ดาชัยขึ้นศาลนัดแรก
ตรวจสอบพยานหลักฐาน ด้านผู้เสียหายแห่แสดงหลักฐานการโอนเงินเพิ่ม
และร่วมเป็นโจทก์ยื่นฟ้อง 5 ราย หวังได้เงินคืนเต็มจำนวน
ขณะที่ศาลไม่ให้ประกันตัวดาชัยโดยไม่มีเหตุผล นัดตรวจสอบพยานหลักฐานอีกครั้ง 24 พ.ย.57
เมื่อวันที่
6 ต.ค.57
ที่ผ่านมา ที่ ห้องพิจารณาคดี ที่ 18 ชั้น 3 ศาลจังหวัดนครราชสีมา
ผู้พิพากษา ได้เรียกตรวจสอบพยานหลักฐาน ผู้ที่เกี่ยวข้องในคดี โกงสอบตำรวจ
สังกัดตำรวจภูธรภาค 3 ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตั้งแต่ปี พ.ศ.2555
โดยทางศาลได้เรียกทั้งผู้เสียหาย ซึ่งเป็นผู้ที่เข้าสอบตำรวจ ที่เสียเงินเพื่อแลกกับการสอบผ่านได้เป็นข้าราชการตำรวจ
เข้าพบเพื่อตรวจสอบพยานหลักฐาน
และเปิดโอกาสให้ผู้เสียหายได้นำหลักฐานมายืนเพิ่มเติมให้ด้วย
และยังได้เปิดโอกาสให้ทางผู้ถูกฟ้องคดีนำหลักฐานมายื่นเพิ่มเติมด้วยเช่นกัน
โดยในคดีดังกล่าวมีผู้เสียหายรวม
44 คน ที่ยอมเสียเงินเพื่อแลกกับการได้เป็นตำรวจ และมีผู้ที่ตกเป็นผู้จำเลย 16 คน
ประกอบด้วย นางเตือนใจ เตือนใจ พงษ์พันธ์ เป็นจำเลย ที่ 1
และมีบุคคลสำคัญในคดีนี้อีก 1 คน คือ นายดาชัย อุชุโกศลการ อายุ 42 ปี
อยู่บ้านเลขที่ 1/8 หมู่ 2 ต.ปงเตา อ.ลำปาง จ.ลำปาง ซึ่งเป็นผู้สมัครนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดลำปาง
ในสมัยนั้น เป็นจำเลยที่ 6 ซึ่งคาดว่าจะเป็นจำเลยคนสำคัญที่สุดในคดีนี้
เนื่องจากถูกซัดทอดว่าเป็นผู้บงการใหญ่ ส่วนผู้ต้องหาที่เหลือเป็นผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องในพฤติกรรมการก่อเหตุที่เป็นองค์ประกอบในคดีดังกล่าว
ในการตรวจสอบพยานหลักฐานดังกล่าว
ได้มีผู้เสียหายรวม 4 ราย ที่เดินทางมายืนหลักฐานเพิ่มเติม
โดยส่วนใหญ่เป็นหลักฐานเกี่ยวกับการโอนเงินให้กลุ่มผู้ต้องหา ที่ในชั้นสอบสวนแจ้งไว้เพียงบางส่วนรายละประมาณ
1 แสนบาท ซึ่ง ไม่ตรงตามจำนวนที่โอนเงินให้จริง จึงรวบรวมหลักฐานมายืนเพิ่มเติมในส่วนของความเสียหาย
หรือเงินที่เสียในการสอบตำรวจครั้งดังกล่าวส่วนใหญ่อยู่ระหว่างรายละ 2.5-3.5
แสนบาท โดยหวังเพื่อจะได้เงินคืนมาเต็มจำนวน
นอกจากนี้ยังมีผู้เสียหายบางส่วน
ซึ่งมีประมาณ 5 คน ที่ยื่นขอเป็นโจทย์ร่วม
เพื่อร่วมกับทางอัยการฟ้องดำเนินคดีกับผู้ต้องหาด้วย
โดยส่วนใหญ่ผู้เสียหายที่ขอเป็นโจทย์ร่วมก็เนื่องจากเกรงจะไม่ได้เงินคืนตามจำนวนที่เสียไป
โดยทางศาลได้ทำการพิจารณา ตรวจสอบสำนวนในคดีดังกล่าว และคดีอื่น ๆ
ที่ทำการตรวจสอบสำนวนร่วมกันอีก 4 คดี โดยใช้เวลากว่า 3 ชั่วโมง จริงเสร็จสิ้น
โดยทางผู้พิพากษา ได้นัดสืบพยาน อีกครั้งในวันที่ 24 พ.ย.57 ที่จะถึงนี้
โดยจะนัดทั้งในส่วนผู้เสียหาย และจำเลย มาทำการตรวจสอบพยานหลักฐานในวันเดียวกัน
หลักจากเลิกศาลผู้สื่อข่าวได้เข้าไปสอบถามจากทางทนายของจำเลย
เกี่ยวกับเรื่องการขอยื่นประกันตัว ผู้ต้องหา โดยเฉพาะอย่างยิ่งนายดาชัย
ซึ่งเป็นผู้ต้องหารายสำคัญ ได้ข้อมูลเพียงว่า ก่อนหน้าได้พยามขอยื่นประกันตัวผู้ต้องหาในชั้นศาลมาแล้ว
แต่ทางศาลไม่ให้ประกันตัว ซึ่งไม่ทราบว่าเป็นเพราะเหตุอะไร เนื่องจากทางจำเลยส่วนใหญ่มีงานทำเป็นหลักฐาน
และไม่มีพฤติกรรมที่จะหลบหนีด้วย
