คณะเทคนิคการแพทย์ ม.เชียงใหม่ ทำวิจัยการถ่ายเลือดช้างได้สำเร็จ ร่วมกับศูนย์อนุรักษ์ช้างไทย คณะสัตวแพทย์ ม.เชียงใหม่ และสัตวแพทย์ ม.เกษตรศาสตร์ ถ่ายเลือดระหว่างผ่าตัดช่วยชีวิตช้างมดลูกทะลักเป็นครั้งแรกของโลก
น.สพ.ดร.สิทธิเดช มหาสาวังกูล ผู้อำนวยการฝ่ายการแพทย์โรงพยาบาลช้าง ศูนย์อนุรักษ์ช้างไทย สถาบันคชบาลแห่งชาติ ในพระอุปถัมภ์ฯ อ.ห้างฉัตร จ.ลำปาง เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 6 ต.ค. 58 ที่ผ่านมา ทางโรงพยาบาลช้างศูนย์อนุรักษ์ช้างไทย ได้ร่วมกับคณะสัตวแพทย์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ รวม 18 คน ทำการผ่าตัดพังโม่ดีพอ ช้างเพศเมีย อายุ 18 ปี จาก อ.ท่าสองยาง จ.ตาก ที่ป่วยด้วยอาการมดลูกทะลักออกมาจากช่องคลอด โดยได้ทำการถ่ายเลือดช้างระหว่างทำการผ่าตัดได้ประสบผลสำเร็จเป็นครั้งแรกของโลก
น.สพ.ดร.สิทธิเดช กล่าวว่า สำหรับช้างพังโม่ดีพอ ทราบว่าหลังจากคลอดลูกได้ประมาณ 1 เดือน เจ้าของได้พาออกไปเดินป่า และพบว่ามีก้อนขนาดใหญ่ทะลักออกมาจากปากช่องคลอด โดยเห็นเป็นมดลูกชัดเจน จึงนำตัวส่งมารักษาที่โรงพยาบาลช้างศูนย์อนุรักษ์ช้างไทย จากการตรวจสอบพบว่าเป็นอาการของมดลูกไม่เข้าอู่ พบได้ในสัตว์ทั่วไป แต่ของพังโม่ดีพอปล่อยไว้นานทำให้มดลูกเน่าและติดเชื้อ โดยปกติถ้าเป็นสัตว์ขนาดเล็ก เช่น สุนัข แมว จะมีการตัดทิ้ง แต่ช้างเป็นสัตว์ขนาดใหญ่ จึงไม่สามารถตัดมดลูกออกได้ เนื่องจากจะเสียเลือดมาก ดังนั้นจึงได้ร่วมหารือกับคณะสัตวแพทย์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ มาช่วยกันวินิจฉัย เห็นว่าต้องทำการผ่าตัดรักษาโดยด่วน ไม่เช่นนั้นช้างจะต้องเสียชีวิตแน่นอน โดยก่อนจะดำเนินการได้มีการแจ้งให้เจ้าของช้างทราบว่าโอกาสรอดมีเพียง 20 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น แต่หากไม่ทำการผ่าตัดช้างก็จะต้องเสียชีวิต เจ้าของช้างก็ยินดีที่จะทำการผ่าตัด โดยใช้สัตวแพทย์ 18 คน และใช้เวลาผ่าตัดนาน 5 ชั่วโมง หลังจากผ่าตัดต้องดูแลช้างอย่างใกล้ชิด เพื่อควบคุมการติดเชื้อให้ได้ ไม่เช่นนั้นช้างก็อาจจะเสียชีวิตได้เช่นกัน จึงได้ให้ยาปฏิชีวนะและสารอาหารเข้าเส้นด้วย อาการช้างจะดีขึ้นหรือไม่นั้นอยู่ที่ความแข็งแรง และการตอบสนองต่อยาของช้างด้วย ต้องดูกันไปอีกระยะยาว 1 เดือนขึ้นไป ขณะนี้ช้างกินอาหารได้ดี
นอกจากนี้ ระหว่างการผ่าตัดช้างได้เสียเลือดมาก จึงพิจารณาถ่ายเลือดช้างจากช้างเพศผู้ ชื่อ สีดอใหญ่ เป็นช้างของศูนย์อนุรักษ์ช้างไทย ช่วยเหลือในการผ่าตัดได้เป็นผลสำเร็จ โดยก่อนจะให้เลือดได้มีการตรวจสอบก่อนว่าเลือดช้างทั้งสองเชือกเข้ากันได้หรือไม่ ซึ่งผลออกมาว่าเข้ากันได้ จึงใช้เลือดในการผ่าตัดไป 500 ซีซี สำหรับการถ่ายเลือดช้าง เป็นการวิจัยของ อ.ปิยนาถ วงศ์จันทร์ คณะเทคนิคการแพทย์มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ได้เข้ามาศึกษาประมาณ 2 ปี ซึ่งยังไม่มีรายงานที่ไหนในโลกว่ามีการถ่ายเลือดช้างได้ การผ่าตัดและถ่ายเลือดช้างครั้งนี้จึงเป็นครั้งแรกของโลก และเป็นงานที่จะช่วยต่อยอดงานวิจัยต่อไปในอนาคต ซึ่งอาจจะมีเหตุการณ์เช่นนี้เกิดใช้อีกก็สามารถนำงานวิจัยนี้มาประยุกต์ใช้ได้
(หนังสือพิมพ์ลานนาโพสต์ ฉบับที่ 1050 วันที่ 16 - 22 ตุลาคม 2558)