สืบสวนเมืองรวบตัว 3 หนุ่มหัวขโมย สารภาพก่อเหตุขโมยร้านพระเครื่องหน้าปั๊มน้ำมัน ปตท.ป่าขาม และฉกของที่บ้านอีกหลายหลัง ได้ของกลางจำนวนมาก ก่อนจะนำตัวยัดห้องขัง
เมื่อวันที่ 28 ก.ค. 58 เจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรเมืองลำปาง อำนวยการโดย พ.ต.อ.นิคม เครือนพรัตน์ ผกก. พ.ต.ท.พินิจ เนตรปัญญา รอง ผกก.สส.นำโดย พ.ต.ต.ประสิทธิ์ หล้าสมศรี สว.สส.พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.เมืองลำปาง ร่วมกันทำการจับกุมตัว นายกำพล ใจน้อย อายุ 28 ปี อยู่บ้านเลขที่ 195 ม. 2 ต.กล้วยแพะ อ.เมืองลำปาง จังหวัดลำปาง นายชำนาญ ดวงน่าน อายุ 40 ปี อยู่บ้านเลขที่ 160 ม. 2 ต.กล้วยแพะ อ.เมืองลำปาง จังหวัดลำปาง และนายสรัญหรือแจ็ค คล้ายกล่ำ อายุ 29 ปี อยู่บ้านเลขที่ 91/1 หมู่ 3 ต.บ้านเป้า อ.เมืองลำปาง จ.ลำปาง โดยกล่าวหาว่า ร่วมกันลักทรัพย์ในเคหะสถานในเวลากลางคืนโดยทำอันตรายสิ่งกีดกั้นสำหรับคุ้มครองบุคคลหรือทรัพย์หรือโดยผ่านสิ่งเช่นว่านั้นเข้าไปด้วยประการใดๆหรือรับของโจร พร้อมของกลาง ประกอบด้วย กล่องพลาสติกใส่พระ จำนวน 4 กล่อง พระเครื่อง จำนวน 3 องค์ บุหรี่ยี่ห้อวันเดอร์แดง บรรจุในกล่องพลาสติกสีขาว จำนวน 16 ซอง 4 กล่องพลาสติกใส่พระ สีขาว จำนวน 3 กล่อง พระเครื่อง จำนวน 7 องค์ พร้อมตรวจยึดพระเครื่องจำนวนประมาณ 550 องค์
โดยก่อนหน้าที่เมื่อวันที่ 24 มิ.ย.58 เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งเหตุลักทรัพย์ที่ร้านอุดมพระเครื่อง ก่อนถึงปั๊มน้ำมัน ปตท.ป่าขาม ต.พระบาท อ.เมืองลำปาง โดยมีคนร้ายงัดเข้ามาในร้านและขโมยพระเครื่องไปกว่า 300 องค์ ต่อมาจากการสืบสวนของเจ้าหน้าที่ ได้นำลายนิ้วมือไปตรวจพิสูจน์พบว่าตรงกับลายนิ้วมือของนายกำพล ใจน้อย อายุ 28 ปี จึงได้ออกหมายเรียกตัวมาทำการสอบสวน กระทั่งนายกำพลรับสารภาพว่าตนเองและนายชำนาญ ดวงน่าน อายุ 40 ปี ได้ขี่รถจักรยานยนต์ฮอนด้าเวฟ สีน้ำเงิน หมายเลขทะเบียน ขร 937 ลำปาง มาจอดข้างแผงพระ และตนได้เข้าไปขโมยพระเครื่องเพียงคนเดียว นายชำนาญนั่งรออยู่ที่รถ จากนั้นได้เอาพระเครื่องมาแบ่งกันที่บ้านนายชำนาญ นอกจากนั้นนายกำพลยังได้รับสารภาพอีกว่า วันที่ 12 ก.ค.58 ทั้งสองได้ก่อเหตุลักทรัพย์ที่ร้านขายของชำ ถ.ลำปาง-แม่ทะ ต.ชมพู และบริเวณบ้านไม่มีเลขที่ ม.4 บ้านศรีหมวดเกล้า ต.ชมพู อ.เมือง จ.ลำปาง ซึ่งพระเครื่องที่ได้มาบางส่วนนำไปแลกยาบ้ากับนายสรัญ คล้ายกล่ำ อายุ 29 ปี พร้อมกับนำเจ้าหน้าที่ไปที่บ้านของนายสรัญ ก็พบพระเครื่องจำนวนหนึ่งอยู่ในห้อง ซึ่งนายสรัญยอมรับว่าพระเครื่องบางส่วนนั้นเป็นพระเครื่องที่นายชำนาญขโมยมาจริง
หลักการสอบสวนบันทึกคำให้การของเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนแล้ว จึงนำตัวพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
(หนังสือพิมพ์ลานนาโพสต์ ฉบับที่ 1039 วันที่ 31 กรกฏาคม - 6 สิงหาคม 2558)
