พระลูกวัดทะเลาะกรรมการวัด ระแวงถูกว่าขโมยเงินบริจาค
บันดาลโทสะคว้ามีดไล่ฟันอาการสาหัส หลังก่อเหตุหายออกจากวัดไร้ร่องรอย
เจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งติดตามตัวคาดหนีกลับบ้านเกิดที่ จ.เชียงราย
เมื่อเวลาประมาณ 12.30 น. วันที่ 30 ต.ค.56 ร.ต.ท.ทรงวุฒิ
เกตุวงศ์ พนักงานสอบสวนเวร สภ.เมืองลำปาง
ได้รับแจ้งว่ามีคนถูกทำร้ายร่างกายด้วยของมีคมบาดแผลฉกรรจ์หลายแห่ง
บริเวณหน้าวัดศรีชุม ต.สวนดอก อ.เมือง จ.ลำปาง
จึงประสานเจ้าหน้าที่กู้ชีพโรงพยาบาลลำปาง และเจ้าหน้าที่กู้ภัยเทศบาลนครลำปาง
เร่งให้การช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ
เมื่อไปถึงพบชายวัยกลางคนนอนอยู่บริเวณประตูหน้าวัด
สวมเสื้อและกางเกงขายาวสีดำ สภาพลำตัวเปรอะเปื้อนไปด้วยเลือด มีบาดแผลฉกรรจ์ถูกฟันเข้าบริเวณลำคอข้างซ้ายยาวกว่า
10 เซนติเมตร จนถึงเส้นเลือดใหญ่ รวม 3-4 แผล ทราบชื่อต่อมาคือ
นายสงกรานต์ แก้วไน อายุ 48 ปี อยู่บ้านเลขที่
112 หมู่ 1 ต.ชมพู อ.เมือง จ.ลำปาง เจ้าหน้าที่กู้ชีพต้องรีบห้ามเลือดและนำตัวส่งโรงพยาบาลอย่างเร่งด่วน
เพื่อช่วยชีวิตผู้บาดเจ็บ
จากการสอบถามผู้เห็นเหตุการณ์ ทราบว่า ผู้ก่อเหตุคือ พระณรงค์ศักดิ์
โลหิตภาโร อายุ 46 ปี เป็นพระลูกวัดเข้ามาอยู่ที่วัดเมื่อปี 2554 ส่วนนายสงกรานต์
ได้เปิดร้านขายของอยู่ด้านหน้าวัด และมีตำแหน่งเป็นกรรมการวัดจะเข้ามาช่วยงานในวัดอยู่เป็นประจำ
ซึ่งพระณรงค์ศักดิ์ มักจะมีปากเสียงกับนายสงกรานต์ บ่อยครั้ง โดยในวันเกิดเหตุครบกำหนดในการเปิดหีบตู้บริจาคพอดี
ทางไวยาวัจกร กรรมการวัด และพระสุรพล ขันติสะโห ก็ได้มานับเงิน ได้ทั้งหมด 14,000 บาท เพื่อจะได้นำเงินไปฝากที่ธนาคาร และได้พูดคุยกันว่าเงินบริจาคน้อยลง
และพอดีกับพระณรงค์ศักดิ์ เดินเข้ามาได้ยิน คาดว่าอาจเกิดความระแวงว่าตัวเองเป็นคนเอาเงินไป
เลยเกิดทะเลาะวิวาทกันขึ้น จากนั้นพระณรงค์ศักดิ์
ได้นำมีดพร้าเข้าฟันนายสงกรานต์ เข้าที่ร่างกายหลายแห่ง
นายสงกรานต์จึงพยายามวิ่งหนีออกมานอกวัด โดยมีพระสุรพล
ขันติสะโห ช่วยเหลือห้ามปราม
ทำให้ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้าตรวจสอบภายในกุฏิของพระณรงค์ศักดิ์แต่ไม่พบตัว
รวมทั้งอาวุธที่ใช้ก่อเหตุก็หายไปด้วย ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ออกติดตามตัวตามสถานีขนส่งผู้โดยสารและคิวรถต่างๆ
เพราะคาดว่าพระณรงค์ศักดิ์อาจจะขึ้นรถหลบหนีกลับบ้านเกิดที่ จ.เชียงราย ซึ่งตามตัวไม่พบแต่อย่างใด
ทั้งนี้ เมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา พระณรงค์ศักดิ์
เคยก่อเหตุใช้มีดดายหญ้าไล่ฟันเจ้าอาวาสมาแล้วครั้งหนึ่ง
แต่เจ้าอาวาสไม่ได้รับบาดเจ็บเพราะวิ่งหลบหนีได้ทัน สาเหตุจากเกิดทะเลาะวิวาทกันบ่อยครั้ง
เจ้าอาวาสจึงมีคำสั่งย้ายพระณรงค์ศักดิ์ให้ไปจำวัดอยู่ที่อื่น จึงเกิดความไม่พอใจ ซึ่งหลังเกิดเหตุทางเจ้าหน้าที่จึงเจ้ามาไกล่เกลี่ยและยอมความกัน
จนกระทั่งมาก่อเหตุอีกในครั้งนี้
(หนังสือพิมพ์ลานนาโพสต์ฉบับที่ 950 วันที่ 1 - 7 พฤศจิกายน 2556)