
แม่ทัพภาค 3 ลั่น ข้าราชการ ผู้นำท้องถิ่นทำผิดโทษหนักกว่าบุคคลอื่น หากพบดำเนินการเด็ดขาด ขณะที่ผู้ว่าฯบุกเข้าตรวจยึดพื้นที่ถูกรุกป่า พบผู้มีอิทธิพลเกี่ยวข้อง เข้าแผ้วถางป่าอย่างไม่เกรงกลัวกฎหมาย เบื้องต้นพบการกระทำผิดจริงแต่ไม่มีหลักฐานโยงไปถึงตัวการ
จากกรณีเมื่อวันที่ 11 เม.ย.59 นายสามารถ ลอยฟ้า ผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง พร้อมด้วยนายธนารัฐ สายเทพ ป้องกันจังหวัดลำปาง พร้อมด้วยปลัดอำเภอแจ้ห่ม ฝ่ายปกครอง อ.แจ้ห่ม ทหารจากค่ายประตูผา และ ชป.ในพื้นที่ อ.แจ้ห่ม เจ้าหน้าที่หน่วยป้องกันและรักษาป่าที่ ลป.36 (ไผ่งาม) เข้าตรวจสอบพื้นที่บริเวณท้ายอ่างเก็บน้ำเขื่อนกิ่วลม เขตบ้านสาแพะ หมู่ 3 ต.บ้านสา อ.แจ้ห่ม จ.ลำปาง ซึ่งพื้นที่ดังกล่าวอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าแม่ตา-แม่มาย หลังได้รับการร้องเรียนว่ามีการแผ้วถางป่า ตัดไม้ทำลายป่าจนเหี้ยน และได้เผาพื้นที่เป็นบริเวณกว้าง
พบว่าป่าไม้ในพื้นที่ดังกล่าวที่เคยอุดมสมบูรณ์กลับมีสภาพเป็นเขาหัวโล้น มีการเผาป่าตัดไม้ทำลายป่าเป็นบริเวณกว้าง สาเหตุมาจากสภาพความแห้งแล้ง ทำให้ระดับแห้งขอด จนทำให้กลุ่มมอดไม้เข้ามาตัดไม้และชักลากออกนอกพื้นที่ ทำเป็นล่ำเป็นสัน โดยไม่เกรงกลัวกฎหมาย เพราะมีผู้มีอิทธิพลในพื้นที่ให้การหนุนหลัง และเป็นคนสั่งการในเรื่องตัดไม้ทำลายป่า
ผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง ได้สั่งการให้ทางอำเภอและเจ้าหน้าที่ป่าไม้ ทหาร ตรวจยึดไม้ท่อนที่ถูกตัดทิ้งไว้กระจัดกระจายไปทั่วมากว่า 50 ท่อนไปเก็บรักษาที่หน่วยป่าไม้ พร้อมให้ไปแจ้งความ ดำเนินคดีกล่าวโทษแก่ผู้ที่เข้ามารุกป่าในครั้งนี้ และปักป้ายห้ามรุกป่าและมีการดำเนินคดีให้ถึงที่สุด

ทั้งนี้ แหล่งข่าวระบุว่าผู้มีอิทธิพลดังกล่าว มีตำแหน่งเป็นถึงนายกเทศมนตรีแห่งหนึ่งใน จ.ลำปาง พบว่าเคยใช้รถของหน่วยงานมาขนไม้เถื่อนแล้วครั้งหนึ่ง แต่ก็อ้างว่ารถผ่านมาเจอจึงเข้าไปช่วยเหลือเท่านั้น อย่างไรก็ตามขณะนี้ ทางผู้ว่าราชการจังหวัดได้รายงานไปยังแม่ทัพภาค 3 แล้ว อยู่ระหว่างรอคำสั่งว่าจะดำเนินการอย่างไร
วันที่ 20 เม.ย.59 พล.ท.สมศักดิ์ นิลบรรเจิดกุล แม่ทัพภาคที่ 3 เดินทางมาเป็นประธานเปิดการประชุมเชิงปฏิบัติการเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการประเมินผลตามแผนแม่บทด้านป่าไม้ ของศูนย์ประสานการปฏิบัติที่ 4 กอ.รมน.ที่โรงแรมลำปางเวียงทอง จ.ลำปาง
พล.ท.สมศักดิ์ นิลบรรเจิดกุล แม่ทัพภาคที่ 3 กล่าวว่า ทุกจังหวัดของพื้นที่ภาคเหนือ ปัจจุบันมีการปฏิบัติตามแผนแม่บทพิทักษ์ทรัพยากรป่าไม้ เป็นแผนห้วยระยะเวลา 10 ปี เน้นหนักไปในเรื่องการดูแลบุกรุกทรัพยากรธรรมชาติและป่าไม้ และปลูกป่าฟื้นฟู ซึ่งได้มีการประชุมเจ้าหน้าที่ส่วนที่เกี่ยวข้องเพื่อวิเคราะห์ประเมินผลในการปฏิบัติงานต่างๆที่ผ่านมา และนำมาเป็นข้อมูลแนวทางให้การปฏิบัติเพื่อป้องกันการบุกรุกทรัพยากรป่าไม้
กรณีมีข้าราชการและผู้นำท้องถิ่นเข้าไปเกี่ยวข้อง หรือไม่ว่าจะเป็นใครก็แล้วแต่ที่ทำผิดกฎหมาย ก็ต้องถูกดำเนินการตามกฎหมาย ยิ่งเป็นเจ้าหน้าที่หรือข้าราชการจะต้องโดนหนักกว่าประชาชนทั่วไป ทั้งโทษทางวินัยและโทษทางปกครอง แม่ทัพภาค 3 กล่าว

(หนังสือพิมพ์ลานนาโพสต์ ฉบับที่ 1075 วันที่ 22 - 28 เมษายน 2559)
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น