ชาวบ้านอยู่ติดสนามบินร้อง เดือดร้อนจากการสร้างอาคารสำรองไฟ โดยจุดติดตั้งปล่องลมมีทั้งเสียงและกลิ่นเข้ามาในบ้าน พร้อมทั้งมีถังน้ำมันดีเซลและหม้อแปลงไฟฟ้าแรงสูง ตั้งห่างจากบ้านแค่ 1 เมตร หวั่นเกิดอันตราย ขณะที่ ผอ.ท่าอากาศยานยัน การก่อสร้างทุกอย่างมีวิศวกรรับรองความปลอดภัย ส่วนปัญหาเรื่องเสียงและลม เสนอของบประมาณในปี 59 ก่อสร้างกำแพงป้องกันแล้ว
เมื่อวันที่ 26 ก.ค.58 ชาวบ้านชุมชนสนามบิน ต.พระบาท อ.เมือง จ.ลำปาง ประมาณ 10 หลังคาเรือน ได้นำผู้สื่อข่าวเข้าตรวจสอบบริเวณอาคารสำรองไฟของท่าอากาศยานลำปางที่อยู่ติดกับรั้วบ้านของตนเอง ซึ่งเป็นจุดที่มีการเจาะปล่องลมขนาดใหญ่ รวมทั้งตั้งถังน้ำมันและเสาไฟฟ้าแรงสูงที่มีหม้อแปลงอยู่ด้านบน เนื่องจากชาวบ้านได้รับความเดือดร้อนจากอาคารดังกล่าว เนื่องจากการก่อสร้างไม่ได้มีการสอบถามชาวบ้านที่มีบ้านเรือนอยู่ติดกับสนามบิน จนกระทั่งสร้างเสร็จจึงพบว่าชาวบ้านได้รับความเดือดร้อนทั้งกลิ่นน้ำมันและเสียงที่ดังออกมาจากปล่องของเครื่องสำรองไฟ จนไม่สามารถนอนหลับได้
นางนฤมล ดุสิตโสภณ อายุ 48 ปี อยู่บ้านเลขที่ 230/1 ต.พระบาท อ.เมืองลำปาง ซึ่งเป็นบ้านหลังที่ประสบปัญหามากที่สุด เปิดเผยว่า ทางสนามบินได้ก่อสร้างอาคารสูบน้ำและเก็บเครื่องปั่นไฟฟ้า ทำให้ได้รับความเดือดร้อน จากเสียงลมที่ออกมาจากปล่องระบายซึ่งหันเข้ามาทางบ้านของตน โดยตรง ระหว่างที่เดินเครื่องจะมีเสียงดังมากขนาดที่สามารถกลบเสียงของเครื่องบินได้ และยังมีกลิ่นเหม็นน้ำมัน สารเคมีที่ออกมาจากปล่อง พัดเข้ามาในบ้านของตนเองด้วย ซึ่งบ้านใกล้เคียงก็ได้ยินเสียงดังรบกวน หากมีการเดินเครื่องช่วงกลางคืน ชาวบ้านที่อยู่ใกล้เคียงก็ไม่สามารถนอนหลับได้เลย นอกจากนั้นยังมีการติดตั้งหม้อแปลงไฟฟ้า และสร้างถังน้ำมันดีเซลขนาดใหญ่อยู่ด้านล่างใกล้กับบ้าน ซึ่งมีโอกาสหม้อแปลงระเบิด ใกล้กับถังน้ำมัน เป็นการเสี่ยงอันตรายอย่างมาก เพราะเมื่อสัปดาห์ก่อนก็ได้เกิดหม้อแปลงระเบิดด้านหน้าทางเข้าสนามบิน ดังนั้นในจุดที่ติดตั้งหม้อแปลงติดบ้านของตนก็อาจจะระเบิดได้เช่นกัน นอกจากนั้นยังมีบ้านของตนอีกหลังหนึ่งอยู่ใกล้ๆกัน หลังบ้านมีการสร้างถังเก็บน้ำมีความสูงมาก ซึ่งอาจจะล้มลงมาทับใส่บ้านของตนเมื่อไรก็ได้ จึงรู้สึกว่าชีวิตความเป็นอยู่ไม่มีความปลอดภัยเลย
นางนฤมล กล่าวอีกว่า ตนคิดว่าการก่อสร้างอาคารหลังนี้เป็นการสร้างผิดแบบ เนื่องจากได้มีการแก้ไขเจาะปล่องลมเพิ่มเติม จากตอนแรกไม่มีปล่องลม และการติดตั้งถังน้ำมันก็เพิ่งนำมาติด เคยร้องเรียนไปทางเทศบาลแล้วแต่ก็ไม่มีความคืบหน้าใดๆ ล่าสุดตนได้ยื่นร้องเรียนไปยังศูนย์ดำรงธรรมขอให้เข้ามาช่วยเหลือแล้ว โดยชาวบ้านต้องการให้รื้อถอนสิ่งก่อสร้างต่างๆ ไปติดตั้งในบริเวณอื่นที่ห่างไกลและไม่มีผลกระทบกับบ้านเรือนของประชาชน
