เก็บความทุกข์
วุ่นวายในชีวิต ไว้ในลิ้นชักชั่วคราว แล้วควบรถเก่าเพื่อนยาก ไต่ไปบนถนนสายลำปาง –
เมืองปาน ใช้เวลาราวชั่วโมงเศษๆ ขับรถกินลมชมวิว เลียบขุนเขาใหญ่
ก็ถึงแจ้ซ้อน อุทยานแห่งชาติของเมืองลำปาง
ลมหนาววูบไหวมาต้อนรับในนาทีแรกที่ผ่านเข้าไป จากนาทีนั้น ชีวิตก็โอบล้อมไว้ด้วยป่าใหญ่
น้ำค้างเย็นยะเยือก น้ำพุร้อนระอุที่บ่อน้ำ
โรยตัวด้วยละอองขาวแทรกเข้าไปในสายลมหนาว นี่คือสวรรค์บนดินโดยแท้
ลำปางหนาวมาก แต่ลำปางหลายปีที่ผ่านมา
ไม่หนาวมากเท่าที่คิด ผิดกับปีนี้ ที่ลำปางหนาวแล้ว
ลำปางหนาวแล้ว วลียอดฮิตที่ใช้ไม่ได้กับปีที่ผ่านมาเพราะปีนั้นจำได้ว่าฉลองปีใหม่แบบเหงื่อแตกผลั่ก
มาถึงหนาวนี้ช่วงต้นเดือนธันวาคมสามารถสัมผัสได้ถึงความเย็นของลมหนาวโบกพัดมา
เป็นสัญญาณให้คนต่างถิ่นออกท่องเที่ยวเมืองเหนือ
ยิ่งในช่วงวันหยุดปีใหม่ปลายปีนี้ที่กำหนดให้วันจันทร์ที่ 30 ธันวาคม 2556
เป็นวันหยุดราชการเพิ่มเป็นกรณีพิเศษอีก 1 วัน ทำให้มีวันหยุดต่อเนื่อง 5 วัน
ตั้งแต่วันเสาร์ที่ 28 ธันวาคม 2556 - วันพุธที่ 1 มกราคม 2557 ทั้งนี้
เพื่อให้เกิดการขับเคลื่อนทางเศรษฐกิจและสนับสนุนภาคธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยว
การขับรถเที่ยวแบบฉิ่งฉับทัวร์
โดยวางเป้าหมายการค้างอ้างแรมเป็นอุทยาน
เป็นกิจกรรมหนึ่งสำหรับครอบครัวทั้งขนาดเล็ก ขนาดใหญ่
ที่นับวันจำนวนผู้คนที่โหยหาธรรมชาติเริ่มมีมาขึ้น ดังนั้น Outdoor
Activity ทั้งหลายจึงได้รับความนิยมทั้งการแคมป์ปิ้ง ขี่จักรยาน
กิจกรรมที่ไม่เน้นความหรูหราแต่เน้นความสัมพันธ์ในครอบครัวที่นานทีจะหาจังหวะวันหยุดยาวที่ตรงกันยกขบวนไปพักผ่อน
อุทยานแห่งชาติแจ้ซ้อนจังหวัดลำปาง จึงเป็นหนึ่งในเป้าหมายที่ใครหลายคนปรารถนา
อุทยานแห่งชาติแจ้ซ้อนเป็นแหล่งธรรมชาติที่คงสภาพป่าไว้ได้อย่างสมบูรณ์
อยู่ห่างจากตัวจังหวัดลำปาง 70 กม. ตั้งอยู่ต.แจ้ซ้อน อ.เมืองปาน จ.ลำปาง
ได้รับรางวัล “อุทยานแห่งชาติดีเด่นประจำปี 2543
” ตามที่กรมป่าไม้ได้จัดงานวัน สถาปนากรมป่าไม้ครบรอบ 104 ปี
เมื่อวันที่ 18 กันยายน 2543 โดยได้จัดประกวดอุทยานแห่งชาติ ดีเด่นด้านการ
ท่องเที่ยวประจำปี 2543 นอกจากนี้อุทยานแห่งชาติแจ้ซ้อนนอกจากจะได้รับรางวัลอุตสาหกรรมท่องเที่ยว
(Tourism Awards) ปี 2543
ประเภทแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติยอดเยี่ยมในด้านการออกแบบ สิ่งอำนวยความ สะดวกใน
