โจรใจกล้าปีนรั้วบ้านพักรองผู้กำกับ
ป. สภ.ไชยปราการ หันกล้องวงจรปิดเข้ามุมอับ แล้วลงมือทุบกระจก กรีดมุ้งลวด
บุกเข้าบ้านฉกเหล้าต่างประเทศ
ไปกองทิ้งไว้ข้างกำแพงบ้าน แต่เอาไปได้แค่โน้ตบุ๊กเครื่องเดียว เจ้าตัวเผยเป็นครั้งที่
2 ในรอบ 2 เดือน
เมื่อเวลา
16.40น.วันที่ 9 พ.ค.57 ร.ต.ท.จักรตุลย์ ทองกิ่ง พนักงานสอบสวน สภ.เมืองลำปาง
รับแจ้งมีเหตุคนร้ายบุกเข้าไปลักทรัพย์สินในบ้านเลขที่ 353/3 หมู่บ้านสุขสวัสดิ์
ถ.สุขสวัสดิ์ ต.พระบาท อ.เมือง จ.ลำปาง จึงออกไปทำการสอบสวนร่วมกับตำรวจชุดสืบสวน
สภ.เมือง ฯ พบ พ.ต.ท.ชำนาญ พุ่มไพจิตร รอง.ผกก.ป. สภไชยปราการ จ.เชียง ใหม่
ยืนรอเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่หน้าบ้าน
จากนั้นจึงนำพนักงานสอบสวนเดินไปทางกำแพงรั้วบ้านด้านทิศตะวันออกชี้ให้ดูกล้องวงจรปิด
2 ตัวที่ติดตั้งไว้ใต้เพดานหลังคาบ้าน ซึ่งคนร้ายปีนขอบผนังปูนขึ้นไปบิดตัวกล้องให้หันหน้าไปทางมุมอับ
เพื่อไม่ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเห็นใบหน้าของคนร้าย ส่วนที่ประตูบานเลือนข้างบ้านพบร่องรอยการทุบกระจกจนแตกเสียหายไป
1 บาน พร้อมกับใช้มีดกรีดมุงลวดมุกเข้าไปในตัวบ้าน
นอกจากนี้เจ้าของบ้านยังพาเจ้าหน้าที่ตำรวจไปดูกระเป๋าใส่เสื้อผ้าขนาดใหญ่ใบหนึ่งที่เปิดอ้าเอาไว้พบข้างในมีสุราต่างประเทศหลายยี่ห้อรวม
11 ขวดด้วยกันบรรจุภายในซึ่งคนร้ายไม่ได้นำไปด้วย
เมื่อเจ้าหน้าที่ฯจึงเข้าไปตรวจภายใบบ้านก็พบว่าคนร้ายปีนโต๊ะข้างประตูห้องนอนขึ้นไปทุบกระจกเหนือบานประตูจนแตกแล้วมุดลอดเข้าไปลื้อค้นเอาสุราต่างประดังกล่าวพร้อมกับโน๊ตบุ๊กอีก
1 เครื่องออกไปด้วย ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจสันนิฐานว่า
คนร้ายน่าจะบุกเข้าบ้านในช่วงเวลากลางดึกที่ผ่านมา เพื่อค้นหาสิ่งของมีค่า แต่เมื่อหาไม่พบจึงหันไปขโมยเอาสุราฯกับโน๊ตบุ๊ค
ใส่กระเป๋าเสื้อผ้าใบใหญ่ขนออกไปข้างรั้วบ้านหวังจะแบกข้ามรั้ว
แต่เนื่องจากกระเป๋ามีน้ำหนักมากเกินไป
คนร้ายจึงต้องทิ้งสุราเอาไว้ที่รั้วบ้านนั่นเอง
และหยิบไปแค่โน๊ตบุ๊คเพียงเครื่องเดียวเท่านั้น
ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้เก็บพยานหลักฐานเป็นรอยนิ้วมือและรอยรองเท้าผ้าใบที่ติ
เอยู่ตามรั้วบ้าน
ผนังปูนเอาไว้เป็นหลักฐานในการสืบหาตัวคนร้ายรายนี้แล้ว
ต่อมา
รอง.ผกก.ป. สภ.ไชยปราการ เจ้าของบ้านได้กล่าวว่า
ครั้งนี้เป็นรอบที่สองแล้วที่คนร้ายบุกเข้าบ้านมาขโมยของมีค่าออกไป
โดยครั้งแรกเมื่อกลางเดือนเมษายนที่ผ่านมาตนเองได้กลับมาดูแลบ้านตามปกติก็พบว่า
คนร้ายทุบกระจกหน้าต่างห้องน้ำมุดเข้าไปลักเอาพระเครื่องกว่า 100
องค์ที่อยู่ในตู้โชว์กลางห้องรับแขก และสุราต่างประเทศอีก 1
ขวดไปและคนร้ายก็ยังทิ้งมีดยาวประมาณ 1ฟุตเอาไว้ให้ดูต่างหน้าอีกด้วย
แต่ครั้งนั้นตนเองไม่ได้แจ้งความเอาไว้ เนื่องจากเห็นว่าของคนร้ายเอาไปมีไม่มาก
และพระเครื่องที่หายไปทั้งหมดส่วนใหญ่ก็เป็นพระรุ่นใหม่ๆทั้งนั้น
ส่วนสุราต่างประเทศก็มีราคาไม่ถึงพันบาท ตนจึงไม่ได้ติดใจอะไร
แต่มาวันนี้บ้านก็ยังคงถูกงัดอีกเป็นรอบที่สอง
ซึ่งคาดว่าคนร้านน่าจะเป็นรายเดียวกันเพราะคงจะรู้ว่าบ้านไม่มีผู้อยู่อาศัยและเข้าออกได้สะดวก
ซึ่งก็ต้องฝากเจ้าหน้าที่ตำรวจช่วยติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมายให้ด้วย
จะได้หลาบจำไม่คิดจะไปลักขโมยของใครอีกต่อไป
(หนังสือพิมพ์ลานนาโพสต์ฉบับที่ 978 ประจำวันที่ 16 - 22 พฤษภาคม 2557)