นายวราวุฒิ สมบูรณ์ใจ อยู่บ้านเลขที่ 230/2 ต.พระบาท กล่าวว่า ตอนนี้ตนได้สร้างบ้านอยู่ชั่วคราวเพื่อรอที่จะสร้างบ้านหลังใหม่ แต่ปรากฏว่าได้มีการสร้างอาคารของสนามบินมาติดกับหลังบ้านของตน โดยเฉพาะหม้อแปลงไฟฟ้าขนาดใหญ่ รวมทั้งประสบปัญหาเสียงและกลิ่นจากปล่องลมเช่นกัน ทำให้ตนเองต้องหยุดแผนการสร้างบ้านไว้ทั้งหมด โดยได้ขอเลื่อนช่างออกไปก่อน เพราะยังไม่รู้ว่าทางสนามบินจะมีการแก้ปัญหาให้หรือไม่ หากสร้างบ้านไปแล้วยังมีปัญหาอยู่ตนเองก็อยู่ไม่ได้ เพราะมีลูกเล็กๆสองคนที่ต้องดูแล ขนาดผู้ใหญ่ยังทนกับเสียงดังและกลิ่นไม่ได้ แล้วเด็กตัวเล็กๆจะทนได้อย่างไร ซึ่งในเรื่องนี้ตนเองก็ได้ยื่นร้องเรียนด้วยเช่นกันเมื่อวันที่ 22 ก.ค.ที่ผ่านมา โดยแจ้งเรื่องผ่านอินเตอร์เน็ตไปยังการท่าอากาศยานที่กรุงเทพฯ ศูนย์ดำรงธรรม และแจ้งทางเทศบาลนครลำปางด้วย แต่ยังไม่มีการติดต่อกลับมาแม้แต่หน่วยงานเดียว
นางเธียรทอง ประคองวงศ์ อยู่บ้านเลขที่ 230 ต.พระบาท กล่าวว่า บ้านของตนได้รับความเดือดร้อนจากรางน้ำฝนจากอาคารที่ก่อสร้างติดกับบ้านของตน ซึ่งอาคารมีความสูง และรางน้ำฝนได้ล้ำเข้ามาในเขตบ้านตน เมื่อฝนตกก็จะมีน้ำไหลลงมาในเขตรั้วบ้าน และยังมีขี้นกพิราบและเศษต่างๆไหลลงมาด้วย หากหน่วยงานไหนสามารถช่วยเหลือได้ ขอให้เข้ามาช่วยแก้ไขอย่างเร่งด่วน
ด้านนายเรืองยุทธ นิตยานนท์ ผอ.ท่าอากาศยานลำปาง กล่าวว่า อาคารนี้เป็นอาคารเครื่องยนต์กำเนิดไฟฟ้าใช้เลี้ยงอาคารผู้โดยสารหลังใหม่ทั้งหลัง ซึ่งเหตุที่ต้องมาตั้งในจุดนี้เพราะเครื่องปั่นไฟต้องอยู่ใกล้กับอาคารผู้โดยสารมากที่สุด และจะต้องไม่เป็นอุปสรรคกับการใช้อาคารผู้โดยสาร ซึ่งจุดนี้เป็นพื้นที่เหมาะสม ไม่ขวางทางการปฏิบัติงานของรถที่ใช้ในลานจอด อยู่ใกล้อาคาร โดยการออกแบบได้ดำเนินการตาม พ.ร.บ.ควบคุมอาคาร ระยะห่างจากรั้วบ้านข้างเคียงเป็นไปตาม พ.ร.บ. แต่ปัญหาคือ เมื่อเครื่องทำงานจะมีเสียงดังจากปล่องลมระบายความร้อนจากเครื่องปั่นไฟ สำหรับเครื่องนี้ไม่ได้มีการใช้งานทุกวันจะทำงานก็ต่อเมื่อไฟฟ้าดับ แต่ จ.ลำปางก็เอาแน่เอานอนไม่ได้ เพราะไฟจะดับก็ดับ บางครั้งดับทั้งคืน ตนก็เห็นใจชาวบ้านเช่นกัน จากคลิปที่ชาวบ้านได้ร้องเรียนนั้นเป็นการทดลองเครื่องที่มีการเดินเครื่องเต็มกำลัง หากเปิดใช้งานอาคารผู้โดยสารแล้ว และมีไฟดับในตอนกลางคืน เครื่องก็จะทำงานรอบเดินเบา เพราะใช้เลี้ยงไฟส่องสว่างในบางจุดและกล้อง CCTV เท่านั้น เสียงจะไม่ดังเท่าตอนเปิดทดลองเครื่อง ทางผู้รับเหมาจะมีการติดตั้งตัวดูดซับเสียงด้วย ซึ่งก่อนจะเปิดใช้เครื่องอย่างเป็นทางการ คงจะต้องมีการทดลองเครื่องอีกครั้ง คาดว่าประมาณเดือน ส.ค.นี้
(หนังสือพิมพ์ลานนาโพสต์ ฉบับที่ 1039 วันที่ 31 กรกฏาคม - 6 สิงหาคม 2558)