เขื่อนลำปางวิกฤต กิ่วคอหมามีเปอร์เซ็นต์น้ำเหลือน้อยที่สุดในประเทศ ส่งช่วยเหลือได้เพียงเกษตรกรในพื้นที่ อ.แจ้ห่ม ขณะที่เขื่อนกิ่วลมต้องเลี้ยงตัวเอง เหลือน้ำใช้งานได้อีก 20 วัน ผอ.โครงการฯเตรียมเรียกประชุมผู้ใช้น้ำให้รับทราบถึงปัญหา และอาจต้องลดการระบายน้ำลงอีก
สถานการณ์น้ำในสองเขื่อนใหญ่ของ จ.ลำปาง ณ วันที่ 3 ก.ย. 59 พบว่า เขื่อนกิ่วลมมีปริมาณน้ำเหลืออยู่ในอ่าง 26.214 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็น 24.68 เปอร์เซ็นต์ ของความจุอ่างปริมาณ น้ำไหลลงอ่างประมาณ 0.114 ล้านลูกบาศก์เมตร ต่อวัน ปริมาณน้ำที่ระบายลงแม่น้ำวัง 0.329 ล้านลูกบาศก์เมตร ต่อวัน ส่วนเขื่อนกิ่วคอหมา มีปริมาณน้ำในอ่าง 16.350 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็น 9.60 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งถือว่ามีปริมาณน้อยที่สุดตั้งแต่มีการก่อสร้างเขื่อนทั้งสองแห่ง และเป็นความแห้งแล้งในรอบ 20 ปี
นายฤทัย พัชรานุรักษ์ ผู้อำนวยการโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษากิ่วลม-กิ่วคอหมา เปิดเผยว่า สำหรับเขื่อนกิ่วคอหมามีปริมาณน้ำเหลือเพียง 16 ล้านลูกบาศก์เมตร สามารถใช้การได้ 10 ล้านลูกบาศก์เมตร โดยเมื่อช่วงก่อนได้ระบายน้ำไปเสริมให้เขื่อนกิ่วลม เพื่อส่งน้ำให้พื้นที่เขต อ.เมือง อ.ห้างฉัตร และ อ.เกาะคา และพื้นที่ของโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาแม่วังด้วย ฉะนั้นปริมาณน้ำใช้การที่เหลืออยู่ 10 ล้านลูกบาศก์เมตรต้องสำรองไว้ให้พื้นที่ชลประทานของ อ.แจ้ห่ม ประมาณ 10,000 ไร่ อยู่ในช่วงระยะที่ต้นข้าวกำลังตั้งตัวแตกกอ เหลืออีก 2 เดือนจะถึงระยะเวลาเก็บเกี่ยว จึงต้องใช้น้ำในส่วนนี้อีก 8 ล้านลูกบาศก์เมตร อ.แจ้ห่มจึงไม่มีปัญหาเรื่องการขาดแคลนน้ำ ในส่วนของเขื่อนกิ่วลมตอนนี้มีน้ำอยู่ 26 ล้านลูกบาศก์เมตร น้ำใช้การได้ 22 ล้านลูกบาศก์เมตร มีการส่งน้ำออกไปใช้วันละ 1.2 ล้านลูกบาศก์เมตร กรณีถ้ายังไม่มีฝนตกมาเสริม ก็จะสามารถส่งน้ำได้อีก 20 วัน ซึ่งหวังว่าในช่วงนี้จะมีฝนเข้ามาบ้าง ในส่วนของข้าวนาปีจะแก้ปัญหาไปได้ แต่ฤดูแล้งปีหน้าก็ต้องดูแนวโน้มของฤดูฝนก่อน 2-3 เดือน จึงจะวางแผนปลูกพืชได้ แต่คาดว่าอาจจะต้องลดการปลูก หรืองดปลูกในบางพื้นที่ เพื่อเก็บน้ำไว้ช่วยเหลือด้านอุปโภคบริโภค และการประปา
ผอ.โครงการฯ กล่าวอีกว่า ถือว่าปริมาณน้ำในเขื่อนขนาดใหญ่ในประเทศไทย เขื่อนกิ่วคอหมามีเปอร์เซ็นต์ของปริมาณน้ำที่เก็บกักต่ำสุด เนื่องจากน้ำส่วนหนึ่งส่งไปช่วยเติมให้เขื่อนกิ่วลม ถ้าไม่มีเขื่อนกิ่วคอหมา เขื่อนกิ่วลมก็จะเกิดภาวะวิกฤตขาดแคลนน้ำไปนานแล้ว และวันที่ 8 ก.ย.58 นี้ จะมีการประชุมร่วมกับตัวแทนผู้ใช้น้ำเขื่อนกิ่วลมทั้งหมด เพื่อรับทราบสถานการณ์และวางมาตรการประหยัดน้ำขั้นที่ 2 ซึ่งในแผนที่คาดการณ์ไว้ว่าวันที่ 5 ก.ย. 58 จะมีน้ำใช้การเหลือ 10 ล้านลูกบาศก์เมตร แต่ปัจจุบันยังเหลือใช้ได้ 22 ล้านลูกบาศก์เมตร ทำให้ยืดเวลาใช้น้ำออกไปได้ถึงปลายเดือน ก.ย. แต่เพื่อความไม่ประมาท จึงต้องกระตุ้นให้เกษตรกรประหยัดน้ำให้มากขึ้น ลดการสูญเสียน้ำในระบบการส่งน้ำให้มากที่สุด
(หนังสือพิมพ์ลานนาโพสต์ ฉบับที่ 1044 วันที่ 4 - 10 กันยายน 2558)