขเกษม สุริยา นายก
อบต.สบป้าด เป็นผู้ที่ขาดคุณสมบัติ การสมัครรับเลือกตั้ง ตามพระราชบัญญัติ
การเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น มาตรา 45
บุคคลผู้มีลักษณะดังต่อไปนี้เป็นบุคคลต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้ง (7) เคยถูกไล่ออก ปลดออก
หรือให้ออกจากราชการ หน่วยงานของรัฐ หรือ
รัฐวิสาหกิจ เพราะ ทุจริตต่อหน้าที่ หรือ ถือว่ากระทำการทุจริต และ
ประพฤติมิชอบในวงราชการ และพระราชบัญญัติ
สภาตำบลและองค์การบริหารส่วนตำบล พ.ศ. 2537 (แก้ไขเพิ่มเติมถึง
(ฉบับที่ 5) พ.ศ 2546) มาตรา 58/1(3)
ไม่เป็นผู้มีพฤติกรรมในทางทุจริต
ทั้งนี้
ข้อความในหนังสือได้ระบุว่า นายสุขเกษม
สุริยา
ซึ่งในขณะนั้นดำรงตำแหน่งเป็นกำนันตำบลสบป้าด ถูกชาวบ้านร้องเรียน
ต่อผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง ว่า ร่ำรวยผิดปรกติ ใช้อำนาจรัฐบุกรุกพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ
และมีการใช้อิทธิพลข่มขู่ชาวบ้านในพื้นที่
ต่อมาได้มีคำพิพากษาถึงที่สุดจากศาลจังหวัดลำปาง คดีหมายเลขดำที่
769/2553 คดีหมายเลขแดงที่ 1380/2554 ว่า นายสุขเกษม สุริยา ได้กระทำความผิดฐาน บุกรุกพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ
ตามพระราชบัญญัติป่าไม้ และพระราชบัญญัติป่าสงวนแห่งชาติ และคดีถึงที่สุดแล้ว
จึงทำให้ มีลักษณะต้องห้ามตามมาตรา 12(11)และมีผลให้ต้องพ้นจากตำแหน่งตามมาตรา 14(2) แห่งพระราชบัญญัติ ลักษณะปกครองท้องที่ พระพุทธศักราช 2457 จึงเป็นผลให้มี คำสั่งให้ นายสุขเกษม สุริยา พ้นจากตำแหน่งผู้ใหญ่บ้าน หมู่ที่ 1 ตำบลสบป้าด
และต้องพ้นจากตำแหน่ง กำนันตำบลสบป้าดด้วย ( อ้างถึง
สำเนาหนังสือกรรมาธิการการปกครองวุฒิสภา ที่ สว (กมธ2)0010/1271 ลงวันที่ 27
กุมภาพันธ์ 2555 และ สำเนาหนังสือลำปาง
ลป 00171/706 ลงวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2555 )
ดังนั้น
จึงเห็นว่า นายสุขเกษม สุริยา ซึ่งขณะกระทำความผิด
พ.ร.บ. ป่าไม้ ได้ดำรงตำแหน่งกำนันตำบลสบป้าด เป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ
และ ถือว่าเป็นพนักงานเจ้าหน้าที่ตาม พ.ร.บ. ป่าไม้
และ พ.ร.บ. ป่าสงวนแห่งชาติ จึงเห็นว่า
เป็นผู้มีพฤติกรรมทุจริตต่อหน้าที่ และ ประพฤติมิชอบในวงราชการ
ทำให้ขาดคุณสมบัติสมัครรับเลือกตั้งนายก อบต. ตามพระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น
พ.ศ. 2545 ( รวมทั้งที่แก้ไขเพิ่มเติมถึงฉบับที่ 2 พ.ศ. 2546)มาตรา 45(7) และ มาตรา58/1(3)
แห่งพระราชบัญญัติ สภาตำบลและองค์การบริหารส่วนตำบล พ.ศ. 2537 (แก้ไขเพิ่มเติมถึง (ฉบับที่ 5) พ.ศ 2546) จึงให้ผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง นายอำเภอแม่เมาะ
พิจารณาตรวจสอบคุณสมบัติของนายสุขเกษม สุริยา ว่าเป็นผู้ขาดคุณสมบัติ
ตามที่กฎหมายกำหนดไว้หรือไม่ เพื่อมิให้เกิดความเสียหายต่อการบริหารงานดังเช่นกรณีที่ผ่านมา
หลังจากที่เข้ายื่นหนังสือต่อนายอำเภอแม่เมาะแล้ว
นายกริชยังได้เดินทางต่อไปยังศาลากลางจังหวัดเพื่อยื่นหนังสือต่อผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง
แต่เนื่องจากผู้ว่าราชการจังหวัดลำปางไม่อยู่จึงได้มอบผ่านนิติกรประจำจังหวัดแทน
ผู้สื่อข่าวได้สอบถามไปยัง