อุทยานฯ ได้อย่างกลมกลืนกับธรรมชาติแล้ว สภาพแวดล้อมภายในอุทยานฯ
ยังตกแต่งได้อย่าง สวยงามไม่แพ้รีสอร์ท เอกชน
เหมาะสำหรับผู้ที่จะไปเที่ยวแบบครอบครัว สามารถเที่ยวได้ตลอดปี
สถานที่แห่งนี้เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมในช่วงหน้าหนาวเพราะที่แห่งนี้มีทั้งน้ำตกแจ้ซ้อน
มีเส้นทางสำหรับเดินศึกษาธรรมชาติ หลังจากไปรับลมเย็นละอองน้ำ เล่นน้ำตกแล้ว
ก็มาแช่น้ำแร่ต่อ ที่นี่จะบ่อน้ำแร่กลางแจ้ง บ่อรวม และห้องอาบน้ำแร่ส่วนตัว
แช่ตัวเพื่อผ่อนคลายความเหนื่อยล้า
จากนั้นก็ไม่ต่อด้วยการนวดแผนโบราณที่กลุ่มคนท้องถิ่นรวมตัวกันเพื่อเป็นรายได้พิเศษ
มีทั้งนวดตัว นวดฝ่าเท้า
จำได้ว่าปีนึง แร็ค ลานนา ไปนวดตัว
ลากเบาะนวดไปนอนนวดกลางแจ้งใต้ร่มไม้ (เพราะคนเยอะในศาลานวดเต็ม) ขอบอกว่า ฟิน
ผุดผุด นวดตัว อากาศเย็น ฟังเสียงนกร้อง เคล้าเสียงน้ำตก
โอย...สวรรค์น้อยๆล่ะคุณเอ้ย

เมื่อสบายตัวสบายท้อง
ก็ได้เวลาปูเสื่อห่มผ้านอนดูดาวเมาท์มอยกันท่ามกลางบรรยากาศสบายๆเย็น หนาวก็ม้วนตัวกลับเข้าเต้นท์ซุกตัวใต้ผ้าห่ม
หลับสบายแบบไม่ต้องง้อแอร์ที่บ้าน
กลางดึกอากาศจะเริ่มหนาวได้ยินเสียงหยดน้ำค้างกระทบเต้นท์ดังเปาะ...แปะ...ตื่นเช้ามารับอากาศสดชื่น
หนาวน้ำค้าง เฮ้อ....คิดแล้วก็อยากไปอีก
พี่พิราวรรณ กำลังกล้า ทำงานที่อุทยานแห่งชาติตั้งแต่ปี 2538 บอกว่า เธอเต็มใจให้บริการนักท่องเที่ยวด้วยใจ อยากให้นักท่องเที่ยวมีความสุข สะดวกสบาย ใส่ใจนักท่องเที่ยวที่โทรมาจองเต้นท์ชนิดฟังเสียงก็คุ้นหู หรืออย่างวันก่อนคุณชรินทร์ (นักท่องเที่ยวจากกรุงเทพ)จองเต้นท์ไว้พอถึงเวลาจะเลิกงานก็ว่าจะโทรหาเพราะคุณชรินทร์ยังไม่มาแต่คุณ ชรินทร์ก็ติดต่อมาก่อน
นักท่องเที่ยวแจ้งว่าจะเดินทางมาถึงช้าหน่อยก็อยู่รอจนถึงสองทุ่มและรอให้บริการนักท่องเที่ยวคนอื่นๆที่ทยอยเดินทางมาถึง
เพื่ออำนวยความสะดวกเรื่องเต้นท์ และอุปกรณ์ที่นอนหมอนผ้าห่ม และมีพี่สมเดช วุฒิ
ที่พร้อมช่วยอำนวยความสะดวกยกไปถึงที่
เจ้าหน้าที่ร้านค้าสวัสดิการก็มีอัธยาศรัยไมตรีดี
เพียงแค่นี้ก็ทำให้สถานที่เที่ยวธรรมดา
กลายเป็นที่สำหรับการพักผ่อนที่ดีที่สุดโดยที่ไม่ต้องเสียเงินไปกับโรงแรมหรูหรา
ราคาแพงๆ
แม้เพียงเวลาสั้นๆ มาห่มหนาวที่ราวป่า
มาห่มฟ้าที่แจ้ซ้อน ก็พอเป็นเสบียงแห่งความสุข เก็บไว้กินไว้ใช้ ได้ทั้งปี
(หนังสือพิมพ์ลานนาโพสต์ฉบับที่ 956 13 - 19 ธันวาคม 2556)