อดีตครูผูกคอตาย
ห้อยต่องแต่งกลางสะพาน
ลูกชายมึนไม่ทราบสาเหตุ เพราะก่อนหน้าหนึ่งวันยังมาหาและพูดคุยตามปกติ ตำรวจสันนิษฐานอาจเป็นโรคซึมเศร้า
ตั้งแต่เกษียณราชการก็อาศัยอยู่ตัวคนเดียว
เมื่อเวลา
07.10 น.วันที่ 22 ม.ค.58
พ.ต.ท.สืบสกุล ขุนเพิ่ม พนักงานสอบสวนเวร สภ.เมืองลำปาง
ได้รับแจ้งว่าพบคนผูกคอตายบริเวณสะพานข้ามแม่น้ำวัง เขตบ้านดงไชยพัฒนา
ต.เวียงเหนือ อ.เมือง จ.ลำปาง จึงประสานแพทย์เวร รพ.ลำปาง
และเจ้าหน้าที่กู้ภัยบรรเทาภัย 3 เดินทางไปตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุเป็นสะพานข้ามแม่น้ำสูงประมาณ
9
เมตร บริเวณกลางสะพาน พบรองเท้าถอดวางไว้อย่างเรียบร้อยอยู่บนสะพาน
และพบร่างชายคนหนึ่งใช้เชือกไนล่อนสีเขียวผูกติดกับราวสะพานอีกด้านผูกกับคอ
ตัวเองห้อยลงมาด้านข้างสะพาน
สภาพศพสวมเสื้อยืดสีขาวคลุมทับด้วยแขนยาว และสวมกางเกงขายาวสีกรมท่า
ไม่สวมรองเท้า
บนศีรษะสวมหมวกกันน็อค
ทางเจ้าหน้าที่กู้ภัยจึงได้ช่วยกันนำศพขึ้นมาเพื่อทำการชันสูตร
ในเบื้องต้นไม่พบร่องรอยการต่อสู้ เสียชีวิตมาแล้วไม่เกิน 5 ชั่วโมง
จากการตรวจสอบบริเวณใกล้เคียงพบรถจักรยานยนต์
ยี่ห้อฮอนด้าสแน็คไอสีแดง ทะเบียน 1กก 4282
ลำปาง จอดทิ้งไว้อยู่ที่หัวสะพาน
เมื่อตรวจสอบหาเอกสารในตัวผู้เสียชีวิตพบบัตรประจำตัวประชาชน ใบขับขี่ บัตรข้าราชการครูโรงเรียนเขลางค์นครลำปาง
ทราบชื่อคือ นายสนิท สถาปัตย์ อายุ64ปี บ้านเลขที่ 1382-1383 ถ.ไปรษณีย์ ต.หัวเวียง อ.เมือง จ.ลำปาง หลังเกิดเหตุได้มีนายอรรถ สถาปัตย์ อายุ 32 ปี ลูกชายของผู้ตายเดินทางมาที่เกิดเหตุ โดยให้การว่า นายสนิท
อดีตเคยเป็นครูสอนวิชาเกษตรอยู่ที่โรงเรียนเขลางค์นครลำปาง
และได้เกษียณอายุราชการออกมาอยู่บ้าน ซึ่งพ่อกับแม่ได้แยกกันอยู่มานานแล้ว ไม่ได้มีเหตุจูงใจใดๆให้ฆ่าตัวตาย
จึงไม่ทราบว่าเป็นเพราะสาเหตุใด
ทั้งนี้
ชาวบ้านที่อยู่ในละแวกใกล้เคียงได้เล่าว่า ช่วงเวลา 04.00
น.ได้ยินเสียงผู้หญิงและผู้ชายทะเลาะกันอยู่พักใหญ่ก่อนจะเงียบไป
กระทั่งช่วงเช้ามีชาวบ้านมาพบศพนายสนิทผูกคอตายอยู่กลางสะพานดังกล่าว
ด้าน
พ.ต.ท.สืบสกุล ขุนเพิ่ม พนักงานสอบสวน เปิดเผยว่า หลังเกิดเหตุได้เรียกลูกชายผู้ตายมาทำการสอบถามเพิ่มเติมแล้ว
แต่ก็ยังไม่พบเหตุจูงใจใดๆที่จะทำให้พ่อฆ่าตัวตาย ซึ่งลูกชายเปิดเผยว่าก่อนหน้านี้
1 วัน พ่อได้มาหาที่บ้านและพูดคุยกันตามปกติ
ไม่ได้มีท่าทีพิรุธหรือพูดถึงปัญหาอะไรให้ฟัง
ส่วนกับภรรยาก็แยกกันอยู่นานแล้วแต่ยังไม่ได้หย่ากัน
ภรรยาได้ย้ายกลับไปอยู่บ้านที่ อ.เมืองปาน
ตั้งแต่เกษียณอายุราชการออกมาก็อาศัยอยู่อยู่บ้านเพียงลำพัง ในส่วนประเด็นของการฆาตกรรมนั้นก็ไม่พบความผิดปกติใดๆ
ในที่เกิดเหตุไม่มีร่องรอยการต่อสู้
ตามร่างกายของผู้ตายก็ไม่มีร่องรอยการถูกทำร้ายใดๆ ส่วนกรณีที่มีชาวบ้านได้ยินเสียงผู้หญิงและผู้ชายทะเลาะกันช่วงเช้ามืดนั้น
ได้สอบสวนแล้วทราบว่าเป็นสามีภรรยาที่อาศัยอยู่ในหมู่บ้านริมแม่น้ำวังละแวกนั้น
ซึ่งไม่เกี่ยวข้องการผู้ตายแต่อย่างใด ในเบื้องต้นจึงสันนิษฐานว่า ผู้ตายอาจจะเป็นโรคซึมเศร้า
และมาก่อเหตุฆ่าตัวตายดังกล่าว
(หนังสือพิมพ์ลานนาโพสต์ฉบับที่ 1013 ประจำวันที่ 23 - 29 มกราคม 2558)