ผอ.โครงการฯยันน้ำสองเขื่อนพอรับหน้าแล้ง ด้าน กฟผ.มีผลิตไฟฟ้าได้ถึงเดือน ก.ค. ยังไม่กระทบ เผยหากต้องหยุดการผลิตยังมีไฟฟ้าสำรองที่ซื้อจากโรงไฟฟ้าหงสา
นายฤทัย พัชรานุรักษ์ ผอ.โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษากิ่วลม-กิ่วคอหมา เปิดเผยว่า ตอนนี้สถานการณ์น้ำยังปกติ ปริมาณน้ำยังทรงตัว น้ำใช้เพื่อการอุปโภคบริโภคไม่มีปัญหา เกษตรกรให้ความร่วมมือดีในเรื่องการงดปลูกพืชฤดูแล้ง ทำให้ไม่มีปริมาณน้ำที่ต้องส่งใช้เพื่อการเกษตร และกันน้ำไว้สำหรับอุปโภคบริโภค และรักษาระบบนิเวศในช่วงฤดูแล้ง 5 เดือนได้
ปัจจุบันเขื่อนกิ่วลมมีน้ำอยู่ 28 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็น 26 เปอร์เซ็นต์ เขื่อนกิ่วคอหมามี 24 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็น 14 เปอร์เซ็นต์ ทั้งสองเขื่อนรวมกันมีน้ำ 52 ล้านลูกบาศก์เมตร เป็นน้ำใช้การได้อยู่ 42 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็น 16 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งพอเพียงสำหรับการอุปโภคบริโภคในช่วงฤดูแล้งต่อไปอีก 5 เดือน สามารถใช้น้ำได้ตลอดไปจนถึงฤดูฝนช่วงสิ้นเดือนกรกฎาคม จากนั้นเมื่อเข้าสู่ฤดูฝนก็คงไม่มีปัญหา คาดว่าฝนจะมาตามฤดูกาล ฉะนั้นในเรื่องการวางแผนบริหารจัดการน้ำให้สอดคล้องกับน้ำต้นทุนที่มีสำหรับเขื่อนกิ่วลม-กิ่วคอหมา ทำให้ไม่ได้รับผลกระทบจากปัญหาขาดแคลนน้ำ เนื่องจากเกษตรกรให้ความร่วมมืออย่างดี แต่ทั้งนี้ได้รณรงค์ให้ประหยัดการใช้น้ำ และส่งน้ำโดยประหยัด เพราะต้องสำรองน้ำส่วนหนึ่งไว้ในช่วงปลูกข้าวนาปีให้ได้มากที่สุด เพราะเกษตรกรไม่ได้เพาะปลูกพืชฤดูแล้ง 1 ฤดู แต่ขอว่าจะต้องปลูกข้าวนาปี ซึ่งช่วงต้นฤดูเตรียมแปลงจะต้องใช้น้ำมาก โดยต้องอาศัยน้ำจากเขื่อนไปช่วย จึงต้องประหยัดน้ำส่วนที่เหลือให้เกษตรกรเตรียมแปลงช่วงนาปี ไม่ให้เกิดผลกระทบเหมือนช่วงต้นฤดูฝนปีที่แล้ว
นายฤทัย กล่าวต่อไปว่า ปีนี้ก็จะต้องดูปริมาณน้ำช่วงต้นฤดูฝนอีกครั้ง โดยกำหนดแผนส่งน้ำให้ข้าวนาปีวันที่ 25 มิถุนายน ก่อนวันที่ 25 จะต้องดูปริมาณน้ำอีกครั้งว่ามีน้ำเข้าเขื่อนมากน้อยเพียงใด เพื่อกำหนดแผนการส่งน้ำให้เกษตรกร ถ้ามีน้ำสำรองไว้เพียงพอก็จะทำนาได้ตามปกติ แต่ถ้าน้ำสำรองไว้ต่ำกว่า 80 ล้านลูกบาศก์เมตร ก็อาจจะต้องกำหนดรอบเวรการส่งน้ำ โดยให้บางพื้นที่ชะลอการส่งน้ำไปก่อน ส่วนน้ำใช้เพื่อการประปา ได้ทำแผนการส่งน้ำให้ประปามาตั้งแต่ 1 ธันวาคม 58 ถึง 30 เมษายน 59 ซึ่งเป็นไปตามแผนการบริโภคน้ำประปาไม่มีปัญหา สามารถกันน้ำให้ประปาไปได้ถึงเดือนกรกฎาคม จนเข้าสู่ช่วงฤดูฝน สำหรับการท่องเที่ยวไม่มีปัญหา ทางการล่องเรือแพยังล่องได้ตามปกติ เพราะรักษาระดับน้ำไว้ที่สันเขื่อน
ด้านการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย แม่เมาะ ได้เปิดเผยถึงสถานการณ์น้ำของ กฟผ.แม่เมาะ พร้อมทั้งแนวทางการบริหารจัดการน้ำในภาวะภัยแล้ง โดยนายชัยพร ไพฑูรย์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายการผลิตโรงไฟฟ้าแม่เมาะ เปิดเผยว่า ปริมาณน้ำ ณ วันที่ 2 มี.ค.59 อ่างแม่จางเหลืออยู่ 18 ล้านลูกบาศก์เมตร ส่วนอ่างแม่ขามมีอยู่ 6 ล้านลูกบาศก์เมตร รวม 24 ล้านลูกบาศก์เมตร กฟผ.แม่เมาะ ใช้น้ำเดือนละ 4 ล้านลูกบาศก์เมตรในการผลิตไฟฟ้า จึงสามารถใช้น้ำไปได้อีก 6 เดือน เป้าหมายคือใช้ไปจนถึง 31 ก.ค.59 กรณีหากจะต้องหยุดการเดินเครื่อง เรายังมีแหล่งไฟฟ้าจากหงสา ประเทศลาว ที่ส่งมาให้ใช้ในประเทศไทยได้
นอกจากนั้น กฟผ.ยังมีอ่างเก็บน้ำที่ส่งน้ำให้กับชุมชนหลายแห่งด้วยกัน ประกอบด้วย ฝายท่าสี บริหารงานโดยชุมชน มีปริมาณน้ำเหลืออยู่ 6 แสนลูกบาศก์เมตร อ่างเก็บน้ำห้วยหลวง คงเหลือน้ำ 2.5 ล้านลูกบาศก์เมตร ส่งให้ ต.บ้านดง อ.แม่เมาะ อ่างเก็บน้ำห้วยคิงตอนบน คงเหลือน้ำ 4 แสนลูกบาศก์เมตร ส่งให้การประปา ต.แม่เมาะ และ อ.แม่เมาะ 6 หมู่บ้าน อ่างห้วยคิงตอนล่าง คงเหลือน้ำ 3 แสนลูกบาศก์เมตร ส่งให้ประปา บ้านปงชัย ต.แม่เมาะ และประปาบ้านพัก ซึ่งยังคงมีน้ำเพียงพอใช้สำหรับการอุปโภคบริโภค แต่ยังคงไม่สามารถใช้ในการเกษตรที่ใช้น้ำเยอะได้
(หนังสือพิมพ์ลานนาโพสต์ ฉบับที่ 1069 วันที่ 4 - 10 มีนาคม 2559)
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น