นายนรศักดิ์ สุขสมบูรณ์
นิติกรชำนาญการพิเศษ สำนักงานท้องถิ่นจังหวัดลำปาง กล่าวว่า
หลังจากได้รับหนังสือร้องเรียนแล้ว
ทางผู้ว่าราชการจังหวัดได้มีการสั่งการไปยังนายอำเภอแม่เมาะ ให้มีการตรวจสอบข้อเท็จจริงตามหนังสือร้องเรียนดังกล่าว
เนื่องจากเป็นอำนาจของนายอำเภอในการสืบสวนสอบสวนผู้บริหารท้องถิ่นในพื้นที่
ซึ่งจะต้องดำเนินการภายใน 30 วัน
ด้านสนามเลือกตั้งเทศบาล
ต.แม่เมาะ ผู้สมัคร เบอร์ 3 แจ้งความถูกกรีดทำลายป้ายหลายจุด
กกต.ขอความร่วมมือชาวบ้าน หากพบการกระทำผิด แจ้งเบาะแสได้ทันที
ขณะเดียวกันได้ส่งเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่หาข่าวอย่างใกล้ชิด
นางปาริชาติ
ศรีเมือง ผู้สมัครนายกเทศมนตรี ต.แม่เมาะ เบอร์ 3 กลุ่มรักษ์แม่เมาะ
ซึ่งป้ายหาเสียงถูกมือดีแอบทำลายถึงสองจุดดังกล่าว เปิดเผยว่า หลังจากเริ่มต้นออกหาเสียงได้เพียงไม่กี่วันก็ได้รับแจ้งจากทีมงานว่าป้ายหาเสียงของตนที่ติดตั้งไว้ที่บริเวณบ้านห้วยเป็ด
และบ้านสถานี ถูกมือดีไม่ทราบว่าเป็นใครใช้ของมีคมลักษณะคล้ายมีดกรีดจนป้ายได้รับความเสียหาย
ตนจึงไปสำรวจความเสียหายและถ่ายรูปเอาไว้เป็นหลักฐาน คาดว่าน่าจะมาจากผู้สนับสนุนผู้สมัครคนใดคนหนึ่งเจตนาทำลายจนป้ายหาเสียงได้รับความเสียหาย
คงเนื่องมาจากไม่ต้องการให้ชาวบ้านละแวกนั้นเห็นชัดว่ารูปที่อยู่ในป้ายหาเสียงนั้นเป็นใคร ส่วนที่จะเป็นศัตรูนั้นตนไม่เคยคิดเพราะไม่เคยมีศัตรูที่ไหน ตนมาตามแนวทางระบอบประชาธิปไตย คือการเลือกตั้งนโยบายที่ตนนำมาเสนอต่อพ่อแม่พี่น้องชาวแม่เมาะ
ในทุกๆเรื่อง ก็เป็นนโยบายที่จับต้องได้และ
ถ้าเห็นว่าเป็นนโยบายที่น่าจะสามารถทำได้จริงก็ขอให้สนับสนุนนางปาริชาติ ศรีเมือง ผู้สมัครนายกเทศมนตรีเบอร์
3 ได้มีโอกาสเข้าไปทำหน้าที่ในตำแหน่งนายกเทศมนตรี เพื่อ ต.แม่เมาะ
สำหรับเรื่องการทำลายป้ายหาเสียงตนได้มอบหมายให้ทีมงานนำหลักฐานไปแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ
สภ.แม่เมาะ เพื่อบันทึกไว้เป็นหลักฐานแล้ว
ส่วนตนและทีมงานก็ยังทำหน้าที่หาเสียงต่อไป ทุกวันถึงจะยอมรับว่าหนักและเหนื่อย
แต่ตนก็ยินดีเพราะต้องการให้ชาวบ้านได้รับทราบถึงแนวนโยบาย
โดยจะเน้นตามชุมชนต่างๆให้ครบทุกเขตเลือกตั้ง
ด้าน นายไมตรี ปาณะดิษ ประธาน กกต.จังหวัด
เปิดเผยว่า เมื่อเร็วๆนี้ตนและเจ้าหน้าที่ กกต.จังหวัดฝ่ายจัดการเลือกตั้งได้นัดหมายกับผู้สมัครนายกเทศมนตรี
และทีมงานหาเสียงของผู้สมัครทั้งสามคน ที่สำนักงานเทศบาลฯเพื่อประชุมชี้แจงให้รับทราบถึงข้อกำหนดในการหาเสียงว่าอย่างใดทำได้และอย่างใดทำไม่ได้
โดยให้เน้นการหาเสียงแบบสมานฉันท์ ซึ่งผู้สมัครทั้งสามคนต่างก็ยืนยันและรับปากแล้วว่าจะหาเสียงด้วยความบริสุทธิ์ยุติธรรมไม่ใช้วีการกลั่นแกล้งกัน ทาง กกต.ท้องถิ่นชุดนี้ก็มีความพร้อมอยู่แล้ว เพราะหนึ่งในกกต.เองก็เป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจที่มีหน้าที่สอดส่องดูแลอยู่ นอกจากนั้น กกต.จังหวัดได้ตั้งทีมงานขึ้นมาสองชุด
เป็นชุดป้องปรามและปราบปราม และชุดสอดส่องดูแล การทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง โดยเฉพาะการซื้อสิทธิ์ขายเสียงและการทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง
(หนังสือพิมพ์ลานนาโพสต์ฉบับที่ 949 วันที่ 25 - 31 ตุลาคม 2556)