ผลคะแนนการเลือกตั้ง
ส.ส.ลำปาง อย่างไม่เป็นทางการ พรรคเพื่อไทยชนะทั้ง 4 เขต ตามคาด ดาชัยแห้วคะแนนมาอันดับ 2 บอลโวยคะแนนหายนับหมื่น มั่นใจถูกโกง
เมื่อวันที่ 2 ก.พ.57
ที่ผ่านมา ซึ่ง กกต.กำหนดให้เป็นวันเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรทั้งแบบบัญชีรายชื่อ
และแบบแบ่งเขตเลือกตั้ง ที่ จ.ลำปาง มี 4
เขต เลือกตั้งด้วยกัน โดยมีผู้สมัครจากพรรคเพื่อไทย พรรคชาติพัฒนา
พรรคพลังประเทศไทย พรรคเงินเดือนประชาชน พรรคเสียงประชาชน พรรคประชาธิปไตยใหม่
ลงรับสมัครเลือกตั้งกระจายไปทั้ง 4 เขต แม้การเลือกตั้งครั้งนี้จะไม่คึกคักเหมือนครั้งก่อน
แต่ทางผู้ว่าราชการจังหวัด ได้สั่งการเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายคอยเฝ้าติดตามสถานการณ์ตลอด
24 ชั่วโมง แต่ทุกอย่างก็ราบรื่นด้วยดี
ประชาชนออกจากบ้านทยอยมาใช้สิทธิ์ของตัวเองตั้งแต่เช้าจนถึงเวลาปิดหีบ
ซึ่งผลการนับคะแนนอย่างไม่เป็นทางการจากหน่วยงานภาครัฐ
ปรากฏว่า ผู้สมัครจากพรรคเพื่อไทย เบอร์ 15
ชนะทั้ง 4 เขต คือ เขต 1
นายกิตติกร โล่ห์สุนทร พรรคเพื่อไทย ได้
38,505 คะแนน ส่วนนายบอล ถาคำฟู
จากพรรคชาติพัฒนาได้ 15,474 คะแนน , เขต
2 นายวาสิต พยัคฆบุตร พรรคเพื่อไทย ได้ 30,089 คะแนน นายสุทัศน์ ยวนตา
พรรคพลังประเทศไทย ได้ 16,726 คะแนน
นายธนาวุฒิ เป็งขวัญ พรรคชาติพัฒนา ได้ 13,047 คะแนน , เขต 3 นายจรัสฤทธิ์ จันทรสุรินทร์ พรรคเพื่อไทย ได้
48,869 คะแนน นายศรีลัย ท่าคล่อง
พรรคชาติพัฒนา ได้ 13,711 คะแนน น.ส.นริสา ทองประสิทธิ พรรคพลังประเทศไทย ได้
10,647 คะแนน และ เขต 4 นายอิทธิรัตน์
จันทรสุรินทร์ พรรคเพื่อไทย ได้ 57,880 คะแนน
นายณัฐชัย อินทราย พรรคพลังประเทศไทย ได้ 12,397 คะแนน ส่วนคะแนนระบบบัญชีรายชื่อนั้น จากรายงานทราบว่า
พรรคเพื่อไทยได้ประมาณ 200,000 คะแนน พรรคพลังประเทศไทย ได้ประมาณ 20,000 คะแนน ทั้งนี้ ยังไม่รวมคะแนนล่วงหน้า
เนื่องจากต้องรอการเลือกตั้งซ่อมสำหรับเขตที่ไม่สามารถจัดการเลือกตั้งได้ ในวันที่
23 ก.พ.อีกครั้งหนึ่ง
นายบอล
ถาคำฟู ผู้สมัครเขต 1 พรรคชาติพัฒนา เปิดเผยว่า ได้ติดตามผลคะแนนจากหน่วยเลือกตั้งตามอำเภอรอบนอก
ซึ่งยังขาดหน่วยเลือกตั้งในเขตเทศบาลนครลำปางอยู่อีก 100
กว่าหน่วยที่ยังไม่ได้เก็บคะแนน ตนก็ได้คะแนนมากกว่า 16,000
คะแนนแล้ว
ขณะที่ตามเก็บคะแนนยังไม่เสร็จมีหลายหน่วยที่รีบเก็บกระดานออกไปจึงไม่ได้คะแนนรวมทั้งหมด
แต่เมื่อเห็นคะแนนที่ทางแหล่งข่าวส่งมาให้ว่าตนได้ 15,474
คะแนน ซึ่งเป็นไปไม่ได้ เพราะทาง ต.บ่อแฮ้ว
ไปจนถึง ต.บุญนาคพัฒนาได้มา 11,000 คะแนนแล้ว ถ้ารวมทาง
อ.ห้างฉัตร ได้มาเกือบ 5,000 คะแนน ในเขตเทศบาลนครจะไม่ได้สักคะแนนเลยหรือ
สำหรับเอกสารที่นำขึ้นทางเฟสบุ๊กนั้นก็ไม่ทราบว่าเป็นเอกสารจริงหรือไม่
เพราะมีคนส่งมาให้อีกต่อหนึ่ง แต่เมื่อมาดูเอกสารที่มีลายเซ็นของ ผอ.กกต.ลำปาง
ข้อมูลตัวเลขของผู้ใช้สิทธิพบว่าตัวเลขตรงกัน จึงคิดว่ามีโอกาสเป็นไปได้สูงที่เอกสารออกมา
กกต.
