วันจันทร์ที่ 21 มีนาคม พ.ศ. 2559

แจ้ซ้อน 2 ที่ฟุกุโอกะ

จำนวนผู้เข้าชม URL Counter

านปีจะมีโอกาสไปเยือนแดนอาทิตย์อุทัยสักครั้ง แต่ทุกครั้งที่ไปที่นั่นไม่เคยเปลี่ยนแปลง บ้านเมืองสะอาดสะอ้าน ผู้คนมีระเบียบวินัย สำคัญคือหาคนยากคนจนยากยิ่ง ไม่มีกระต๊อบ ไม่มีกระท่อมปลายนา ไม่มีคนจรจัด มีแต่บ้านเรือนปลูกสร้างสวยงาม เป็นระเบียบ
           
อีกลำธารน้ำใสทุกหนแห่ง มีปลาคาร์ฟสีสวยสดว่ายเล่นอยู่ เป็นเครื่องมือชี้วัดถึงคุณภาพน้ำที่ใส สะอาด
           
คราวนี้ไปที่ฟุกุโอกะ เมืองบนเกาะคิวชูทางใต้ของประเทศ เมืองที่ไม่ใช่แหล่งท่องเที่ยวยอดฮิตเช่น โตเกียว เกียวโต นางาซากิ  แต่ก็มีเสน่ห์ดึงดูดนักท่องเที่ยวพอสมควร โดยเฉพาะบ่อน้ำพุร้อนที่เมืองเบปปุ เมืองที่เต็มไปด้วยควันสีขาวพวยพุ่ง ไม่ต่างไปจากแจ้ซ้อนบ้านเรา
           
แต่น้ำพุร้อนที่เบปปุ อุณหภูมิสูงลิ่ว จนไม่สามารถไปแช่ตัวสบายใจเช่นที่แจ้ซ้อนได้ ในขณะที่ไข่ไก่ก็สุกรวดเร็วเพียงแช่ลงไปไม่กี่วินาที
           
น้ำร้อนปรอทแตก แต่ความหนาวเหน็บบนผืนดินก็หนักหน่วงไม่แพ้กัน
           
แม้การเดินทางครั้งนี้ “ม้าสีหมอก” จะไปในห้วงเวลาฤดูใบไม้ผลิ อากาศควรอบอุ่นขึ้น หลังจากหนาวมายาวนาน แต่ความหนาว องศาเซลเซียส ยังคงบอกคนที่ไม่เคยคุ้นกับความหนาวจากเมืองไทยว่า นี่ยังคงเป็นเหมันต์ฤดู ที่คนไร้คู่ยังสั่นสะท้าน
           
ถึงกระนั้น ต้นไม้ ดอกไม้ก็เริ่มผลิใบสีเขียว ดอกซากุระบานสะพรั่ง ดอกท้อละลานตา
           
หมุดหมายสำคัญของการเดินทางครั้งนี้ อยู่ที่เบปปุ เมืองบนชายฝั่งทะเลตะวันออกของเกาะคิวชู เป็นเมืองหลวงของบ่อน้ำพุร้อนธรรมชาติ หรือ Onsen หรือ Hot Springs มีแหล่งน้ำแร่กระจายอยู่ทั่วเมือง ควันสีขาวพวยพุ่งขึ้นมาจากหลายหลังคาบ้าน คล้ายเป็นเมืองในหมอก
           
ควันสีขาวที่พวยพุ่งขึ้นมานี้ อุณหภูมิเฉียด 100 องศาเซลเซียส ต้มไข่สุกได้เพียงไม่กี่วินาที เป็นคล้ายลายเซ็นต์ของเบปปุ เมืองที่ใต้ผืนดินอุดมไปด้วยบ่อน้ำพุร้อน
           
นี่คือบ่อน้ำพุร้อน Jigoku Meguri หรือบ่อน้ำพุร้อนขุมนรกทั้งแปด เกิดจากการระเบิดของภูเขาไฟ เมื่อ 1,200 ปีก่อน
           
เมื่อพูดถึงออนเซ็น นั่นย่อมหมายถึงการปลดเปลื้องเสื้อผ้าอาภรณ์ ลงแช่ในน้ำแร่ร้อนขนาดพอทน อย่างไม่ต้องปกปิดใดๆ ที่เบบปุ มีบ่อน้ำแร่ที่อยู่ภายใน และบ่อน้ำแร่บนดาดฟ้าโรงแรม ให้นอนแช่ทักทายดวงดาวยามค่ำคืน
           
คนญี่ปุ่นเชื่อว่า น้ำแร่ช่วยรักษาสุขภาพ ร่างกายในด้านต่างๆ เช่น รักษาโรคไขข้อ ปวดกล้ามเนื้อ รักษาผิวพรรณ
           
นอกจากออนเซ็น แล้วยังมีออนเซ็นในรูปแบบอบทรายร้อน ในทรายร้อนนั้นอุดมไปด้วยแร่ธาตุ ทำให้เลือดลมหมุนเวียนดี การอบทรายร้อนจะต้องเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นชุดยูดาตะก่อน คือชุดแบบญี่ปุ่น ผู้ชายซ้ายทับขวา ผู้หญิงขวาทับซ้าย จากนั้นลงไปฝังตัวอยู่ในทรายประมาณ 10 -15 นาที
           
เสร็จจากออนเซ็นทั้งน้ำแร่ และทรายร้อนแล้ว ก็ถึงเวลาปุฟเฟต์ขาปูยักษ์ ปลาดิบ ผักดอง วาซิบิขยี้ลงไปในซอสหวาน สลับกับชาเขียวร้อนสายพันธุ์ญี่ปุ่น ในห้วงเวลาหนึ่งของชีวิตก็นับว่าฟินแล้ว ก่อนกลับมาวุ่นวาย สับสนกับชีวิตในเมืองไทยอีกครั้ง
          
ซาโยนาระ ..ฟุกุโอกะ 

(หนังสือพิมพ์ลานนาโพสต์  ฉบับที่ 1071 วันที่ 18 - 24  มีนาคม 2559)
Share:

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

18 ปี ลานนาโพสต์

โครงการปั้นดาว

โครงการปั้นดาว
ขับเคลื่อนโดย Blogger.

จำนวนการดูหน้าเว็บรวม

สถิติการเข้าชมเว็บไซต์