วาบความคิด ในการสร้างสนามบินนานาชาติพระนางจามเทวี ที่ห้างฉัตร ปลุกให้คนลำปางอื้ออึง และฝันถึงภาพเมืองใหญ่ที่ผุดพราวขึ้นด้วยตึกราม ห้างร้านทันสมัย จนกระทั่งภาพสนามบินที่ใหญ่โต อลังการขนาดสนามบินสุวรรณภูมิ
และแน่นอนหากสนามบินนี้เกิดขึ้น สนามบินนานาชาติเชียงใหม่จะเล็กลงไปถนัดตา
ยังไม่มีหลักฐานมากพอที่จะบอกว่า มีการกว้านซื้อที่ดินจากนักลงทุนต่างถิ่น เพื่อรอเก็งกำไร เมื่อสนามบินนี้มาถึง แต่กับคนลำปาง ความฝันคงติดปีกไปรออยู่ข้างหน้าแล้ว ทั้งที่กว่าสนามบินพระนางจามเทวีจะเป็นรูปเป็นร่าง คงต้องรอนานหลายสิบปี ไม่ต่างไปจากโครงการสนามบินหนองงูเห่า ที่เปลี่ยนรัฐบาลมาไม่ต่ำกว่า 10 ชุด กว่าจะเห็นสุวรรณภูมิ
ถึงแม้ว่า ในขั้นเตรียมการสร้างสนามบินจะดูจริงจังเช่นนี้
ที่ประชุมคณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชนเพื่อแก้ไขปัญหาทางเศรษฐกิจ (กรอ.) กลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน 1 (เชียงใหม่ ลำพูน ลำปาง แม่ฮ่องสอน) เมื่อ 18 ธันวาคมปีก่อน ได้พิจารณาประเด็นสำคัญ คือ โครงการศึกษาและออกแบบเบื้องต้นสนามบินนานาชาติพระนางจามเทวี
ข่าวจาก ประชาชาติธุรกิจ บอกว่า สนามบินพระนางจามเทวี จะเป็นศูนย์กลางการบินนานาชาติในภาคเหนือ ซึ่งจะต้องสำรวจศึกษาออกแบบด้วยงบประมาณราว 130 ล้านบาท และมีการประเมินว่าจะลงทุนไม่น้อยกว่า 3,000 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือราว 90,000 ล้านบาท
รูปแบบในการศึกษาความเหมาะสมและออกแบบ มีความเป็นไปได้ใน 2 แนวทาง คือ 1.ภาคเอกชนเป็นผู้ศึกษา 2.ภาครัฐเป็นผู้ศึกษา ทั้งนี้จังหวัดลำปางได้รับการประสานงานจากกลุ่มธุรกิจเอกชนที่รวมตัวกันในนาม ASEAN Air-port Solution Consortium ที่สนใจลงทุนในโครงการนี้ ประกอบด้วย บริษัท JK&D International จำกัด ของฮ่องกง บริษัท JK Telecom จำกัด บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) และบริษัท JK&D International จำกัด
ขณะที่บริษัท JK&D International จำกัด จะเป็นผู้สนับสนุนทางการเงินดังนี้คือ 1.ศึกษาความเหมาะสมความเป็นไปได้ในการพัฒนาให้สนามบินนานาชาติพระนางจามเทวีเพื่อเป็นศูนย์กลางการบินภาคเหนือตอนบน2.ออกแบบเบื้องต้นสนามบินเพื่อรองรับการเป็นศูนย์กลางการบิน3.ศึกษาและออกแบบระบบแอร์พอร์ตลิงก์เชื่อมกับจังหวัดลำพูนเชียงใหม่ และลำปาง รวมงบประมาณในการศึกษาทั้งหมดราว 130 ล้านบาท
หลังจากผลการศึกษามีความเป็นไปได้และเห็นชอบจากรัฐบาลแล้ว ทางกลุ่ม ASEAN Airport Solution Consortium จะขอเสนอตัวดำเนินโครงการลงทุนพัฒนาสนามบินนานาชาติพระนางจามเทวีในรูปแบบ PPP Program (Public-Private Partnership) โดยบริษัท JK&D International จำกัด โดยได้ทำหนังสือถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เมื่อเดือนกันยายน 2558 ว่า สนใจที่จะดำเนินโครงการสนามบินและโครงสร้างพื้นฐาน ในลักษณะ PPP ในประเทศไทย
JK&D มีประสบการณ์ในด้านการเป็นที่ปรึกษาในระดับรัฐบาลที่จะดำเนินโครงการโครงสร้างพื้นฐานระดับใหญ่ เช่น สนามบินและรถไฟที่ประเทศคาซัคสถาน และสนามบินใหม่ในเซอร์เบีย
เป็นข่าวน่ายินดีสำหรับคนลำปาง และคงไม่เสียหายอะไรถ้าจะวาดฝันในวันที่มีสนามบินขนาดใหญ่แห่งใหม่ที่ห้างฉัตร แต่ในฐานะคนนอกลำปาง ผมเห็นว่า สนามบินลำปางที่สร้างและขยายพื้นที่ใหญ่โต ด้วยสถาปัตยกรรมที่สะท้อนความเป็นล้านนาของลำปาง เป็นของดีมีอยู่ที่ควรสนับสนุน และภาคภูมิใจได้
สนามบินลำปางเป็นสนามบินภายในประเทศที่มีผู้โดยสารมากเป็นอันดับที่ 21 ของประเทศ ถ้าดูสถิติผู้โดยสารจากปี 2553 จำนวน 18,574 คน เพิ่มมาเป็น 261,428 คน ในปี 2558 ด้วยสายการบินสองสาย เรียกว่า มีอนาคต เทียบกับสนามบินแม่ฮ่องสอน สนามบินปาย จำนวนผู้โดยสารลดลง ในห้วงระยะเวลา 5 ปี
ก่อนนึกถึงสนามบินจามเทวี คิดถึงสนามบินลำปาง ที่ไม่ว่ายามหลับหรือตื่น ก็ฝันถึงและสัมผัสได้
(หนังสือพิมพ์ลานนาโพสต์ ฉบับที่ 1065 วันที่ 5 - 11 กุมภาพันธ์ 2559)