“ผมมั่นใจว่าโดนโกงแน่นอน
แต่ยังพิสูจน์ไม่ได้ว่าโกงอย่างไร
เพียงแค่เปรียบเทียบกับผู้สมัครของพรรคชาติพัฒนาในเขต 3 ซึ่งไม่มีใครรู้จัก เพราะเป็นราษฎร อ.วังเหนือ
แต่มาลงสมัครในเขตเลือกตั้งที่ 3 ไม่ได้มีการหาเสียง
ไม่มีการติดตั้งป้าย ไม่มีรถแห่ แต่ได้คะแนนมา 13,700
กว่าคะแนน
ในขณะที่ผมทำวิธีการหาเสียงอย่างต่อเนื่อง และโพลต่างๆก็ชี้ว่าผมมีคะแนนนำ
เลยงงว่าโพลผิดขนาดนี้เลยเหรอ ซึ่งมีหลายประเด็นที่ทำให้สงสัย
รีบเก็บคะแนนที่หน่วยเร็ว และเก็บคะแนนที่สถานีตำรวจ โดยอ้างว่าเป็นคำสั่งของ กกต.
เมื่อขอข้อมูลจาก กกต.ก็ไม่ได้อ้างว่าไม่ให้รวมคะแนน ผ่านไปอีก 20 วันก็คงจะทำอะไรก็ได้ ตอนนี้ก็ร้องเรียนไม่ได้
เพราะไม่มีการประกาศคะแนน ต้องรอวันที่ 23 ก.พ.
ซึ่งระหว่างที่รอใครทำอะไรไปแล้วบ้างก็ไม่รู้ ดูแล้วก็รู้ว่าผมแข่งยังไงก็ไม่ชนะถ้ายังเป็นเช่นนี้อยู่”
บอล กล่าว
นายบอล
กล่าวอีกว่า ดูเหมือนว่ามีการตั้งธงไว้แล้ว คะแนนของตนเองหายไปเป็นหมื่นคะแนน
คะแนนจากเทศบาลนครลำปางหายไปไหนจาก 28,000 คะแนน ถ้าการเมืองยังเป็นอย่างนี้ประเทศชาติอยู่ลำบาก
ไม่แปลกใจว่าทำไมถึงมีม็อบเป่านกหวีด
คุณชวนผมเล่นในกติกาแต่คุณโกงกติกาแล้ววันหลังใครจะเล่นกับคุณ คิดว่าการเลือกตั้งครั้งนี้มีความเป็นไปได้สูงที่จะเป็นโมฆะ
ด้านนายจรัสฤทธิ์
จันทรสุรินทร์ ผู้สมัคร เขต 3
พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ดูแล้วในทุกหน่วยเลือกตั้งมีคะแนนนำทุกหน่วย
ถือว่าพอใจกับคะแนนในครั้งนี้มาก
ในขั้นตอนการนับคะแนนจะมีตัวแทนของพรรคการเมืองที่สังเกตการณ์อยู่
ผู้สมัครสามารถแจ้งรายชื่อไปยัง กกต.เพื่อให้ตัวแทนเข้าไปสังเกตการณ์ได้
และยังมีกรรมการประจำหน่วยอยู่แล้วที่คอยดูแลอยู่
คิดว่าการตรวจสอบมีครบถ้วนอยู่แล้ว
ถ้าเกิดว่าไม่ได้ใช้สิทธิในการสังเกตการณ์ก็จะไม่ทราบได้ว่าแต่ละหน่วยมีปัญหาหรือไม่อย่างไร
หากพบปัญหาก็สามารถร้องคัดค้านได้ในตอนนั้นเลย
จึงคิดว่าขั้นตอนการนับคะแนนไม่น่าจะมีปัญหาอะไร
