ที่ความสูง 450 เมตร
จากระดับทะเลปานกลาง ท่ามกลางไม้ใหญ่ขึ้นคลุมหนาแน่น
นี่อาจเป็นเพียงยอดเขาธรรมดาหากไม่มีเสียงไก่ป่าช่วยดึงความสนใจเราให้มองลง
ไปยังหุบด้านล่าง
เมื่อกวาดตามองพื้นที่โดยรอบอย่างถี่ถ้วน
เราก็พบตัวเองยืนอยู่บนขอบปล่องภูเขาไฟดอยผาคอกหินฟูนั่นเอง
กรมทรัพยากรธรณีระบุว่า ปล่องภูเขาไฟดอยผาคอกหินฟูมีลักษณะเป็นปล่อง 2 ปล่องซ้อนกัน ปล่องแรกมีขนาดใหญ่ แต่เนื่องจากมีการปะทุของลาวา 2 ครั้ง จึงทำให้ขอบปล่องเดิมถูกทำลาย เหลือแต่ขอบด้านใต้ โดยเกิดเป็นปล่องเล็กซ้อนขึ้นมา ปล่องเล็กนี้มีลักษณะค่อนข้างสมบูรณ์ แต่ขอบปล่องด้านทิศเหนือเปิดออก ทำให้ลาวาไหลคลุมพื้นที่ราบโดยรอบเกิดเป็นหินบะซอลต์ ปากปล่องมีเส้นผ่านศูนย์กลาง 200 เมตร คลุมพื้นที่ครึ่งตารางกิโลเมตร แต่ในความเป็นจริงก็คือ เมื่อขึ้นมาถึงปากปล่องภูเขาไฟ กลับให้ความรู้สึกไม่ต่างจากการยืนอยู่บนยอดเขา นั่นเพราะในหัวของเราถูกฝังจำด้วยภาพปล่องภูเขาไฟสุดอลังการจากหนังสือเนชั่นแนลจีโอกราฟิก ซึ่งแน่นอนว่าต้องผิดหวัง เนื่องจากปล่องภูเขาไฟบ้านเรานั้น กินพื้นที่กว้างเกินกว่าสายตาจะมองเห็นเป็นวงรอบได้ ทั้งยังมีต้นไม้สูงใหญ่ขึ้นคลุมหนาแน่น การมองจึงต้องอาศัยจินตนาการค่อนข้างสูง

ภูเขาไฟดอยผาคอกจำป่าแดด ถูกค้นพบโดย ดร. เปีย ซอเรนเซน นักโบราณคดีชาวเดนมาร์ก ที่ได้เข้ามาสำรวจและขุดค้นร่องรอยของคนสมัยไพลสโตซีนในพื้นที่ อ.แม่ทะและ อ.แม่เมาะ เขาพบว่า ช่วงดอยผาเกด เขตติดต่อลำปาง-แพร่ เคยเป็นแหล่งต้นน้ำที่ไหลมารวมกับแม่น้ำจาง แต่ถูกลาวาจากภูเขาไฟพ่นทับถมร่องน้ำจนสายน้ำดังกล่าวเปลี่ยนทิศทางไหลไปรวมกับแม่น้ำยมทั้งหมด จึงได้แกะรอยที่มาของลาวาดังกล่าว จนมาพบภูเขาไฟ ซึ่งเห็นได้ชัดเจนจากภาพถ่ายทางอากาศในช่วงฤดูแล้ง
อย่างไรก็ตาม ภูเขาไฟลำปางเกิดจากการเคลื่อนไหวของเปลือกโลก ทำให้เกิดรอยเลื่อนลึกขึ้นในแนวเหนือ-ใต้ เป็นช่องทางให้หินหนืดภายใต้ผิวโลกทะลักล้นออกมาในแนวรอยเลื่อนนี้ เกิดเป็นปล่องภูเขาไฟเรียงตัวกันในแนวนี้ด้วย ไม่ว่าจะเป็นภูเขาไฟดอยผาคอกหินฟู ภูเขาไฟดอยผาคอกจำป่าแดด หรืออีกลูกหนึ่งที่อำเภอเกาะคา ลูกหลังนี้ไม่หลงเหลือความเป็นปล่องภูเขาไฟให้เห็นเลย โดยทั้งหมดมีอายุราว 800,000 ปี

ลองนึกถึงโลกยุคบรรพกาล ความรู้สึกร้อนระอุใต้ฝ่าเท้า
ภาพลาวาแดงฉานหลากไหลลงไปยังภูมิประเทศด้านล่าง บางทีการเที่ยวชมภูเขาไฟเมืองลำปางอาจสนุกได้
(และคงจะดียิ่งขึ้นหากมีป้ายบอกทางที่ชัดเจน รวมถึงป้ายบอกข้อมูลอย่างรอบด้านของภูเขาไฟ)
หมายเหตุ
จากตัวเมือง ภูเขาไฟดอยผาคอกหินฟูจะถึงก่อน
โดยมีป้ายซ้ายมือเขียนไว้ว่า “ภูเขาไฟลำปาง”
จากนั้นเลี้ยวขวาตามป้ายบอกทางไปวัดป่าเวียงสวรรค์ ระยะทาง 3 กิโลเมตร เมื่อถึงวัดให้เลยไปจนสุดถนน จะเห็นลานจอดรถ เดินขึ้นบันไดไปราว 100-200
เมตร ถึงศาลาชมวิวบนปากปล่องภูเขาไฟ ส่วนภูเขาไฟดอยผาคอกจำป่าแดดอยู่เลยไปไม่ไกล
สังเกตป้ายซ้ายมือเขียนไว้ว่า “ภูเขาไฟดอยผาคอกจำป่าแดด 2
กิโลเมตร” จากนั้นเลี้ยวซ้ายเข้าไป
เมื่อถึงทางเข้าจะมีป้ายและซุ้มอยู่ทางซ้ายมือ เดินขึ้นบันไดสูงชันราว 400 เมตร
(หนังสือพิมพ์ลานนาโพสต์ฉบับที่ 999 ประจำวันที่ 10 -
16 ตุลาคม 2557)