จึงไม่ทราบว่าเป็นเพราะเหตุใดเหมือนกันจึงไม่ให้ประกันตัว และ
คงจะต้องเตรียมปรึกษาทางญาติหาทางติดต่อขอประกันตัวต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงาน
เพิ่มเติมว่า คดีโกงสอบตำรวจ ถูกเปิดเผย วันที่ 10 มิ.ย. จากที่มีการสอบบรรจุนักเรียนนายสิบตำรวจ
ประจำปี 2555 ทั่วประเทศรับ 1,200 อัตรา โดยในสังกัดกองบัญชาการตำรวจนครบาลอีก 510
อัตรา และสังกัดตำรวจภูธรภาค 3 รับ 690 อัตรา
โดยในความรับผิดชองของสำนักงานตำรวจภูธรภาค 3 มีผู้สมัครสอบมากกว่า 36,000 คน
ซึ่งในส่วนของของ ภาค3 รับ 690 คน และยังได้ดำเนินการสอบให้ของ บชน.อีก 510
คนด้วย ดำเนินการสอบที่ จ.นครราชสีมา 22
สนาม
โดยในส่วนของ
จ.นครราชสีมา เจ้าหน้าที่ตำรวจ สามารถควบคุมตัวมาได้ กว่า 30 คน สามารถตรวจพบเครื่องมือสื่อสารได้ในตัว
และถูกทิ้งไว้ตามจะต่าง ๆ ในอาคารกว่า 20 เครื่อง โดยสามารถจับกุม ได้ที่สนามสอบ
ร.ร.สุรนารี อ.เมือง จ.นครราชสีมา จากนั้นในเวลาต่อมา ขยายผลจับถูกจับกุม
นางเตือนใจ พงษ์พันธ์ อายุ 45 ปี อยู่บ้านเลขที่ 555/37 หมู่ 10 ต.โพธิ์
อ.เมืองศรีสะเกษ จ.ศรีสะเกษ ได้พร้อมเงินสดกว่า 10 ล้านบา ซึ่งทำหน้าที่ประสานงานหาผู้ตัวผู้สมัครสอบ
และเก็บรวบรวมเงินทั้งหมดไว้
นอกจากนี้ยังจับกุมนายธนกร
วิเศษ อายุ 36 ปี อยู่บ้านเลขที่ 49 หมู่ 9 ต.หนองไฮ อ.อุทุมพรพิสัย จ.ศรีสะเกษ
ซึ่งอ้างว่าทำหน้าที่ขับรถ และแจกอุปกรณ์สื่อสารให้ผู้สมัครสอบ นาง ศตพร วิเศษ
อายุ 37 ปี ภรรยา นายธนกร ในชั้นจับกุมอ้างว่าไม่รู้เรื่อง
อ้างตามมาช่วยดูแลลูกของนางเตือนใจ ที่ร่วมเดินทางมาด้วย
ส่วนผู้ที่ถูกควบคุมตัวอีก 2 คน คือนายปัญญาศักดิ์ นิลเพียร อายุ 30 ปี
และนายสมชาย แสงทอง อายุ 49 ปี ซึ่งเป็นคนขับรถตู้รับส่งนักเรียนทั้งหมด
ยืนยันไม่มีส่วนรู้เห็นการการทุจริตสอบ
อ้างรับจ้างขับรถตู้รับส่งผู้สมัครสอบทั้งหมดโดยไม่ได้เกี่ยวข้องกับการทุจริตสอบแต่อย่างใด
ก่อนที่จะมีการขยายผลจับกุมผู้ต้องหาได้อีกหลายราย
โดยผู้ต้องหารายสำคัญ
คือ นายดาชัย อุชุโกศลการ อายุ 42 ปี อยู่บ้านเลขที่ 1/8
หมู่ 2 ต.ปงเตา อ.ลำปาง จ.ลำปาง ซึ่งเป็นผู้สมัครนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดลำปาง
และเป็นหัวหน้ากลุ่มพลังลำปาง
ที่ถูกซักทอดจับกุมได้ในวันที่ 12 มิ.ย. ก่อนที่จะถูกส่งตัวมาดำเนินคดีที่
จ.นครราชสีมา และยังถูกควบคุมตัวที่ เรือนจำกลางนครราชสีมา เพื่อรอพิจารณาคดี โดยไม่อนุญาตให้ประกันตัวดังกล่าว
สำหรับความเคลื่อนไหวของพรรคพลังประเทศไทยในพื้นที่
จ.ลำปาง
ขณะนี้ได้เงียบเหงาไม่มีการจัดกิจกรรมหรือออกพบปะประชาชนให้เห็นตามสื่อต่างๆ
ดังเช่นที่ผ่านมา ผู้สื่อข่าวยังได้สอบถามไปยังนายสุทัศน์ ยวนตา
รองหัวหน้าพรรคพลังประเทศไทย ทางโทรศัพท์มือถือถึงความเคลื่อนไหวและกิจกรรมต่างๆของพรรคในขณะนี้
เนื่องจากพรรคพลังประเทศไทยได้ครบรอบ 1 ปีไปเมื่อวันที่ 31 ก.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งนายสุทัศน์
กล่าวว่า ตนยังไม่สะดวกที่จะให้ข้อมูล เนื่องจากเดินทางมาทำธุระที่กรุงเทพฯ
หากเสร็จสิ้นภารกิจแล้วจะติดต่อกลับมาอีกครั้ง
(หนังสือพิมพ์ลานนาโพสต์ฉบับที่ 999 ประจำวันที่ 10 -
16 ตุลาคม 2557)