ในส่วนที่จะต้องรอประกาศผลคะแนนในวันที่ 23
ก.พ.ก็ไม่น่ามีปัญหาเช่นกัน
เพราะเราได้ส่งตัวแทนไปประจำหน่วยเลือกตั้งและจดบันทึกไว้เป็นหลักฐานทุกหน่วย คะแนนต้องตรงกับที่กรรมการประจำหน่วยนับด้วย
สำหรับการเลือกตั้งครั้งนี้เป็นการเลือกตั้งที่ไม่ปกติ
มีกลุ่มเรียกร้องให้ปฏิรูปการเมืองก่อนการเลือกตั้ง ทำให้มีคะแนนโหวตโนสูง
และบัตรเสียจำนวนมาก เนื่องจาก กกต.ไม่ได้รณรงค์ประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนได้รับทราบ
ในครั้งนี้มีพรรคการเมืองลงสมัคร 50 กว่าพรรค
ในใบลงคะแนนมีช่องลงคะแนน ตัวหนังสือ และสัญลักษณ์ของพรรคการเมืองเล็กมาก ทำให้ผู้สูงอายุอาจจะสายตาไม่ดี
ไม่เห็นตัวเลข ก็มีส่วนทำให้เป็นบัตรเสียไปได้ รวมทั้งผู้มาใช้สิทธิก็น้อยลงด้วย
นายจรัสฤทธิ์
กล่าวอีกว่า มีความเชื่อมั่นว่าอดีตสมาชิกพรรคเพื่อไทยทุกคนที่เป็น
ส.ส.ได้ทำไว้ จะได้มาสานต่อให้กับประชาชน เรามีความมุ่งมั่นและตั้งใจ
ในอนาคตที่รัฐบาลภายในการนำของพรรคเพื่อไทยได้ชูนโยบายการพัฒนาด้านโครงการพื้นฐาน
รถไฟความเร็วสูง การพัฒนาระบบรถไฟรางคู่ ในอนาคตสามารถขนส่งสินค้าเกษตร
อุตสาหกรรมฯลฯ เชื่อมโยงระหว่างภูมิภาคได้
ลำปางก็จะเป็นศูนย์กลางกระจายสินค้าไปยังจังหวัดต่างๆ
และยังนำสินค้าจากต่างประเทศเข้ามาขายในประเทศได้อีกด้วย
เมื่อสอบถามถึงการยื่นเสนอให้เลือกตั้งเป็นโมฆะ นายจรัสฤทธิ์ ให้ความเห็นว่า ก่อนการเลือกตั้ง กกต.ได้ประเมินการเลือกตั้งในวันที่
2 ก.พ.ไว้ว่าจะมีเหตุการณ์ร้ายแรง
แต่เหตุการณ์ก็ไม่ได้รุนแรงอย่างที่คาดคิด มีผู้มาใช้สิทธิมากพอสมควร
สิ่งที่เกรงว่าจะเกิดปัญหาว่าจะมีการโมฆะหรือไม่
ขณะนี้ทราบว่าได้มีการยื่นศาลรัฐธรรมนูญให้ตีความในเรื่องของการเลือกตั้งทั่วไปต้องมีครั้งเดียว
ซึ่งความเห็นส่วนตัวคิดว่าเขตเลือกตั้งไหนที่มีปัญหาก็น่าจะจัดการเลือกตั้งในเขตนั้นไป
เชื่อว่าศาลเข้าใจ เพราะมีเวลาแก้ไขปัญหาใน 180 วัน การเลือกตั้งเป็นโมฆะคงจะไม่เกิดขึ้น
(หนังสือพิมพ์ลานนาโพสต์ฉบับที่ 964 7-13 กุมภาพันธ์ 2557)